Home
|
ภูมิภาค

ปทุมฯของดออกจากบ้านหลัง3ทุ่ม-กักตัวนศ.อินเดีย

Featured Image
ปทุมธานี สั่งกักตัว นศ.ชาวอินเดีย เป็นเวลา1 เดือน พร้อมยกมาตรการป้องกัน โควิด19 เทียบเท่า กทม.  ขอความร่วมมืองดออกจากบ้าน 21:00-04:00น. มีผล 27เม.ย.

นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง นายปวีณวัช ปาระมีศรี ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอคลองหลวง พ.ต.ท.เศกสรรค์ บัวเรือง รองผกก.ป.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอคลองหลวง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลเมืองท่าโขลงพร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องได้เข้าประชุมเกี่ยวกับการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19 แพร่ระบาดที่ห้องประชุมภายในสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย(AIT) ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีนายวันชัย โสภณสกุลรัตน์ ผอ.สำนักจัดการทรัพย์สินและสาธารณูปโภคของAITเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

ด้านนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง กล่าวว่าวันนี้ทางด้านอำเภอคลองหลวงพร้อมหน่วงงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขและการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19 ระบาดภายในประเทศวันนี้

ปทุมธานี-กักตัวนศ.อินเดีย--1

ซึ่งทางอำเภอคลองหลวงได้ทราบว่ามีนักศึกษาจากประเทศอินเดีย เข้ามากักตัวอยู่ในสถาบัน AIT เป็นเวลา 10 วัน ตามที่ ตม.ได้สั่งลงมาซึ่งทางด้านศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคอำเภอคลองหลวง และศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคเทศบาลเมืองท่าโขลง ก็ใช้อำนาจให้นักศึกษาที่มาจากประเทศอินเดียกักตัวเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด19

ซึ่งอาจจะเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์ตามที่ประชาชนเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้ประชาชนพี่น้องได้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ราชการได้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดออกไปอย่างเช่นทุกวันนี้

 

 

ผู้ว่าฯปทุมธานี ยกมาตรการโควิด19 เทียบเท่า กทม.

ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เปิดจวนผู้ว่าฯให้เป็นครัวทำอาหารช่วยเหลือแพทย์และบุคลาการทางการแพทย์รวมถึงคนไข้โควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

พร้อมยกมาตรการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ให้เท่ากรุงเทพมหานคร เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยวันที่ 23 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 41 ราย , วันที่ 24 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 58 ราย และ วันที่ 25 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 57 ราย

ดังนั้น นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จึงประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อออกคำสั่งจังหวัดปทุมธานี 3927/2564 ให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด มีคำสั่งให้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ดังนี้

-ขอความร่วมมือประชาชนงดนอกออกนอกเคหสถานหรือที่พำนัก หลังเวลา 21.00 น.จนถึงเวลา 04.00 น.ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ,

-ให้งดการรวมกลุ่มดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกสถานที่ เว้นแต่การดื่มของสมาชิกภายในครอบครัวภายในที่พักอาศัย

-ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใดๆ

สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรืออยู่รวมกันของคนหมู่มาก ต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้งตลอดเวลา

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคในข้อนี้ ให้ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ขอความร่วมมือให้มีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) สลับวันทำงานให้เหมาะสม และให้งดการทานอาหารร่วมกันเป็นหมู่คณะ ทั้งนี้ ให้ยังคงปิดสถานที่ต่างๆ เป็นการชั่วคราว ห้ามจัดกิจกรรม และมาตรการควบคุมที่จำเป็นตามที่มีคำสั่งไว้ก่อนหน้านี้ไว้เช่นเดิม

 

ผู้ว่าฯปทุม ขอความร่วมมืองดออกจากบ้าน 21:00-04:00น. มีผลพรุ่งนี้(27เม.ย.)

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ออกคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวและกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันเพิ่มเติม ป้องกันการเเพร่กระจายของโควิด-19 พร้อมทัเงกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม

คือ(1) ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใด ๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรืออยู่รวมกันของคนหมู่มาก ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง ตลอดเวลาผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
(2) ให้ประชาชนงดการรวมกลุ่มดื่มหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกสถานที่ เว้นแต่การดื่มของสมาชิกภายในครอบครัวภายในที่พักอาศัยเท่านั้น

การขอความร่วมมือประชาชน ภาครัฐและภาคเอกชน ดังนี้(1) งดออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักภายหลังเวลา 21.00-04.00 น.ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้(2) จัดให้มีการดำเนินการรูปแบบปฏิบัติงานของบุคลากรในความรับผิดชอบโดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) การสลับวันทำงาน หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยง จากการติด หรืองดการรับประทานร่วมกันเป็นหมู่คณะ

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุ กไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ผู้ว่าฯพร้อมนายก อบจ. เดินหน้าตั้ง รพ.สนาม 3 แห่ง เตรียมรับคนไข้โควิด พักฟื้นเป็นต้นแบบฝึกให้ดูแลตัวเอง

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 26 เมษายน 2564 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี , พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี , พลอากาศตรีนายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ นายสุพจน์ วงศ์พรหมท้าว รองอธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมนายอำเภอคลองหลวง และนายอำเภอธัญบุรี ร่วมเตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง

ประกอบด้วย 1.อาคารสำนักงานฝึกอบรม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 60 พรรษา กรมพลศึกษา ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เตรียมเตียงรองรับคนไข้จำนวน 140 เตียง 2.ยิมเนเซียม มทร. ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เตรียมเตียงรองรับคนไข้จำนวน 50 เตียง สำรอง 120 เตียง และ 3.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เตรียมเตียงรองรับคนไข้จำนวน 220 เตียง

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมด้านสถานที่โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ สวทช. มทร. และอาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทุกสถานที่มีความเหมาะสม ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ประสานสนับสนุนช่วยเหลือกันอย่างดีมาก เหลือเพียงการจัดเตรียมภายในห้องและการส่งผู้ป่วยเข้าพัก

นอกจากนี้ เรื่องของการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค ทาง อบจ.สมุทรปราการ ได้ส่งรถฉีดพ่นละอองฝอย จำนวน 2 คัน ภายในการประสานงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี นอกจากนี้ พลอากาศตรีนายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวมช่วยเหลือรวมถึงบุคลากรทุกภาคส่วน ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง อว. รวมถึงทาง อบจ.ปทุมธานี ได้มาเสริมในส่วนที่จำเป็นที่จะต้องเสริมเข้าไป

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ครั้งที่ 3 นั้นมีความแตกต่างกันครั้งที่ 1 และ2 ซึ่งตามแผนที่ทำมาทั้งหมดตามที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวไปนั้น ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ซึ่งวันนี้ผมได้รับเกียรติจากท่าน พลอากาศตรีนายแพทย์สันติ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้มาสนับสนุนทุกอย่างโดยเฉพาะเป็นที่ปรึกษา นอกจากนี้ทางนายก อบจ.สมุทรปราการ ได้ส่งรถฉีดพ่นจำนวน 2 คันที่ทันสมัยที่สุดแล้ว

ปทุมธานี ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ

โดยทาง อบจ.ปทุมธานีได้เตรียมนำอุปกรณ์การฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในอาคารเข้ามาฉีดพ่นฆ่าเชื้อในจุดใดก็ตามที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ตัดสินใจเป็นโรงพยาบาลสนาม ทั้งนี้ อบจ.ปทุมธานี พร้อมที่จะสนับสนุน วันนี้ทาง มทร.ได้ประสานขอพัดลมจำนวน 120 เครื่อง ทาง อบจ.ได้รับการสนับสนุนจากโรงงานฮาตาริ จะได้มามาติดตั้งภายในโรงพยาบาลสนาม ได้ใช้ เชื่อว่าหากเป็นไปตามแผนที่ผู้ว่าฯวางไว้คิดว่าเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ได้

นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมการด้านบุคลากรทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือที่โรงพยาบาลสนามนั้น เนื่องจากโรงพยาบาลธัญบุรีที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลสนามนั้นได้รับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก บุคลาการทางการแพทย์จึงมาหน้าที่ดำเนินการภายในโรงพยาบาลอยู่แล้ว จึงได้เตรียมด้านบุคลากรทางการแพทย์เพื่อที่จะมาช่วยภายในโรงพยาบาลสนามนั้นได้ประสานให้โรงพยาบาลชุมชนให้เข้ามาช่วยในการดำเนินการโรงพยาบาลสนามครั้งนี้ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลคลองหลวง โรงพยาบาลหนองเสือ

พลอากาศตรีนายแพทย์สันติ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากทางจังหวัดปทุมธานีกับสถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีความสัมพันธ์อันดี เราคิดว่าโรงพยาบาลสนามที่นี้จะเป็นต้นแบบให้ที่อื่นดูว่าเราเป็นอย่างไร เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมีจุดดี หลายเรื่องตั้งแต่ภูมิอากาศ การสัญจร และความร่วมมือซึ่งกันและกัน ผมว่าเป็นจุดเด่นที่เราจะดูแลคนของเราได้ดีกว่าที่อื่น รวมถึงวินัยของคนเป็นเรื่องสำคัญ โรงพยาบาลสนามตั้งขึ้นมาเท่าไรก็ไม่พอ หากคนเราไม่มีวินัย โรงพยาบาลสนามจะเป็นต้นแบบที่ว่าเราจะเอาคนที่เข้ามาพักฟื้นที่โรงพยาบาลมาฝึกให้เขาได้รู้ว่าการที่อยู่บ้านจะต้องระมัดระวังตัวเองที่บ้านกันอย่างไร

เนื่องจากในอนาคตผมคิดว่าโรงพยาบาลสนาม ตั้งขึ้นมาเท่าไรก็ไม่พอ หากคนไข้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจจะให้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามเพียง 5-10วัน เนื่องจากเราจะฝึกให้เขาไปดูแลตัวเองที่บ้านต่อให้ครบ 14 วัน จุดประสงค์การตั้งโรงยาบาลสนามที่นี้เพื่อฝึกให้เขารู้ว่าเขาควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร นอกจากนี้เราจะฝึกให้คนไข้ที่ยังมีผลบวกให้ช่วยเหลือกัน จึงอยากให้ที่แห่งนี้เป็นต้นแบบในลักษณะนี้

นายสุพจน์ วงศ์พรหมท้าว รองอธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า ทางกรมพลศึกษาได้รับการประสานจากนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ขอใช้พื้นที่เปิด รพ.สนาม เพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19

โดยได้มีการตรวจความพร้อมอยู่หลายจุดซึ่งเราพร้อมให้การสนับสนุน โดยท่านอธิบดีกรมพลศึกษาได้ให้การสนับสนุนทีมงานที่จะปฏิบัติงานให้ความช่วยผู้ป่วย ในส่วนของเตียงนอนผู้ป่วยนั้น ในเบื้องต้น ประมาณ 140 เตียง ถ้ายังไม่เพียงก็ต้องมาดูความเหมาะสมของอาคารสถานที่รวมทั้งความสะดวกสบายของผู้ป่วยอีกด้วย โดยจะให้บริการทุกรูปแบบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยทุกคน.

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube