รพ.ศรีสะเกษ ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 สั่งกักตัวบุคลากรทางการแพทย์-ผู้ป่วยเพียบ
นายแพทย์ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้ลงนามในประกาศโรงพยาบาลศรีสะเกษ เรื่อง อุบัติการณ์ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1(เกิดวันที่ 26-27 เมษายน 2564) ประกาศ ณ วันที่ 28 เมษายน 2564 โดยข้อความในประกาศเปิดเผยว่า เนื่องจากมีอุบัติการณ์ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 โรงพยาบาลศรีสะเกษ คืนวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แผนกฉุกเฉินและแผนกอายุรกรรมชาย 1 รวมถึงผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยท่านอื่น มีความเสี่ยงในการติดเชื้อในระดับต่างกันไป โรงพยาบาลศรีสะเกษ นำโดยท่านผู้อำนวยการ นายแพทย์ชลวิทย์ หลาวทอง ได้ทบทวนอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงเรียนชี้แจงถึงบุคลากร และผู้ใช้บริการทุกท่าน ดังนี้
1. ขณะนี้ผู้ป่วย COVID รายดังกล่าวได้เข้าถึงการรักษาตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องแล้ว
2. แผนกฉุกเฉินซึ่งเป็นสถานที่แรกรับผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ตามหลักการของการป้องกันการติดเชื้อและขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้แล้ว โดยเน้นย้ำหลักการคัดกรอง คัดแยกผู้ป่วยให้รัดกุมขึ้น และยังเน้นหลักการลดความแออัด Social distancing สวมอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสม ล้างมืออย่างเคร่งครัดประกาศโรงพยาบาลศรีสะเกษ ยังเปิดเผยต่อไปว่า
3. ขณะนี้หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 ได้รับการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ตามหลักการป้องกันการติดเชื้อแล้วเช่นกันอย่างไรก็ตามจะไม่รับผู้ป่วยเพิ่มที่หอผู้ป่วยดังกล่าวเป็นเวลาอีก 2 สัปดาห์
4. ผู้ป่วยและญาติท่านอื่นที่ได้รับผลกระทบเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทางโรงพยาบาลมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังดังนี้
-ผู้ป่วยในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 ที่ถูกจัดประเภทเป็นผู้เสี่ยงติดเชื้อสูงรวมถึงญาติที่อยู่เฝ้าและผู้ป่วยเสี่ยงติดเชื้อสูงเนื่องจากสัมผัสผู้ป่วย COVID รายดังกล่าวที่แผนกฉุกเฉิน ให้กักตัวที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 โดยโรงพยาบาลสนับสนุนอาหาร 3 มื้อ และตรวจหาเชื้อ COVID ในวันที่ 1 พ.ค. 64
-ผู้ป่วยในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 ที่ถูกจัดประเภทเป็นผู้เสี่ยงติดเชื้อต่ำ รวมถึงญาติที่อยู่เฝ้าเมื่อกลับบ้าน ให้กักตัวจนครบ 14 วัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news