เชียงใหม่ พบผู้ป่วย โควิด19 เพิ่ม55 ตาย3 สะสม 5 ราย ขณะ โคราชพบติดเชื้อรายใหม่อีก 27 ยอดสะสมพุ่ง 597 รายแล้ว โดยพบในเขตอำเภอเมืองมากสุด
เพจข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ สถานการณ์ โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 1 พ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 55 ราย สะสม 3,630 ราย ผู้เสียชีวิตอีก 3 รวม สะสม 5 ราย รักษาหายแล้ว 1,981 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. 1,644 ราย
โคราชพบติดโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 27 ราย ทำยอดสะสมพุ่ง 597 รายแล้ว โดยพบในเขตอำเภอเมืองมากสุด
นายชาญชัย บุญอยู่รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมและแถลงถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 27 ราย โดยพบในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา 20 ราย ,อ.สีคิ้ว 2 ราย ,อ.เสิงสาง 2 ราย , อ.ครบุรี 1 ราย ,อ.โนนสูง 1 ราย และ อ.ปากช่อง 1 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 27 รายนี้ เกิดจากการสัมผัสผู้ป่วยโควิด19 จำนวน 25 ราย กับเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือที่แออัด 2 ราย รวมมียอดผู้ป่วยสะสมขณะนี้ 597 ราย ซึ่งรักษาหาย 190 ราย ยังรักษา 406ราย และเสียชีวิต 1 ราย เป็นการพบการระบาดในพื้นที่ 27 อำเภอจาก 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา
สำหรับข้อมูลผลการตรวจกับรถชีวนิรภัยพระราชทาน มีการตรวจหาเชื้อรายใหม่ 1,612 ราย รวมยอดสะสมผู้เข้ารับการตรวจ 9,925 ราย ซึ่งไม่พบเชื้อ 9,904 ราย รอผล 1 ราย และพบผู้ติดเชื้อแล้ว 20 ราย ส่วนข้อมูล รพ.สนาม ชาติชายฮอลล์ มีผู้ป่วย 38 ราย แบ่งเป็นชาย 16 ราย หญิง 22 ราย คงเหลือเตียงว่างใน รพ.สนาม จำนวน 62 เตียง
ทั้งนี้ กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา จัดการประชุมผู้บริหารภายในฯ ในห้วงที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 30 คน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ที่ยกระดับมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกำหนดห้ามมีการรวมตัวชุมนุมหรือประชุมกันเกิน 20 คน หากพบใครฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งกรณีดังกล่าว ทางโรงเรียนฯ ได้ส่งตัวแทนมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า เคยเลื่อนการประชุมมาแล้ว 1 ครั้ง และเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัดประชุมผู้บริหารและคณะกรรมการของโรงเรียน เพื่อร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณบริหารเพื่อไม่ให้ล่าช้าและให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงจัดการประชุมขึ้น ซึ่งผู้เข่าร่วมประชุมทุกคนได้ไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด19 ทุกคนแล้ว และผลตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ จะได้พิจารณาโทษตามระเบียบต่อไป
ชัยภูมิเซ่น โควิด19 อีก1 มาจากคลัสเตอร์งานบวช รวม 3ราย พ่อเมืองยกระดับมาตรการเข้มขอให้ความร่วมมือ
นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และโฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ แจ้งมีรายงานด่วนถึงสถานการณ์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงเวลา 08.30 น.วันที่ 1 พ.ค.2564 ว่าวันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันว่ามีการเสียชีวิตเพิ่มอีกเป็นรายที่ 3 ของ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นหญิง อายุ 75 ปี ชาว ต.เจาทอง อ. ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ (เป็นผู้ป่วยมาจากคลัสเตอร์งานบวชที่ อ.หนองบัวแดง)และยังพบผู้คิดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 11 ราย รวมสะสมแล้ว 141 ราย เสียชีวิตเพิ่มรวมเป็น 3 ราย ยังเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์มาจากงานบวช-งานแต่ง ยังพบผู้ติดโควิด-19เพิ่มต่อเนื่องรายวันไม่หยุด
ทั้งยังมาจากกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ไปร่วมงานบวช-งานแต่งเป็นหลัก เพิ่มยอดผู้ป่วยวันนี้ที่ อ.เมืองชัยภูมิ 6 ราย (มาจากคลัสเตอ์งานแต่งที่ อ.บ้านเขว้าอีกจุด แยกเป็น นศ. ราชภัฏ 1ร่วมงานแต่งบ้านเขว้า 3 ไปเยี่ยมลูกที่ กทม. 2 ราย) อ.หนองบัวแดง เพิ่ม 4 ราย มาจากคลัสเตอร์งานบวชในอำเภอหนองบัวแดง อ.คอนสวรรค์ 1 ราย มาจากคลัสเตอร์พื้นที่จังหวัดเสี่ยงอีกด้วย
ขณะที่ ทางนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกประกาศจังหวัดชัยภูมิ เพื่อ ยกมาตรการความปลอดภัยทั้งยังเร่งขอความร่วมมือกับประชาชนชาวชัยภูมิ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องรายวัน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมเป็นรายที่ 3 ของ จ.ชัยภูมิ
จึงขอประกาศใช้มาตรการขอความร่วมมือจากประชาชนชาวชัยภูมิ ทุกพื้นที่ขอให้งดเดินทางออกจากบ้านหรือที่พักเคหะสถาน ในช่วงตั้งแต่เวลาหลัง 23.00 – 04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.- 31 พ.ค.64
ขณะที่จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดชัยภูมิ ของโรงพยาบาลรัฐทั้ง 16 อำเภอ ซึ่งมีเตียงทั้งหมด 366 ว่างอยู่จำนวน 229 เตียง โดยรักษาผู้ป่วยอยู่จำนวน 117 ราย หาย20ราย รวมที่กำลังรักษาอยู่1.Node ชัยภูมิ 56ราย
2. Node แก้งคร้อ10ราย
3.Nodeหนองบัวแดง8ราย
4.Node จัตุรัส22ราย
5. Node ภูเขียว31ราย
และโรงพยาบาลสนามที่สำรองเตียงไว้จำนวน 200 เตียงอีกด้วย
ขอนแก่นยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 10 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม รวม 385 ราย
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้ออีก 10 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 385 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 165 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่มีผู้ที่ติดเชื้ออาการหนักอยู่เกือบ 10 ราย
ซึ่งขณะนี้มีผู้เดินทางที่มาจากพื้นที่เสี่ยงในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทั้งหมด 37,918 คน ซึ่งผ่านการเฝ้าระวังและกักตัว 14 วันไปแล้ว 35,756 คน เหลืออีก 2,162 คน ที่อยู่ระหว่างการกักตัวเฝ้าระวัง 14 วัน ขณะที่ทีมสอบสวนโรคยังคงทำงานเชิงลึก ติดตามคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติที่ประชุมออกประกาศฉบับที่ 36 และ 37 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง 1 ใน 45 จังหวัดทั้งประเทศ
โดยออกประกาศให้ประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่มีประวัติการเดินทางมาจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เชียงใหม่, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ และพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จำนวน 45 จังหวัด ให้ลงทะเบียนรายงานตัวผ่านระบบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก่อนที่จะเดินทางมาถึงจังหวัดขอนแก่นล่วงหน้า 1 วัน หรือลงทะเบียนเมื่อมาถึงที่พักอาศัยในจังหวัดขอนแก่นทันที
พร้อมทั้งให้กัก ตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านห้ามออกไปไหน นับจากวันที่เดินทางออกจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) และพื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) ภายใต้การกำกับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน,ผู้นำชุมชน ,ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่
กาฬสินธุ์โควิดป่วยเพิ่ม 3 เสียชีวิต 1 ยอดสะสมพุ่ง 70 ราย พร้อมเน้นสวมหน้ากากอนามัยช่วงออกจากบ้าน
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ 1 เมษายน 2564 ใน จ.กาฬสินธุ์ วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ผู้ป่วยเดิม 67 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 70 ราย เสียชีวิต 1 ราย และหายป่วยวันนี้ 1 ราย รวมหายป่วยสะสม 14 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ ประกอบด้วย รายที่ 68-70
โดยรายที่ 68 เป็นเพศหญิง อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานขาย ขณะป่วยอาศัยอยู่ที่ ซอยโคกเวียงพัฒนา ซอยคิงส์อพาร์ทเมนท์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด จ.พิจิตร, รายที่ 69 เพศชาย อายุ 18 ปี อาชีพค้าขาย และรายที่ 70 เพศชาย อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง ทั้ง 2 ราย ขณะป่วยอาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีประวัติเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ผู้ป่วยยืนยัน จ.สมุทรปราการ ผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ CDCU ได้ทำการสอบสวนโรคและดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ในส่วนของผู้เสียชีวิต 1 รายนั้น ทางศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.กาฬสินธุ์ ได้รายงานว่า ตามที่ศูนย์ฯแถลงว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการวิกฤต 1 ราย คือ รายที่ 28 เพศชาย อายุ 86 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และปอดอุดกั้นเรื้อรัง รักษาในโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 ต่อมามีภาวะปอดอักเสบและระบบหายใจล้มเหลว จนต้องได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2564 ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักตามลำดับ และได้เสียชีวิตลง ในวันที่ 29 เมษายน 2564
เวลา 21.09 น. แม้ทีมแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จะได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มความสามารถแล้ว ก็ไม่อาจยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ได้ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับครอบครัวผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้อง และขอขอบคุณทีมแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถแล้ว
เพชรบูรณ์ตำรวจรณรงค์ให้ ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่เน้นจับปรับ ไม่อยากซ้ำเติมความเดือดร้อน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดยับยั้งไม่ให้เชื้อเกิดการแพร่กระจาย ทางตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้เร่งรณรงค์โดยการใข้รถสายตรวจประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือประชาชนให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพื่อลดความเสี่ยงในการติดหรือแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
โดย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีกฎหมายใหม่ให้ประชาชนสวมใส่แมสก์ขณะออกจากบ้าน หากฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับ 6,000 บาท แต่หากรับสารภาพก็ลดหลั่นไป ทางตำรวจภูธรจังหวัดและทางผู้ว่าราชการจังหวัดรวมทั้งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ไม่ต้องการซ้ำเติมประชาชนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตกงานกันเยอะ ประกอบกับตำรวจมีเครือข่ายทุกอำเภอ จึงเห็นควรใช้การรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่แมสก์ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกสภ.เร่งรณรงค์ชี้แจงขอความร่วมมือประชาชนให้สวมใส่แมสก์ขณะออกนอกเคหะสถาน
“ผมให้นโยบายไปแล้วว่าจะไม่จับประชาชน เราจะเตือนก่อน นอกจากจะดื้อดึงไม่ฟังและกระทำซ้ำซากก็จะถูกดำเนินคดี และขอให้รณรงค์ไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น”ผู้บังคับการตำรวจภูธรจหวัดเพชรบูรณ์กล่าวย้ำ
พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีการให้ศูนย์ 191 รับช่วยประสานงานแจ้งข้อมูลหรือรับเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานสาธารณสุข เนื่องจากก่อนหน้านี้ประชาชนเกิดความตกใจพากันแจ้งให้ข้อมูลไปยัง 1669 กรณีผู้มาจากจังหวัดเสี่ยงและไม่ยอมกัก แต่เนื่องจากจ.เพชรบูรณ์มี 1669 เพียงแต่ 2 สายทำให้โทรไม่ติด จึงให้ทางศูนย์ 191 ช่วยเป็นรับข้อมูลเพื่อแจ้งประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขให้ดำเนินการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news