สงขลาโควิดเพิ่มอีก 27 คน สะสม 660 คน รอผลตรวจกลุ่มเสี่ยง 738 คน ด้านผู้ว่าฯ ออกอีก 2 มาตรการ
จ.สงขลา ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 27 คน โดยแบ่งเป็น อ.หาดใหญ่ 25 คน และ อ.เมืองสงขลา อีก 2 คน รวมยอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 660 คน และเสียชีวิต 1 คน โดยมีผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 233 คน และยังคงเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามอีก 426 คน
ซึ่งทางสาธารณสุข จ.สงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งสอบสวนโรค รวมทั้งตรวจเชิงรุก ทั้งกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสัมผัสผู้ป่วย และกลุ่มที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยวันนี้ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้ออีก 1,464 คน ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้กลุ่มผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงเริ่มลดลง แต่พบเพิ่มในส่วนของกลุ่มร้านอาหารต่างๆ โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ มากกว่า 20 แห่ง และ อ.เมืองสงขลา อีกบางจุด
รวมทั้งผลการตรวจกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ร้านเฝอ อินเตอร์ อ.เมืองสงขลา ที่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการ และตกเป็นกลุ่มเสี่ยงหลายร้อยคนนั้น ทางสาธารณสุข จ.สงขลา และสาธารณสุข อ.เมืองสงขลา ได้นัดตรวจไปแล้ววานนี้ โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่เป็นลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการเข้าตรวจ 738 คน คาดว่า จะทราบผลการตรวจทั้งหมดในอีก 1-2 วันนี้
นอกจากนี้ทาง นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้ออกประกาศมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ฉบับเพิ่มเติม เพื่อบังคับใช้อีก 2 เรื่อง คือ ปิดโรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถานศึกษาทุกประเภท โดยใช้การเรียนการสอนออนไลน์แทนได้ รวมทั้งงดการจัดกิจกรรมภายในสถานศึกษาที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
และให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการ และภาคเอกชน ให้พิจารณาดำเนินการขั้นสูงสุดในการลดการเดินทางของบุคลกร เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยอาจให้ทำงานที่บ้าน สลับวันทำงาน หรืออื่นๆ แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน องค์กร โดยประกาศใช้ 1-31 พ.ค. นี้
นอกจากนี้ทาง นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ยังได้โพสต์ภาพความประทับใจผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเอง หลังจากที่มีชาวประมงพื้นบ้านใน ต.สะกอม อ.จะนะ ร่วมกันทำปูม้านึ่ง กุ้งทอด และ ปลาอินทรีย์ทอด อาหารทะเลต่าง ๆ พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด นำมามอบให้ชาวโรงพยาบาลจะนะ เพื่อให้กำลังใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
