Home
|
ข่าว

“วิษณุ”ยันคำวินิจฉัยศาลรธน.ไม่ขัดความเห็นกฤษฎีกา

Featured Image
“วิษณุ” ยัน คำวินิจฉัย ศาล รธน. “ธรรมนัส” ไม่พ้นตำแหน่ง ไม่ขัดหรือแย้งกับความเห็นกฤษฎีกา เพราะพ้นโทษมาแล้วเกิน 5 ปี จริยธรรมคุณธรรมไม่เกี่ยวข้อกฎหมาย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. กระทรวงการเกษและสหกรณ์ ไม่พ้นจากตำแหน่ง สส. และรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ขาดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็น สส. และรัฐมนตรี กรณีเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์เครืออสเตรเลีย ความผิดคดียาเสพติด เมื่อปี 2536 ว่า

เคยมีความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำสั่ง ว่าหากมถูกพิพากษาจำคุกในหรือต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยพ้นโทษมาแล้วไม่ถึง 5 ปี ถือว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ขาดคุณสมบัติการเป็น สส. แต่กรณี ร.อ.ธรรมนัสถูกตัดสินลงโทษจำคุกคดียาเสพติด ตั้งแต่ ปี 2536 และพ้นโทษ เมื่อปี 2540 ถือว่าพ่นโทษมาแล้วเกิน 5 ปี จึงถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ความเหมาะสม จริยธรรม ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วแต่จะวิจารณ์กัน ส่วนจะยื่นเรื่องให้ปปช .วินิจฉัยในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม หรือไม่ไม่ทราบ แต่ในข้อกฎหมาย ถือว่าสิ้นสุดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

 

ส่วนที่เป็นประเด็นถกเถียงข้อกฎหมายในสังคม ศาลรัฐธรรมนูญควรจะทำคำชึ่แจงกับสังคมหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องชี้แจงหรือพูดอะไรเพิ่มเติมเพราะได้วินิจฉัยจบแล้ว ส่วนผลทางวิชาการ ทางการเมือง แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป

ทั้งนี้ นายวิษณุ ยืนยันด้วยว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานที่ใช้ได้กับทุกคนเพราะไม่เคยมีคำวินิจฉัยมาก่อน และใช้ได้กับความผิดทุกกรณีไม่เฉพาะแต่ความผิดคดียาเสพติดอย่างเดียว แต่ไม่ใช่การล้างมลทิน เพราะเป็นเรื่องคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งอาจจะมีมลทินก็ได้

 

ศาลรธน. วินิจฉัย “ธรรมนัส” ไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง ส.ส. และ รมว.กระทรวงเกษตร

วานนี้ (5 พ.ค. 2564) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยคดีสมาชิกภาพส.ส.และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่าได้กระทำผิดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้าซึ่งยาเสพติด ที่แม้เป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ กรณีดังกล่าวย่อมทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้พิจารณาถึงกรณี “การต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุด” ได้หมายถึงเฉพาะศาลไทยเท่านั้นหรือไม่ โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 บัญญัติ อำนาจอธิปไตย คณะรัฐมนตรี รัฐสภา และหน่วยงานรัฐ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย เพื่อประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น อำนาจอธิปไตย ที่เป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ ทั้งอำนาจบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ มีความเด็ดขาด ไม่อยู่ภายใต้อำนาจรัฐอื่น หลักการปกครองของประเทศ จะต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น ดังนั้น การตีความคำพิพากษาต่างประเทศ จึงไม่สอดคล้องหลักการดังกล่าว  ดังนั้น สมาชิกสภาพ ส.ส. และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงอยู่ไม่ขาดคุณสมบัติ และไม่สิ้นสุดลง

 

Featured Image

“พล.อ.ประวิตร” เมินเสียงวิจารณ์คำตัดสิน “ธรรมนัส” ชี้เป็นเรื่องของศาล ไม่สนก้าวไกลยื่นสอบจริยธรรม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ต่อผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรี และ ส.ส. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีเคยต้องคำพิพากษาถูกศาลออสเตรเลีย ตัดสินจำคุก 6 ปี ฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด ว่า เป็นเรื่องของศาลพิจารณา ส่วนที่พรรคก้าวไกล จะไปยื่นสอบจริยธรรมต่อก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล

ทั้งนี้กรณีนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า เป็นเรื่องของศาล จะเกี่ยวกับรัฐบาลได้อย่างไร

ทั้งนี้ในวันนี้ พล.อ.ประวิตร  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ หรือคปช. ครั้งที่ 2/2564ผ่านระบบ Video Conference ทางไกล โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือทส. เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

โดยที่ประชุมมีการพิจารณาเห็นชอบ การขอทบทวนมติ ครม.เกี่ยวกับการขออนุญาตส่งออกไม้สักสวนป่า จากเดิมที่มีการอนุญาตให้เฉพาะองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นผู้ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ เป็นการให้หน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน สามารถส่งไม้สักออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ด้วย นอกจากนี้ คปช. ยังได้เห็นชอบให้ทบทวนมติ ครม. ซึ่งเดิมให้เฉพาะไม้ผลบางชนิดเท่านั้น ที่สามารถนำป้อนเข้าโรงงานแปรรูปไม้(โรงเลื่อย) ผลิตเป็นไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับได้ เป็นการเสนอให้เพิ่มไม้ผลทุกชนิด สามารถนำเข้าป้อนโรงงานแปรรูปไม้(โรงเลื่อย) ผลิตเป็นไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับได้ได้แก่ ยางพารา, สะเดาเทียม, สนประดิพัทธ์, กระถินเทพา, มะพร้าว, มะไฟบ้าน, จามจุรี, ยูคาลิปตัส, สนทะเล, กระถินณรงค์, กระถินยักษ์, มะขาม, มะปรางบ้าน และไม้ตาล

ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากต้น หรือกิ่งของไม้ผลชนิดต่างๆที่ตัดหรือฟันออก ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แทนการทิ้งโดยเปล่าประโยชน์และสามารถสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ทส. และหน่วยงานอื่นๆที่รับผิดชอบให้เร่งรัดปฏิบัติตาม มติของ คปช. ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด เพื่อให้นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ส่งเสริมการอนุรักษ์ป่า และเพิ่มรายได้ภาคส่งออก และเกษตรกร ชดเชยผลกระทบจากภาวะโควิด-19

 

Featured Image

“จุรินทร์” มองการเมืองยังไม่วิกฤต รัฐบาลต้องตระหนักไม่สร้างเงื่อนไข ปัดตอบสังคมวิจารณ์ คดี”ธรรมนัส” ชี้เป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ จัดการเอง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด-19 จนการกระแสชักชวนให้ย้ายประเทศว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่การเมืองไม่สามารถสงบนิ่งได้ร้อยเปอร์เซนต์ในทุกสถานการณ์ ย่อมเกิดกรณีที่มีคามเห็นไม่สอดคล้องกัน เป็นเรื่องธรรมดา เพราะขณะนี้ประเทศของเราและประเทศอื่นๆทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหา 3 อย่างคือ โควิด -19 เศรษฐกิจและการเมืองซึ่งเรื่องโควิด-19 รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่ และมีความคืบหน้าเป็นระยะ ล่าสุดยังได้ออกมาตรการมาเยียวยาประชาชนด้วย

ส่วนปัญหาการเมืองเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหาทางแก้ไขต่อไป ซึ่งโดยภาพรวมตนมองว่ายังไม่ถือว่าเป็นวิกฤต แต่รัฐบาลจะต้องไม่ทำในสิ่งที่จะกลายเป็นเงื่อนไขให้ยิ่งเกิดปัญหา ทั้งนี้ถ้ารัฐบาลสามารถปลดสิ่งที่เป็นเงื่อนไขของปัญหาต่างๆไปได้อย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ปัญหาทางการเมืองบรรเทาลง

 

"จุรินทร์"ปัดตอบสังคมวิจารณ์คดี"ธรรมนัส"

 

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ขาดคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี แม้จะเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกจากคดีค้าเสพติดในประเทศออสเตรเลียมาก่อน ซึ่งทำให้รัฐบาลถูกโจมตีมากขึ้น

นายจุรินทร์กล่าว ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ และตนไมอยู่ในฐานะที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ได้ ขอให้สอบถามพรรคพลังประชารัฐจะดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของพรรคพลังประชารัฐ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube