กทม.วางแผนรับมือเข้าฤดูฝนกลางเดือนนี้
กทม. เตรียมแผนจัดการน้ำ พร้อมรับมือเข้าสู่ฤดูฝนกลางเดือนนี้ คาดปริมาณฝนจะมากกว่าปี 63
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำใน ฤดูฝน โดยสำนักการระบายน้ำ ได้รายงานการคาดการณ์สถานการณ์น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน ซึ่งข้อมูลจากกรมอุตุนิยมระบุว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนประมาณกลางสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ค.64 และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือน ต.ค.64 โดยปริมาณฝนโดยรวมของทั้งประเทศ จะมากกว่าในปี 63
โดยกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมพร้อมแผนการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำ ในกรณีน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุน ได้ดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาว 78.93 กม. พร้อมเรียงกระสอบทรายในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันถาวรและเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมที่มีระดับต่ำมีการติดตามสถานการณ์น้ำเหนือกับกรมชลประทาน และบริหารจัดการน้ำร่วมกับศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้พร้อมทำงานตลอดเวลา โดยเตรียมกระสอบทรายสำหรับเรียงตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวนทั้งสิ้น 2,359,995 ใบ และซ่อมแซมจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต 50 เขต ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำให้พร้อมใช้งานทุกสถานี ลดระดับน้ำในคลองให้อยู่ในระดับต่ำ สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม ด้านการดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืชนั้น และเตรียมการสำรองเครื่องสูบน้ำกรณีฉุกเฉิน จัดหน่วยเร่งด่วน (BEST) พร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ให้สามารถเข้าพื้นที่ในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีพื้นที่บางแห่งที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก เช่น บริเวณถนนพระราม 9 ซอย 7 (อสมท.) ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคล กรุงเทพมหานครไม่สามารถนำงบประมาณมาดำเนินการปรับปรุงถนนและท่อระบายน้ำได้โดยกรุงเทพมหานคร ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า 3 เครื่อง เครื่องสูบน้ำดีเซล 2 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news