Home
|
ทั่วไป

เตรียมตั้งรพ.สนามในพื้นที่สีเหลือง-เร่งกระจายวัคซีน

Featured Image
ศบค. เผย เตรียมตั้ง รพ.สนาม ในพื้นที่สีเหลือง เนื่องจากมีแนวโน้มต้องการเตียงพุ่งสูงขึ้น ด้านการฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิดหากติดขัดโทร 1765 เร่งกระจาย วัคซีน ให้มท.

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศบค. เผยว่า รายงานจากกรุงเทพมหานคร พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของกรุงเทพมหานคร เกิน 500 ราย มาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. และพุ่งทะแยงสูงขึ้น ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยอาการหนักในวันที่ 6 พ.ค.64 จำนวน 496 ราย เพิ่มขึ้นจากวันที่ 5 พ.ค. จำนวน 466 ราย จึงมีแผนที่จะมีการติดตั้งระบบต่างๆ ใน รพ.สนาม

โดยจำนวนเตียงที่ต้องดูแลผู้ป่วยหนักไม่ใช่แค่พื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่จะต้องนำ 5 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นครปฐม และปทุมธานี มารวมด้วย เนื่องจากมีอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยรุนแรงมากขึ้น

ส่วนเรื่องสถานที่ฌาปนกิจศพ ซึ่งมีประเด็นดราม่าในบางพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม แจ้งว่าหากมีอะไรติดขัดให้แจ้งไปที่เบอร์ 1765 เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดพื้นที่ในการประกอบศาสนกิจให้ได้

โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในการประชุม eoc ของกระทรวงสาธารณสุข มีการระบุว่า พื้นที่สีแดง สีเหลือง มีความสำคัญยิ่งที่จะเพิ่มขึ้นก่อน คือ สีเหลือง จะมีการติดตั้งระบบต่างๆ ที่ รพ.สนาม ซึ่งสามารถจุเตียง ได้มากกว่า 1,000 เตียง เพราะขณะนี้แนวโน้มความต้องการเตียงที่เป็นลักษณะของผู้ป่วยหนัก ยังมีความต้องการเตียงจากนี้ไปจนถึงกลางเดือน พ.ค.

ซึ่งมีแนวโน้มพุ่งขึ้นดังนั้นจึงต้องมีการสร้างเตียงที่อยู่นอกโรงพยาบาล โดยมีการมองไว้ว่าจะตั้งโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์การประชุมที่อยู่แถวแจ้งวัฒนะ

ส่วนการประชุมของศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์ โควิด-19 ผู้แทนจากศูนย์อนามัย ได้แจ้งตัวเลขเขตต่างๆ 10 อันดับที่มีผู้ป่วยรายวันสูงสุดในวันที่ 6 พ.ค. อาธิเขตคลองเตย จำนวนผู้ป่วย 46 ราย, ปทุมวัน 24 ราย, บางแค 24 ราย, ลาดพร้าว 13 ราย, ราชเทวี 10 ราย, ป้อมปราบศัตรูพ่าย 9 ราย, บึงกุ่ม 9 ราย, ภาษีเจริญ 8 ราย, บางขุนเทียน 8 ราย และดินแดง 8 ราย

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการเขตบางแค ได้มารายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตบางแค ซึ่งยอดผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.- 6 พ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 855 ราย คลัสเตอร์ที่ผลระยะควบคุมจำแนก เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหารย่านบางแค 57 ราย เหตุเกิดมาจากย่านสถานบันเทิง คลัสเตอร์ที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังโรคย่านตลาดบางแค 485 ราย

และคลัสเตอร์ที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค คือ ชุมชนบ้านขิงเดอะมอลล์บางแค, ซอยเพชรเกษม 84 และหมู่บ้านทวีโชติ 191 ราย ซึ่งวันนี้มีการทำงานเชิงรุกไปในหลายพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีการนำแผนกระจายวัคซีน ซึ่งทางที่ประชุมได้ทราบข้อมูลการรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการวางแผนตั้งแต่เดือนพ.ค.- ธ.ค.64 โดยที่ประชุมพิจารณาว่าเป็นไปตามแผนเป้าหมายกลุ่มต่างๆ ที่ทางกระทรวงกำหนดขึ้นและตรงตามที่นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ได้ให้นโยบายเอาไว้ รวมถึงได้มีการเชื่อมประสานกับกระทรวงมหาดไทย โดยนำแผนดังกล่าวส่งต่อให้ทางจังหวัด เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งทีมทำงานร่วมกันในระดับปฏิบัติระดับจังหวัด

 

สปสช. แจงปมค่ารักษาโควิดหลักแสน เป็นแค่การแจ้งค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ย้ำ ไม่ได้จ่ายจริง

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์ จเด็จ ธรรมรัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ชี้แจงถึงกรณีที่โซเชียลแชร์ข้อมูลคนไข้ โพสต์ค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 หลักแสนบาท

ว่าเรื่องนี้ได้ตรวจสอบแล้ว โดยโรงพยาบาลเอกชนเพียงแค่แจ้งค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น และในข้อเท็จจริงไม่ได้จ่ายจริง ซึ่งกรณีนี้ได้เบิกกับ สปสช.

ส่วนภาวะแทรกซ้อนหลังการฉีกวัคซีน ก็สามารถเข้ารับรักษา และเบิกตามนิยามผู้ป่วยโควิด-19 ได้ และการเบิกจาก สปสช. แยกต่างหากกับประกันส่วนตัว ทั้งนี้พบว่า ในกทม. ผู้ป่วย 2 ใน 3 ไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ด้านอัตราค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน เบื้องต้นสาธารณสุขได้รับการร้องเรียนถึง 44 เรื่อง บางส่วนเรียกเก็บไว้ก่อน บางส่วนเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เมื่อพูดคุยกัน ก็คืนเงิน และเข้าใจกันดี

ส่วนที่ร้องเรียนมายัง สปสช. โดยตรง ส่วนใหญ่ เป็นเรื่องการเรียกเก็บค่าตรวจคัดกรอง โดยไม่มาเรียกเก็บจาก สปสช. และเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลโรคโควิด-19 หลายแสนบาท บางราย สูงถึง 8-9 แสน โดย นพ.จเด็จ ยืนยันว่า หากค่ารักษาพยาบาลอยู่ในรายการนั้น สามารถเบิกได้หมด ในกรณีคนไข้ประเภทสีเขียว เราเคยจ่ายหลักแสน ขณะที่ คนไข้ประเภทสีแดง เคยจ่ายถึง 1 ล้านบาท ก็มีหากถูกเรียกเก็บ ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน สปสช. 1330

ทั้งนี้ สปสช. ปรับรูปแบบการจ่ายเงินให้กับโรงพยาบาลจาก 1 เดือน ต่อครั้ง เป็น 15 วันครั้ง งวดแรกที่เริ่มปรับปรุงระบบ เฉพาะวันนี้ จ่ายไปแล้ว 2,000 กว่าล้านบาท ทั้งรโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ขอให้มั่นใจไม่ต้องกลัวว่า สปสช. จะไม่จ่าย ย้ำเงินมีและจ่ายเร็ว

 

ธานี-แสงรัตน์-7-5-64 วัคซีน

กต. ยัน อนาคตรัฐบาลฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติในไทยทุกคน ไม่จำกัดสัญชาติ อยู่ระหว่างทำระบบลงทะเบียน

นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางการจัดสรรวัคซีนให้ชาวต่างชาติ ที่อยู่ในประเทศไทย ยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนฉีดวัคซีนให้คนทุกกลุ่มโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ แต่เนื่องจากการฉัดวัคซีนช่วงแรก มีวัคซีนจำนวนจำกัด จำเป็นต้องจัดสรรให้ผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน เพื่อป้องกันการเสียชีวิต ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่อยู่ในสถานที่เสี่ยง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการฉีดอยู่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในไทยและจะได้รับวัคซีนในกลุ่มแรกที่มีความจำเป็นเร่งด่วนด้วยนั้น เช่น ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขต่างชาติ

ส่วนการฉีดในกลุ่มที่ 2 ซึ่งจะเริ่มเดือน มิ.ย. ถึงสิ้นปีนี้ ได้แก่ กลุ่มสาธารณชน ผู้ที่ทำงานในภาครัฐ คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย โดยคำนึงถึงความสมัครใจของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำระบบลงทะเบียนฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube