แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกแซงเอาชนะ แอสตัน วิลลา 3-1 รั้งรองจ่าฝูง ตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลลา ปิดสนามวิลลา พาร์ค รับการมาเยือนของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เจ้าบ้านแอสตัน วิลลา ขาดตัวหลักอย่าง มอร์กกาน ซ็องซง, เทรเซเกต์ และ แจ็ค กรีลิช แดนกลาง ดั๊กลาส ลุยซ์ ประสานงาน จอห์น แม็คกินน์ แนวรุก รอสส์ บาร์คลีย์ นำทัพโดยใช้ โอลลี วัตกินส์ ค้ำแดนหน้า
ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพจากเกมบุกพ่ายโรมา 2-3 กลางสัปดาห์ ดีน เฮนเดอร์สัน กลับมาลงตัวจริง เช่นเดียวกับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จับคู่ เฟร็ด แนวรุก ปอล ป็อกบา, บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด
ผลปรากฎว่า ครึ่งแรก นาทีที่ 24 กลายเป็น วิลลา ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุดคม
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 วิลลา หวิดได้เม็ดสอง เมื่อ โอลี วัตกินส์ ยิงไกลด้วยขวา บอลพุ่งจะเสียบเสาสอง แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน พุ่งไปเซฟไว้ได้ จบครึ่งแรก แอสตัน วิลลา นำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 52 แมนยูฯ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา โดน ดักลาส ลุยซ์ ทำฟาวล์ร่วงลงไป และเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส รับหน้าที่สังหารไม่พลาดพา แมนยูฯ ตีเสมอ 1-1
จากนั้น นาทีที่ 56 แมนยูฯ แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ อารอน วาน-บิสซากา บอลขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ เมสัน กรีนวูด พลิกยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไป
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 87 แมนยูฯ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ เฟร็ด จ่ายบอลมาหน้าเขตโทษฝั่งขวาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลเข้าเขตโทษ เอดินสัน คาวานี ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ดฉบมาโหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 89 วิลลา ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โอลี วัตกินส์ ที่มีใบเหลืองติดตัว ไปพุ่งล้ม ทำให้โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ แอสตัน วิลลา 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนน รั้งอันดับ 2 ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 10 คะแนน และแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news