ภายหลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่แฉขบวนการเก็บส่วย 18 ธุรกิจสีเทา ทั่วประเทศ พร้อมเปิดเผยผังเส้นทางการเงินโยงคนใกล้ตัวของนายตํารวจระดับสูง ภายในสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และกองบัญชาการสําคัญที่รับผิดชอบงานปราบปรามเครือข่าบเว็บพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา

กลายเป็น "กกต." วันนี้ที่เชิญ "ต๋อม-ชัยธวัช" ไปพูด จนเจ้าตัวเปรยดัง" ขอบคุณที่ กกต.ให้ความสำคัญเชิญเสวนาทั้งที่ชงยุบพรรคก้าวไกลและขอให้ทุกฝ่ายอย่าแก้ปัญหาโดนวิธีการยุบพรรคการเมืองที่ควรต้องยกเลิกไปได้แล้วเพราะทำลายระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนให้อำนาจผู้แทนเข้ามา" ถูกจับตาเหมือนเร่งสปีดเกม

ภายหลังการเปิดโปงของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เกี่ยวกับขบวนการรับส่วยที่พาดพิงถึง “ดาบยาว คอมมานโด” และ “รองฟาง”

นายกฯ เป็นประธานประชุมนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เผย คกก.เห็นพ้องให้ก.คลังหาแหล่งเงินใช้ในโครงการ นอกเหนือการออกพ.ร.บ.เงินกู้ ด้าน "จุลพันธ์" เห็นพ้องนายกฯ รอความชัดเจน 10 เม.ย.นี้

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม แถลงเปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปเกี่ยวพันกับบิ๊กตำรวจ โดยการออกมาครั้งนี้ นายษิทรา เผยว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และไม่มีคนว่าจ้างแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วย บิ๊กโจ๊กแน่นอน

นายกฯเศรษฐา ภารกิจแน่นไม่เข้าพรรคเพื่อไทย พบ"ทักษิณ" ถึงควันออกหู หลังถูกสื่อจี้ แหล่งที่มาเงินดิจิทัล

แม้ว่าศึกสีกากีจะลดดีกรีความร้อนแรงลงบ้าง แต่คลื่นใต้น้ำยังคง"คุกรุน"รอวันประทุขึ้นมาอีกเพราะบิ๊กตำรวจกับการเมืองเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออกมาทุกยุคทุกสมัย บิ๊กสีกากีหลายนายถูกกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจการเมือง บ้างก็เติบใหญ่เพราะการเมืองหนุนนำ แลกกับการทำงานรับใช้แบบถวายหัว บ้างก็ถูกรังแกกลั่นแกล้งเพราะการเมือง ถูกโยกถูกย้ายตามอำนาจการเมืองแต่ละรัฐบาล ซึ่งถ้าจะเอ่ยถึงบิ๊กตำรวจการเมืองฝีมือเยี่ยมชื่อดังคับเมืองเห็นจะมีอยู่ 5 คน

วันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เดินทางพานายปฐวี อายุ 30 ปี พร้อมมารดา