Home
|
ไลฟ์สไตล์

ถอดบทเรียนสุดกินใจกับบทเพลงของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์

Featured Image

          ร่วมแบ่งปันเรื่องราวและมุมมองความรัก ผ่านท่อนเพลงสุดซึ้งของ “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” ว่าแต่…ใครกันที่ทำให้หนุ่มหล่อสายคลั่งรักคนนี้ต้องอกหัก? ทำไมถึงสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความหมายผ่านบทเพลงได้ลึกซึ้งกินใจทุกเพลง พร้อมด้วยเสียงร้องที่ทำเอาหลายคนใจละลาย แถมทุกเพลงที่ปล่อยออกมายังฮิตติดกระแสอีกด้วย!

          วันนี้เราจะพาไปถอดความหมายจาก 5 บทเพลงที่สะท้อนหลากหลายอารมณ์ความรัก ไม่ว่าจะเป็นโหมดคลั่งรัก การมูฟออน ความเจ็บปวดจากความรัก หรือแม้แต่การจากลา มาร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกไปพร้อมกัน ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เสมือนการนั่งคุยกับเพื่อนเท่านั้น แล้วคุณล่ะ… เคยซ่อนใครบางคนไว้ในเพลงของตัวเองบ้างไหม? ให้บทเพลงของ “บิวกิ้น” เป็นคำตอบแทนใจคุณ 

 

  1. เพลง ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ

 

“ฉันชอบตัวเองเวลาที่อยู่กับเธอ ชอบที่ฉันเป็นตอนอยู่กับเธอ

เหมือนฉันได้กลาย มาเป็นอีกคนที่ดีกว่าเดิม”

          เคยไหม…ที่การมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต ทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้นทุกวัน? “ฉันชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ…” ท่อนที่ฟังแล้วทำให้หัวใจพองโตทุกที ท้องฟ้าเคยสดใสขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่า? วันนี้เพิ่งเข้าใจ…การมีเธออยู่ในชีวิตทำให้ทุกอย่างพิเศษขึ้น 

          สำหรับคนที่กำลังอินเลิฟ คงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ความรู้สึกที่ทำให้เราอยากเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ไม่ใช่เพราะต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อใคร แต่เพราะการมีเขาอยู่ข้างๆ ทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเอง และอยากเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน การมีใครสักคนสามารถเติมเต็มโลกของเราให้สดใสขึ้นได้

          เมื่อความรักช่วยเติมเต็มหัวใจ เป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองและทำให้ทุกวันของเรามีความหมายมากขึ้น ก็ยิ่งอยากรักษาความรู้สึกนี้ให้อยู่กับเรานานๆ ว่าแต่…คุณล่ะเจอคนนั้นแล้วหรือยัง? 

 

  1. เพลง กลับมาคบกันเถอะ 

 

“คนที่เลิกกันไป จะกลับมาคบกันอีกได้ไหม

เพราะตอนนั้นที่เลิกกันไป เรานั้นยังรักกันอยู่”

          เพราะรักจึงเข้าสู่ความสัมพันธ์ และเพราะหมดรักความสัมพันธ์จึงจบลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ‘การเลิกกัน’ ไม่ใช่เพราะไม่ได้รักกันแล้วเท่านั้นแต่อาจมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ไปต่อไม่ได้ จึงเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าโลกกลมๆใบเล็กใบนี้เมื่อไหร่จะทำให้เราสองคนโคจรกลับมารักกันอีกนะ…ทั้งๆที่เราต่างก็ยังรักกันอยู่ หรือที่จริงแล้วเราไม่เคยรักกันเลย?

          เมื่อทุกอย่างสงบลง เรากลับมาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา… เพราะในใจลึกๆ เรายังคงรู้สึกเสียดายช่วงเวลาดีๆ ที่เคยมีให้กัน คิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงเสียงหัวเราะ คิดถึงทุกอย่างที่เป็น “เรา” และเมื่อได้ยินเพลงนี้ มันทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า… “ถ้าเรายังรักกันอยู่ แล้วทำไมจะกลับมาคบกันไม่ได้?” บางทีความรักที่เรามีให้กัน อาจไม่เคยจางหายไปไหนเลย เพียงแค่รอเวลาที่เราจะกลับมาหากันอีกครั้ง กลับมาคบกันเถอะ…เธอคิดเหมือนกันไหม?

 

  1. เพลง ตัวโดน

 

“ถ้าจะผิดก็ผิดที่ฉันรักเธอ ฉันผิดด้วยเหรอที่ยอมให้เธอทุกอย่าง”

          ประโยคนี้สะท้อนถึงความรักที่เต็มไปด้วยความเสียสละ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะยอมรับความเจ็บปวดไปตลอดหรือเปล่า? 

          บางครั้งความรักก็เหมือนเกมที่เราไม่รู้กติกา ยิ่งพยายามทุ่มเทมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราเป็นฝ่ายที่ “โดน” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

          เพลงนี้ชวนให้นึกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นธรรม เมื่อเราทุ่มเททุกอย่างจนหมดตัว แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบต่อทุกความเจ็บปวดเพียงลำพัง ราวกับว่า ความรักกลายเป็นบทลงโทษ ที่เราต้องยอมรับอย่างไม่มีทางเลือก แล้วคำถามคือ… เราจะทนอยู่กับความรักที่ทำร้ายเราซ้ำๆ ไปจนถึงเมื่อไหร่? หรือจริงๆ แล้ว…ถึงเวลาที่เราควรถามตัวเองว่า จบที่เราจะเบากี่โมง

 

“เพราะตัวโดนก็โดนทุกครั้ง หันมองมาก็เจอเสมอ

เป็นแค่คนที่อยู่ข้างเธอ ที่เธอเห็นเป็นของตาย”

 

          ท่อนนี้เป็นสัญญะของคำว่า “ของตาย” เพราะการมีอยู่ของเราทำให้เขาคนนั้นรู้ว่าหันมาเมื่อไหร่ก็เจอเราเสมอ จึงเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองว่า การให้ทั้งหมดของเรามีค่าไหม? หรือจะมีค่าก็ต่อเมื่อเราหายไป? อาจเป็นเพราะคำว่ารักจึงยอมและหวังว่าสักวันเขาจะมองเห็นความสำคัญของเราบ้าง มันเปรียบเสมือนการเดินชนกำแพงซ้ำๆ และสุดท้ายเราก็ได้รับแต่ความเจ็บช้ำกลับมา

 

  1. เพลง ก้าวก่าย

 

“อยากจะไปแต่ไปไม่ได้ใจที่มันเดียวดาย รักแค่เพียงแต่เธอ”

          ยกมือขึ้นถ้าคุณยังติดอยู่ในวังวนของการ Move On ที่ไม่เคยไปถึงไหนบางครั้งเราก็รู้ดีว่า ควร ปล่อยมือจากอดีต ควรหยุดก้าวก่ายชีวิตของเขา ควรให้เขาไปมีความรักครั้งใหม่โดยไม่ต้องมีเราเป็นเงาตามตัว พูดได้ง่ายแต่ความรู้สึกมันไม่ง่ายขนาดนั้น… เพราะใจเรายังรัก ยังโหยหา และยังวนเวียนอยู่กับเขาเหมือนเดิม

          พบเจอ จากลา คือสัจธรรมของโลกใบนี้…เราทุกคนต่างรู้ว่าความรักนั้นไม่จีรัง แต่ต่อให้เขียนประโยคนี้แปะไว้ตรงหน้าตัวเอง มันก็ไม่ได้ทำให้การลืมใครสักคนเป็นเรื่องง่ายขึ้นเลย บิวกิ้นบอกกับเราไว้ในเพลงว่า “อยากจะไปแต่ไปไม่ได้” และมันคือความจริงของใครหลายคน สมองพยายามสั่งให้ลืม แต่หัวใจกลับสั่งให้จำ ยิ่งพยายามหนีไปให้ไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งติดอยู่ในความรู้สึกเดิมซ้ำๆ ราวกับเป็นนักโทษของความทรงจำที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

 

  1. เพลง ยิ้มทั้งน้ำตา

 

“ยังมีวันวานให้เราได้คิดถึงตลอด

แม้เรื่องเราจบไป แค่ได้คิดถึงมันก็พอ”

          ทุกการจากลามีน้ำตาเสมอ ไม่ว่าการลาจากนั้นจะเกิดขึ้นด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่เรากลับเลือกที่จะโฟกัสที่ช่วงเวลาดีๆ มากกว่าความเจ็บปวด เพื่อให้การจากลานั้นดูสวยงามที่สุด แม้หัวใจจะปวดร้าวจนน้ำตาไหล แต่เราก็ยังฝืนยิ้มเพราะเชื่อว่าสักวันหนึ่ง…สิ่งดีๆ จะรอเราอยู่ข้างหน้า

          เพลง “ยิ้มทั้งน้ำตา” ไม่ได้สะท้อนแค่ความเศร้าของการจากลา แต่เป็นการยอมรับว่า ทุกความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นยังคงงดงามเสมอ แม้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อย้อนกลับไปมองมันก็ยังเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นในใจเสมอบางครั้ง…เราอาจทำได้เพียงแค่ยิ้ม แม้ภายในจะเต็มไปด้วยน้ำตาก็ตาม

 

          ใครอินกับเพลงจนถึงขั้นน้ำตาซึมบ้าง? บางทีแค่ฟังเพลงแล้วรู้สึกเหมือนมันตรงกับความรู้สึกของเรา…เหมือนเพลงนั้นพูดแทนคำพูดที่เราไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ หรือบางทีเพลงนั้นอาจจะไปจี้ใจเราจนต้องนึกถึงใครบางคนที่เคยอยู่ในชีวิต

          ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อินมากกับเพลงของ “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” เพราะบางครั้งเพลงก็สะท้อนความรู้สึกที่เรากำลังเผชิญอยู่โดยไม่ต้องบอกใคร แค่ให้เพลงนั้นบรรยายความรู้สึกที่อยู่ในใจของเราแทน เมื่อเราได้ยินเพลงนั้นอีกครั้ง มันอาจจะทำให้เรานึกถึงความทรงจำบางอย่างที่ซ่อนไว้ในหัวใจ โดยที่ไม่ต้องประกาศให้ใครรู้แต่อย่างใด… แค่ฟังเพลงนั้นก็พอแล้ว

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube