พูดคุยกับ ผู้กำกับผู้ปลุกปั้น เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2)จากซีรีส์กระแสแรง สู่ภาคต่อที่เข้มข้นสมการรอคอย
หลังจากซีรีส์ เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) ได้ลงสตรีมมิ่งใน Netflix ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พร้อมกันทั่วโลก ผู้ชมและเหล่าแฟนๆ ที่เกาะจอรอชมบทลงโทษสุดโหดของ ‘แนนโน๊ะ’ น่าจะได้สาแก่ใจสมการรอคอย แถมด้วยเซอร์ไพรซ์ (?) จากตัวละครลับ ‘ยูริ’ ที่ทำให้ซีซั่น 2 นี้ มีความพิเศษและเข้มข้นถึงใจยิ่งกว่าเดิม
กว่าจะออกมาเป็นซีรีส์ เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) ที่ทั้งดาร์ค หลอน และลึกลับทีมงานเบื้องหลังอย่าง 6 ผู้กำกับชั้นแนวหน้าของไทย ไม่ว่าจะเป็น ไพรัช คุ้มวัน, คมกฤษ ตรีวิมล, สิทธิศิริ มงคลศิริ, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์ และ จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ ต่างปล่อยของและฝากฝีไม้ลายมือแบบจัดเต็ม เพื่อต้อนรับการกลับมาของ ‘แนนโน๊ะ’ ให้สมศักดิ์ศรีบนสตรีมมิ่งระดับโลก
เมื่อถามถึงความท้าทายในการกำกับ เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) ผู้กำกับแทบทุกคนต่างบอกไปในทางเดียวกันว่า เนื่องจากกระแสของซีซั่น 1 ค่อนข้างดี การกลับมากำกับซีซั่น 2 นี้ เลยมีทั้งความท้าทายและความกดดันไปพร้อมกัน แต่ก็มีความโชคดีในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับ Netflix การทำงานในระบบและมาตรฐานระดับโลก รวมถึงมีนักแสดงรับเชิญที่เบอร์ใหญ่ขึ้น ทำให้ซีซั่นนี้มีพลังมากขึ้น ในขณะเดียวกันตัวซีรีส์ก็จะมีรสชาติใหม่ๆ ที่เซอร์ไพรซ์คนดูได้มากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ผู้กำกับส่วนใหญ่ต่างผ่านการกำกับ เด็กใหม่ ซีซั่น 1 มาแล้ว ยกเว้น ปวีณ ภูริจิตปัญญา ซึ่งกระโดดมาทำในซีซั่น 2 นี้เป็นครั้งแรก และนับเป็นการร่วมงานครั้งแรกกับ คิทตี้ – ชิชา อมาตยกุล อีกด้วย โดย คุณกอล์ฟ-ปวีณ ได้เผยว่า “เป็นความท้าทายอย่างมากครับ เพราะเราเหมือนเป็น ‘เด็กใหม่’ คนเดียวที่เข้ามากำกับซีซั่น 2 ต้องพยายามทำความเข้าใจแกนหลักของเรื่อง ของตัวละคร เพื่อให้แก่นของเรื่องยังคงเดิม และก็พยายามสอดแทรกไอเดียใหม่ๆ ที่ซีรีส์นี้ไม่เคยทำมาก่อนด้วยครับ ส่วนคิทตี้ ถึงแม้จะเป็นการร่วมงานเป็นครั้งแรก แต่จากผลงานที่ผ่านมาของเขา เรารู้ว่านักแสดงคนนี้มีของ ซึ่งคิทตี้ทำให้การทำงานยากๆ กลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยครับ”
เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) มีทั้งหมด 8 ตอน แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่จบในตอน เหมือนที่เราคุ้นเคย แต่ซีซั่น 2 จะพิเศษขึ้นตรงที่มีเส้นเรื่องใหม่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งผู้กำกับแนะนำว่า หากดูข้ามตอน อาจจะไม่ได้อรรถรสความบันเทิงเท่าที่ควร เพราะโครงเรื่องและบทโดยรวมถูกวางมาให้มีไดนามิคที่แตกต่างกันและปูทางไปจนถึง EP สุดท้าย ถึงแม้ว่า mood & tone ในแต่ละตอนจะมีความแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่แก่นของเรื่องจะไม่หลุดจากคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นเทคนิคการเล่าเรื่องที่หลากหลาย และพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจน
ประเดิมด้วย EP 1 Pregnant และ EP 3 Minnie and the Four Bodies โดย ไพรัช คุ้มวัน ซึ่งเล่าว่า ทั้ง 2 ตอนนี้ ค่อนข้างเป็นตอนที่อยากกำกับเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะตรงกับความถนัดและความสนใจ พร้อมเผยความประทับใจในการทำงานกับนักแสดงดาวรุ่งที่หลายคนจับตามอง อย่าง เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญและ แพทริเซีย กู๊ด
“อย่าง เจมส์ ที่มารับบท นะนาย เป็นนักแสดงที่ผมอยากทำงานด้วยมานานแล้ว เป็นการทำงานที่สนุกมาก เจมส์เป็นคนพลังงานเยอะ แรงดีไม่มีตก มีความตั้งใจทำงานมาก และเขานำเสนอตัวละครไปได้ไกลกว่าที่ผมคิด สำหรับ แพทริเซีย ที่มารับบท มินนี่ ตอนแรกเราก็นึกภาพไม่ออกว่าถ้าเขามาเล่นซีรีส์ที่มีการแสดงที่แตกต่างออกไปจากละคร เขาจะเล่นออกมายังไง แต่เขาเซอร์ไพรส์เรามาก เขาทำได้ดี และเป็นอีกคนที่แรงไม่ตกเหมือนกัน เพราะทุกซีนที่ถ่ายทำมีเขาอยู่เกือบตลอด และส่วนมากจะเป็นซีนใหญ่ๆ ทั้งนั้น และเขาเองก็ตื่นเต้นมาก เพราะฉีกจากบทบาทเดิมที่เขาเคยได้รับ” ไพรัช กล่าว
คมกฤษ ตรีวิมล เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับที่รับบทหนักที่สุด เพราะลงมากำกับทีเดียวถึง 3 ตอน ได้แก่ EP 2 True Love, EP 5 SOTUS และ EP 8 The Judgement โดยแต่ละตอนต่างก็มีรสชาติเข้มข้นแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว เมื่อถามถึงตอนที่ชอบที่สุด ผู้กำกับบอกว่า “อยากตอบเหมือนดาราว่าชอบทุกตอนครับ อย่าง EP 2 มันจะมีความยียวน กวน เพี้ยน เน้นประเด็นความรัก เป็นแนนโน๊ะที่ซอฟท์สุดแล้ว EP 5 ก็เน้นแอคชั่น จังหวะบีบคั้นหัวใจ มีการใช้เทคนิค handheld กับกล้องให้เหมือนมุมมองของตัวละครจริงๆ ส่วน EP 8 นี่ชอบประเด็นของมัน การให้ทางเลือก ความรักของแม่ลูก ความซับซ้อน เรื่องบางเรื่องมันตัดสินผิดถูกไม่ได้ง่ายๆ เป็นตอนปิดซีซั่นที่สมศักดิ์ศรีนะ”
สำหรับ EP 4 Yuri ตอนไฮไลท์สำคัญที่จะเผย ‘ยูริ’ ตัวละครใหม่เป็นครั้งแรก และ ‘คู่ปรับของแนนโน๊ะ’ คนนี้จะต้องอยู่กับซีรีส์ไปจนถึงตอนสุดท้าย ซึ่งผู้กำกับ สิทธิศิริ มงคลศิริ ได้เล่าถึงตอนที่ตัวเองได้กำกับว่า “ตอนที่ 4 นี้ เป็นตอนที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจอยู่แล้ว เพราะยูริเป็นตัวละครที่สำคัญ และเราก็อยากจะถ่ายทอดตัวละครนี้ให้คนดูได้รู้จัก ผมจะชอบซีนสุดท้ายของตอนมากเป็นพิเศษ เพราะจะรวมนักแสดงหลักของตอนนั้นไว้ทั้งหมด และเป็นการเชือดเฉือนกันด้วยการแสดง”
ปวีณ ภูริจิตปัญญา และ สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์ ใน EP 6 Liberation ซึ่งเป็นตอนที่แตกต่างออกมาจากทั้งหมด ด้วยโทนสีขาวดำเหมือนภาพยนตร์ยุคเก่า เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลัง ปวีณ เล่าว่า “จริงๆอยากทำหนังขาวดำมานานแล้วครับ เพราะรู้สึกว่าการถ่ายขาวดำทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่เราอยากจะสื่อได้ชัดเจนกว่าการเป็นสี แล้วมันเหมาะกับแนวคิดของตอน Liberation พอดี ที่พูดถึงสังคมยุคนี้ที่มีทั้งสีขาว สีดำ สีอื่นๆ ซึ่งความดี ความชั่วมันกลายเป็นสีเทาๆ ไปหมดแล้วครับ บวกกับการวางเฟรมภาพแบบนิ่งๆ สื่อถึง เสรีภาพในปัจจุบันนี้ที่ถูกจำกัดให้อยู่ในกรอบ การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง การต่อสู้ของคนที่โดนริดรอน โดนเอาเปรียบครับ ซึ่งสิ่งนี้ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่คู่โลกเรามาทุกยุคทุกสมัย”
ส่งท้ายกับ จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ กับ EP 7 JennyX ที่เตรียมขมวดปมความเข้มข้นก่อนถึงตอนอวสาน แม้เนื้อหาในตอนจะหนักหน่วง แต่การทำงานกับนักแสดงเรียกได้ว่าผ่านฉลุย เพราะได้ มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร นักแสดงดาวรุ่งมือรางวัล มารับบทเจน โดยผู้กำกับเผยว่า “แก่นของตอนนี้ คือ การตั้งคำถามกับตัวตน และการไม่รู้จักตัวเอง สำหรับเจนนี่ก็คือการเป็นเนตไอดอลใสๆ ที่เบื่อชีวิตการเป็นไอดอลแล้วอยากทำอะไรตามใจตัวเอง ในขณะเดียวกัน แนนโน๊ะก็ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าถ้าทำตามความเชื่อของตัวเอง มันถูกต้องหรือเปล่า มันมีอยู่ซีนหนึ่งที่ เจนนี่ถามแนนโน๊ะว่า “เธอต้องทำกับเราขนาดนี้เลยเหรอ?” เนื่องจากมันมีความไม่สมเหตุสมผลของการกระทำของแนนโน๊ะอยู่ เพียงเพราะเขาต้องการจะพิสูจน์ความเชื่อของตัวเอง”
สิ่งที่ผู้ชมจะได้จาก เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) นอกเหนือจากความบันเทิงครบรส ทั้ง ดราม่า แฟนตาซี ระทึกขวัญ แล้ว อาจจะได้ลองขบคิดไปกับสิ่งที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอ หรือได้มุมมองใหม่ต่อรื่องราวเหตุการณ์บนโลกใบนี้ ที่คนแบบ ‘แนนโน๊ะ’ ไม่มีอยู่จริง หากเป็นคุณ คุณจะตัดสินใจจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร
ติดตามเรื่องราวการเอาคืนสุดระทึกที่สาแก่ใจคนเป็นเหยื่อ พร้อมกันทั่วโลกกับ เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2) ผลงานของ Netflix ร่วมกับ จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล รับชมได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix เท่านั้น
ข้อมูลซีรีส์
ชื่อเรื่อง: เด็กใหม่ ซีซั่น 2 (Girl From Nowhere Season 2)
จำนวนตอน: 8 ตอน ความยาวตอนละ 45 นาที
ออกอากาศ: วันที่ 7 พฤษภาคม 2021
นักแสดง: คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล, นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, แพทริเซีย กู๊ด, ทสร กลิ่นเนียม, อภิชญา พานิชตระกูล, ภูมิภัทร ถาวรศิริ, ภัทรวรินทร์ ทิมกุล, ชุติมา ทีปะนาถ, ภัณฑิรา พิพิธยากร, ญารินดา บุนนาค และ พลอย ศรนรินทร์
ผู้กำกับ: ไพรัช คุ้มวัน (เด็กใหม่, สยามสแควร์) , คมกฤษ ตรีวิมล (เด็กใหม่, เพื่อนสนิท, สายลับจับบ้านเล็ก), สิทธิศิริ มงคลศิริ (เด็กใหม่, แสงกระสือ), ปวีณ ภูริจิตปัญญา (สี่แพร่ง, บอดี้ศพ#19), สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์, จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ (เด็กใหม่, กักตัว สตอรี่)
ผู้เขียนบท: คงเดช จาตุรันต์รัศมี, อาทิชา ตันธนวิกรัย และ ทินพัฒน์ บัญญัติปิยพจน์
ผู้อำนวยการผลิต: เอกชัย เอื้อครองธรรม
ผู้ดำเนินการผลิต: Netflix ร่วมด้วย จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ บริษัท เซาเออร์ บางกอก
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news