กระแต อาร์สยาม เล่าเคยเกือบทิ้งฝันในการเป็นนักร้องเพราะยิ่งร้องเพลงยิ่งเป็นหนี้
กระแต อาร์สยาม เล่าเคยเกือบทิ้งฝันในการเป็นนักร้องเพราะยิ่งร้องเพลงยิ่งเป็นหนี้ พร้อมเปิดความรักที่เป็นความลับมาตลอด 8 ปี
เรียกว่าเปิดใจหมดในทุกเรื่องราวชีวิตทีเดียว สำหรับ กระแต อาร์สยาม ที่มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการCLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวได้เผยว่าชีวิตนี้คือต้องสู้มากๆเพราะกว่าจะได้มาเป็นนักร้องยืนอยู่จุดที่สปอร์ตไลฟ์ส่องทุกวันนี้ ก็เกือบจะทิ้งฝันไปแล้วเพราะยิ่งร้องเพลงคือ ยิ่งเป็นหนี้เลยทำให้ต้องหยุดฝันไปและคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นนักร้องแล้ว แต่ชีวิตเมื่อถูกลิขิตให้มาเส้นทางนี้ก็ได้รับโอกาสอีกครั้ง แต่โอกาสที่ได้รับก็มาพร้อมกับความตาย แถมงานนี้ สาวกระแต ยังได้เปิดใจถึงความรักที่เป็นความลับมาตลอด 8 ปี อีกด้วย
ถาม แต่การเป็นนักมวยคือยังไงเอ่ย
กระแต : นักมวยจริงๆเราเริ่มจากการร้องเพลงก่อนเพราะที่บ้านก็เป็นนักร้องกันหมดเลย แล้วคุณพ่อก็เป็นคนที่ชอบมวยมากแล้วตอนนั้นด้วยความที่ยังไม่มีน้องชายเราก็จะแมนๆห้าวๆตั้งแต่เด็กก็ไปต่อยมวยกับคุณพ่อ ตอนนั้นอายุแค่11 ปีเอง ก็ไปซ้อมไปฝึกกับข้างบ้านที่เขาเป็นค่ายมวยแล้วรูปทรงเราได้ เราได้มีโอกาสไปเที่ยวงานวัดคุณพ่อก็จับขึ้นชกเลย เมื่อก่อนก็ยังไม่ค่อยมีนะคะ มวยหญิง แต่พอเราเห็นว่าได้เงินเราก็เลยอยากจะหาเงินหารายได้พิเศษก็เลยชกแล้วเราก็รู้สึกว่าเราชอบด้วยพอชกไปชกมาเราก็มีชื่อเสียงในวงการมวยเพราะว่าเราเป็นคนที่แบบ… แตกต่างจากนักมวยหญิงคนอื่นๆคือนักมวยหญิงทั่วไปจะออกทอมบอยหน่อย ตัดผมสั้น ส่วนเราจะเปียผมใส่กางเกงมวยสีชมพูแบบน่ารักขึ้นไปชกเหมือนว่าเป็นคาแรคเตอร์เราชัดเจนเลย ส่วนชื่อในวงการมวยของเราคือ น้ำหวานน้อย ศักดิ์บุญมาค่ะคือ เป็นชื่อของคุณแม่ค่ะ คุณแม่ชื่อน้ำหวาน คือเราไปขึ้นชกไฟล์แรกเราไม่รู้จะใช้ชื่ออะไรก็เลยใช่ชื่อคุณแม่แล้วกันเป็นสิริมงคลดีค่ะ เราก็ไล่ชกไปเรื่อยๆตั้งแต่ภาคเหนือเราก็ได้แชมป์ภาคเหนือ แล้วก็ไล่ชกมาเรื่อยๆแล้วก็มาได้แชมป์ประเทศไทยด้วยค่ะ ถามว่าเจ็บไหมเวลาชกเจ็บนะคะ เพราะว่าเราเป็นมวยอาชีพ แต่ที่ทำให้เราภูมิใจที่สุดก็คือ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชกที่ญี่ปุ่นไป 2 ครั้ง เราก็ได้แชมป์มวยไทยหญิงนานาชาติด้วยค่ะ แต่คนส่วนมากจะไม่ได้รู้จักเราทางด้านวงการมวยเท่าไหร่ส่วนมากมาโฟกัสเราในส่วนที่เป็นนักร้องมากกว่า แต่จริงๆเราเกิดจากการเป็นนักร้องและนักมวยคือคนจำภาพเราได้เพราะตอนนั้นอัลบั้มคือ เราใส่ชุดนักมวยแล้วก็ร้องเพลงไปด้วย เพลงหนูไม่ได้ตั้งใจดำเพลงแรกเลยตอนนั้นอายุ 15-16 ปีค่ะ
ถาม คือในอาชีพหนึ่งเราก็ต้องอาศัยรูปร่างหน้าตาแล้วไปชกๆแบบนั้นไม่กลัวมันจะเพลี่ยงพล้ำ พลาดท่าหน้าเยินกลับมามีกลัวไหม
กระแต : คือกลัวนะคะ แต่ด้วยความตอนนั้นยังเด็กมาก และยังไม่ได้ทำดั้งก็เลยไม่ค่อยกลัว (หัวเราะ) เราก็ใส่เต็มเลยเพราะว่าเราเป็นคนสู้ ค่อนข้างเป็นคนเอาจริงเอาจังทุกอย่างเลยแบบตอนที่เรามาทางสายมวยเราก็มองแบบจะเอาให้สุดไปถึงเป็นแชมป์ก็ทำได้ จริงๆแล้วเป็นนักร้องเราก็ไล่ประกวดตามเวทีต่างๆนะคะ ก็เหมือนเป็นพวกล่าถ้วยรางวัลก็ได้แชมป์รายการลูกทุ่งเยาวชน ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯด้วยก็ได้ที่ 1 ของประเทศเหมือนกัน
กระแต : ก็พอได้เป็นนักร้องปุ๊บ !! คือ มันไม่ได้เลยกลับกลายเป็นหนี้หนักกว่าเดิม คือ ตอนนั้นเรายังเรียนอยู่ที่ลำปางค่ะ แล้วเวลาที่จะต้องเดินทางมาทำงานทีคือ เราก็ยังไม่มีเงินเนอะ ก็ต้องยืมญาติเติมน้ำมันไปกลับค่าโรงแรมอีกก็เป็นหมื่นแล้วค่ะ แต่ค่าตัวที่เราได้เวลาออกคอนเสิร์ต คือ ต้องบอกว่าตอนนั้นเราก็มีคนดูแลเขาก็เหมือนมีหักเปอร์เซนต์เป็นปกติค่ะ ตอนนั้น 4 คนที่เราออกเป็นลูกทุ่ง 4-ทีนเนอะคะ ถ้ายังจำได้อยู่คือต้องหาร 4 อย่างค่าตัวได้ 50,000 บาทก็จะเหลือคนละ 10,000 กว่าบาทแต่หักค่าดูแลอีก 60 % หนูได้ 40 % สมัยก่อนก็จะหักประมาณนั้นค่ะ หักเยอะอยู่ค่ะ ซึ่งเราผ่านมาแล้วเราก็โอ้โห .. สุดท้ายคือ เหลือคนละ 2,000 – 3,000 กว่าบาทเองค่ะ ต่องานนะคะ มันก็จะไม่คุ้มค่าน้ำมันค่าที่พักเลย แล้วเราก็เลยเหมือนมาต่อสู้มาเรื่อยๆจนเริ่มท้อแล้วมันไม่มีเงิน แล้วเรื่องของเรื่องคือไม่มึใครให้เรายืมแล้วด้วย เหมือนว่าเรายิ่งร้องยิ่งติดหนี้ พ่อขับรถมาเราก็เลยบอกทางพี่เณรว่าหนูคงไม่ได้มาแล้วเพราะว่าทางบริษัทจะซัพพอร์ตการเดินทางของเราก็ไม่ได้ก็เลยหยุดไป ก็อยู่ลำปางก็เรียนต่อจนถึงม.6 กลับบ้านไปคือร้องไห้เลย ถ้วยรางวัลที่เราหามาเป็นร้อยๆถ้วยเราคงไม่มีบุญได้เป็นนักร้องแล้ว มันไม่มีกำลังใจเลย เพราะรู้สึกว่าถ้าเราไปครอบครัวยิ่งเป็นหนี้เป็นสิ้นมากขี้น ก็เลยหยุดไปแล้วก็ไปเข้าวงการเทควันโดยังไม่หยุดฝันค่ะ เพราะคิดว่าในเมื่อเราไม่ได้เป็นนักร้องแล้วเราก็ไปแข่งเทควันโดแทน ด้วยความที่เรามีพื้นฐานมวยอยู่แล้ว ก็ไปแข่งตามภาคเหนือก็ได้ถ้วย To Be Number One เราก็เลยไปสายเทควันโดเพราะเหมือนตอนนั้นน้องวิว กำลังดังค่ะ เราก็คิดเลยว่าเราจะไปเอาเหรียญทองที่โอลิมปิก เพราะเราเป็นคนที่คิดอะไรเราก็คิดให้สุดของสายนั้นๆเลยค่ะ ก็เลยเริ่มไปฝึกแล้วก็เริ่มมีการแข่งเราก็ยังไม่ได้สายดั้งดำเราก็ไปแข่งตามประสาเราเพราะเราเพิ่งเริ่ม ก็ชนะมาหลายงานมากเพราะว่าเขาไม่กล้าเข้าเพราะว่าเราเป็นนักมวยแล้วเรามีพลังเยอะหน่อย แข่งจนมีทีมชาติเขาติดต่อมาว่าสนใจที่จะเข้าทีมชาติไหม แต่ต้องเก็บตัว 2 ปีนะคือ ไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ใจของเราคือ ยังอยากจะเป็นนักร้อง เพราะเราคิดว่าเราเกิดมาเพื่อร้องเพลงแต่ว่าตอนนั้นจบม.6 พอดีค่ะ ก็เลยโทรไปหาพี่เณร ว่าเรายังมีโอกาสจะได้เป็นนักร้องอยู่ไหมเขาก็บอกให้เราบินมาเลยเดี๋ยวเขาออกค่าตั๋วให้มาทำเพลงพอดีมีเพลง เปิดใจสาวแต ค่ะตอนนั้น ก็เลยกลับมาทำเพลงนี้ก็เลยพลิกชีวิตเลยค่ะ ก็ดังเปรี้ยงเลยขึ้นชาร์จตอนนั้นก็แบบ FM กำลังฮิตกันก็มีงานเรียกว่าเป็นอัลบั้มปลดหนี้เลยค่ะ
ถาม ความรักแรกๆของกระแต คือ อยู่แถวค่ายมวย
กระแต : อายุน้อยมากค่ะ ตอนนั้น 13-14 ปีเราอยู่ค่ายมวย ก็มีนักมวยหญิงเยอะเราก็เหมือนเป็นดี้แล้วก็มี Puppy Love เพราะว่าตอนนั้นก็เป็นคนแรกที่เราคุยตอนแรกก็เป็นพี่น้องแล้วก็คบกันมาจน 8 ปีเลยค่ะ เป็นสาวที่น่ารักเป็นทอมนะคะเป็นนักมวยด้วยกันช่วยกันซัพพอร์ต เขาดูแลเราดีมากๆ แต่ความรักที่จบลงเพราะว่าจริงๆเขาดีทุกอย่างเลยนะคะ คือดูแลเราทุกอย่างเป็นแม่บ้านซักผ้าดูแลเราคือดีมาก แล้วอีกอย่างตอนนั้นก็ไม่ได้อยากมีแฟนเป็นผู้ชายเพราะว่าเราก็กลัวเดี๋ยวพลาดเดี๋ยวอะไร ก็ดีแล้วมีเพื่อนเป็นคู่ชีวิต แต่เขาเสียแค่เวลางอลกันตามประสาเนอะคะ เขาก็จะมีการปาร์ตี้ไปดื่มเหล้ากันแล้วเขากลับมาเขาจะเป็นปีศาจเวลาเมาค่ะ (เขาก็จะหยาบคาย โวยวายเหมือนประสาคนเมาเลยค่ะเหมือนคนขาดสติ ทะเลาะกับที่บ้านเราก็ไม่โอเคแล้ว ไม่ชอบเลย) เราก็เลยตกลงกันว่าถ้าทำแบบนี้อีกถ้าสามครั้งคือเราเลิกกันเลยนะเราไม่เอา แล้วคือ พอคบกันถึงปีที่ 8 เขาก็ทำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เราก็เลยเลิกไม่เอาแล้วเลิกจริงๆ เราก็ตัดใจเลยเพราะว่าเราเป็นคนใจแข็งมากๆถ้าไม่เอาคือไม่เอา เพราะว่าหนูเลือกครอบครัวมากกว่า ถ้าวันหนึ่งถ้าเขาเป็นแบบนี้เรื่อย..ยังไงก็ต้องเลือกเขาก็พยายามง้อเราเป็นปีนะคะ ก็คุยกันตลอดนะแต่เรารู้สึกว่าเราหายไปแล้วกับคำว่าคู่หรือแฟน แต่เป็นเพื่อนกันไปแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้รู้สึกถึงกับอกหักแต่เรารู้สึกเสียใจที่เราไม่ได้ไปต่อค่ะ เสียดายเวลาเพราะว่าเราคิดว่าเราจะอยู่กับเขาทั้งชีวิตใช้เวลามาด้วยกันตั้ง 8 ปี แล้วเคยคุยกันว่าจะอยู่ด้วยกันจนแก่เลยนะ แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เราก็เลยไม่เอาแล้ว
ถาม แต่ในจังหวะนั้น เราก็รู้สึกนึกถึงเรื่องที่เราอยากจะมีครอบครัว
กระแต : ใช่ค่ะ ก็อยากมีครอบครัวด้วยเราก็คิดว่าเราน่าจะมีน้องมีหลานให้แม่ค่ะ ก็เลยไม่คิดว่าจะกลับไปคบกับเขาพอมันโตขึ้นความคิดก็เริ่มเปลี่ยนค่ะ
ถาม แต่พอเข้าวงการมาก็มีเรื่องทำให้ กระแต น้อยใจมาก
กระแต : แล้วที่เป็นข่าวคือเราเนี่ยแทบไม่ได้คุย หรือ เราไม่ได้มีอะไรเลย มันเป็นการตีข่าว มันเป็นเรื่องของความเซนซิทีฟพออะไรฉาวๆคนจะสนใจและโยงมั่วแล้วทีนี้ แต่กลับคนที่เราคุยกับไม่เป็นข่าวค่ะ มันก็เลยแบบหลายอย่างแล้วก็เรื่องเพลงเราออกเพลงตอนนั้นมันเป็นเพลงแนวฮิปฮอปเป็นแดนซ์ แล้วเราเป็นลูกทุ่งคนเดียวที่ฉีกแนวมาเลยกลายเป็นเหมือนว่าคนที่ชอบฟังเพลงลูกทุ่งเขาก็ไม่ชอบ เหมือนเราทำลูกทุ่งเสื่อมเสียแบบทุกอย่างมันถาโถมมาหมดเลยค่ะคือ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราอยากตายนะตอนนั้นแต่มันเป็นความรู้สึกที่ .. น้อยใจชีวิตเหมือนประมาณว่าเราก็ทำงานเหนื่อยมาตั้งแต่เด็กๆ แต่คำที่เขาด่าเรา ดูถูกเราแต่ละคำ ต้องบอกก่อนว่าเมื่อก่อนเราเด็กมากๆเขาเรียกว่ามันเหมือนไม่มีกันชนที่จะปกป้องตัวเองมันลนไปหมดเลยมันร้อนโดนด่าทีเราก็ตอบกลับตอนนั้น เราไปตอบกลับไม่ใช่ปฏิเสธ คือสู้ บาวทียิ่งตอบยิ่งเละหนักมาก มีเพจแอนตี้เราอีก บางทีเราไม่ได้ทำอะไรเขาก็เอาไปพูดๆจนแบบเราเหนื่อยจังเลยตอบไปก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ๆก็มีแบบด่าว่าขายตัวไปกันใหญ่มากแรงมาก คือ ด่าไปถึงคุณแม่เลยค่ะ เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้เนอะคะ ถ้าย้อนกลับไปที่เราเห็นที่ผ่านมาคือ โลกไม่ได้สวยอย่างที่เราคิดเลย น่ากลัวจังคือเราไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนขนาดจะต้องมาแช่งเรา ด่าเราขนาดนี้เราก็เลยรู้สึกว่าน้อยใจที่แบบว่า..เมื่อไหร่จะหยุด เราอธิบายอะไรไปเขาก็ไม่ฟัง ไม่เชื่อ ซึ่งเราเข้าใจว่าตอนนั้นมันเป็นอะไรที่เซนซิทีฟแล้วเราไม่มีกระบอกเสียง เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในความคิดเราคือ ไม่มีใครที่จะคอยช่วยเราคิดหรือบอกเราว่าเราควรจะทำอย่างไรเพราะตอนนั้นเราเละเทะมาก เราตอบกลับ เขาก็แคปด่ากันสนุกสนานแล้วเราก็รู้สึกเหนื่อยเพราะว่าเราไม่ได้นอนเลยเพราะว่าเรานอนไม่หลับ จับโทรศัพท์ตลอดเวลา ดูสิใครตอบกลับมาคือกลายเป็นเราตาโบ๋เลยเพราะว่าเราไม่ได้นอนเป็นอาทิตย์ มันนอนไม่ได้
ถาม ตอนนั้นที่ทำให้ใจของเราดำดิ่ง เพราะว่าคนด่าเราเรื่องงาน
กระแต : หลายอย่างเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ คือ ทุกอย่างเลยค่ะ คือเราก็งงมากเพราะพอมันจะมาคือมาพร้อมกันจังเลยแล้วเราก็น้อยใจๆแล้วเราก็อยากหลับไปเลยไม่ต้องตื่นเลย เหนื่อยจังอะไรอย่างนี้ คือเราไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องตายนะคะแต่ว่ามันแค่รู้สึกชั่ววูบว่าโอเคในเมื่อนอนไม่หลับเราก็กินยานอนหลับเลยเราก็เลยกินยาไปเลยเกือบ 20 เม็ด (ร้องไห้) คือ เราแค่อยากนอน คือ เราไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยนะคะ เพราะว่าเราสร้างภาพว่าเราแข็งแกร่งตลอด (ร้องไห้) สงสารคุณแม่มากค่ะ ตอนนั้นหลังจากที่เราทานยาไปแล้ว ที่ไม่กล้าพูดเรื่องพวกนี้เพราะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แต่ว่าวันนี้ที่อยากพูดเพราะว่าเราโตขึ้นแล้วแล้วก็พร้อมที่อยากจะพูดเผื่อมีใครที่เจอแบบเรา คือ ตอนนั้นเราแค่อยากนอนแล้วตื่นมาอีกทีเรื่องพวกนี้คงหายไป ครั้งนั้นคือเป็นบทเรียนชีวิตของเรามากเลยค่ะ
ถาม แล้วกับความรักครั้งนี้ที่ กระแต คิดว่าเป็นรักครั้งสุดท้าย เขาเข้าใจเราจริงๆใช่ไหม เพราะเห็นว่าเขาเงียบๆด้วยความที่เขาไม่พูดปั๊บมันกลายเป็นว่าเอ๊ะ..เขาต้องเข้าใจสิ หรือตอนที่มาออก Club Friday Show เนี่ย กระแต บอกเขาไหมว่าเราจะคุยเรื่องของความรักนะ เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดถึงเขาเลย
กระแต : บอกค่ะ เขาก็บอกเราว่าจริงสิ ได้หรอกเขาก็ตกใจ (ตอบแบบเขิน) เราก็มาพูดครั้งแรกที่มากที่สุดแล้วค่ะ ในรายการเพราะถือว่าวันนี้เป็นวันที่ก็มองว่าตัวเองก็อายุเยอะขึ้น โตขึ้น แล้วก็ประสบการณ์ต่างๆเวลามันผ่านมาเราก็เป็นคนใหม่ ไม่ผิดนะที่เราจะมีครอบครัวเพราะว่าอย่างน้องที่สนิทกัน ใบเตย มีลูกแล้ว ฉันยังไม่ได้ถึงไหนเลยอะไรอย่างนี้ เห็นเขาอุ้มลูกเราก็อิจฉาน่ารักจังเราอยากมีบ้าง เป็นโมเมนต์ที่ผู้หญิงทุกคนก็มีเป็นปกติค่ะ
ถาม ไหนๆก็มาพูดถึงหวานใจที่นี่เป็นที่แรกแล้วมีอะไรที่อยากบอกเขาบ้างไหม หรืออยากขอ อยากขอบคุณ หรือแม้แต่ขอโทษบ้างไหม
กระแต : เขินเลย !!! ก็เหมือนเราเป็นคนที่คุยกันน้อยอยู่แล้ว ก็มองตาบางทีรู้เลยว่าแบบเธอจะพูดอะไร อ้าปากคือรู้เลยว่าฉันเหนื่อยแล้วเธอจะพูดอะไรแต่สุดท้ายเราเคยสัญญาแล้วว่า..ตั้งเป้าไว้ถ้าเรามีเงินพันล้านจะแต่งงานค่ะ ก็ขอให้ทำให้ได้นะคะ รออยู่ เหมือนแบบเราจะเป็นคนตลกไงแล้วเขาก็จะรู้ว่าเราเป็นคนอย่างนี้ คือ เราไม่ค่อยคุยเรื่องความรักกับใครเลยค่ะ เราคิดว่าเราคงมีแต่ความรู้สึก .. ขอบคุณที่อยู่ข้างกันมาตลอด 8 ปี มันยาวนานมากที่เธอได้เห็นความรุงรังของชีวิตเราแล้วเธอก็ยังไม่ไปไหน แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาแบบช่วยทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ดีขึ้นจริงๆค่ะ วันหนึ่งเราอยากจะบอกทุกคนว่าเราโชคดีที่มีเธออยู่ข้างๆแต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเดี๋ยวรอผ่านพันล้านไปก่อนนะ (หัวเราะ)
ถาม แต่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งถ้า กระแต พร้อมเขาก็พร้อมนั่นแหละ หมายถึงว่า กระแต พร้อมจะบอกใครๆเขาก็พร้อมนั่นแหละแปลว่าจริงๆแล้วถ้าเราเป็นเจ้าของหัวใจใครเราอยากให้ได้การยอมรับ หรือ ให้ใครๆรู้ว่า.. ฉันแฟน กระแต นะพี่อ้อย ว่าการที่กระแต แสดงออกซึ่งความรู้สึกในวันนี้ เขาต้องชื่นใจ ต่อให้เขาเป็นคนไม่พูดไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้สึก
กระแต : ใช่ค่ะ เขาไม่เคยพูดเลยเพราะว่าเขารู้ว่าเราทำงานในวงการนี้บางทีการเป็นโสดมันก็น่าสนใจ มันเนื้อหอมเนอะ พอบางทีการมีครอบครัวแล้วหรือมีแฟนแล้วเราก็เคยคิดว่าเราจะหวงความโสดไงคะ ก็เลยอยากเป็นสาวผู้มีความสวยโสดอยู่อะไรอย่างนี้ แต่ตอนนี้มัน 34 ปีแล้วค่ะ เราก็เลยอยากจะแบบเริ่มอนาคตมีครอบครัวบ้าง
ถาม จากวันหนึ่งซึ่งเราต้องวิ่งแข่งตามเวทีต่างๆไล่ตามความฝัน ตามเงินด้วย จนมาถึงวันนี้มองย้อนกลับมาความเป็นกระแต อาร์สยาม ซึ่งแน่นอนผ่านร้อนผ่านหนาวแล้วมันก็ไม่ได้ผ่านมาง่ายๆเลย ถ้าถามว่าเราภูมิใจอะไรมากที่สุด และคิดว่าบทเรียนนี้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อยากฝากให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปพร้อมกันผ่านชีวิตของเรา คือ เรื่องอะไร
กระแต : อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา คือ การพิสูจน์ตัวเอง หนึ่งคือต้องรักตัวเองก่อนเลย ไม่ว่าตอนนี้มีใครจะมีปัญหา เชื่อว่าทุกคนมีปัญหามาก่อนแล้วก็อาจจะเจอทางตัน แต่บอกเลยว่า..ทุกปัญหามีทางแก้ แค่เราเชื่อมั่นในความดีที่เราทำ อดีตก็ต้องดีพรุ่งนี้ อนาคตก็ต้องดีแค่อยากให้ทุกคนสู้ แล้วกำลังใจจากคนที่เรารักสำคัญค่ะ แล้วก็ให้นึกถึงคนที่เรารักมากที่สุด อย่างที่บอกเวลาที่เราเครียดหรือเราคิดอะไรไม่ออกเหมือนที่ แต เคยโง่อยากจะนอนไปเลยเราต้องนึกถึงคนที่เรารักสำคัญที่สุด แล้วเราจะมีกำลังใจครอบครัวคือส่วนสำคัญที่สุดเหมือนกันค่ะ อะไรก็ตามที่เราต้องการจะเป็นของให้พยายามและมุ่งมั่น ถ้าเราไม่ละความพยายาม เราทำมันด้วยความรัก เราบ้าที่จะทำมัน เราจะทำมันได้ทุกอย่างมันประสบความสำเร็จในทุกวิชาชีพแน่นอนค่ะ
ถาม ในวันที่เราอ่อนแอที่สุด ดิ่งที่สุด ลืมตาขึ้นมาวันนั้นเห็นคุณแม่อยากบอกอะไรกับคุณแม่
กระแต : อยากบอกคุณแม่ว่า หนูขอโทษ แล้วก็เชื่อแล้วว่าแม่รู้แล้วว่าเราเข้มแข็งมากเลยค่ะ แล้วก็บอกแม่ตลอดว่าจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก เพราะว่าตอนนี้เราเป็นคนใหม่มาก และบอกแม่ตลอดว่าแน่นอนเรายังต้องเจออะไรอีกเยอะเพราะเรายังอายุน้อยแล้วคุณแม่ก็บอกเราตลอดว่า..ให้เข้มแข็งเหมือนคุณแม่ เราก็จะเข้มแข็งเหมือนคุณแม่นะคะ อะไรก็ตามที่มาสะกิดจะไม่รู้สึกสักนิดเลย เพราะเราจะไม่เสียเวลากับคำของคนที่ไม่เคยเห็นค่าของเรา เราจะไม่เสียเวลาไปพิสูจน์เพื่อให้คนที่ไม่เคยรักเราได้เข้าใจเรา เพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้เวลาไปทำพันล้านของเราแม่ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลาหันไปมองคอมเมนต์เหล่านั้น บอกได้เลยว่าตอนนี้แฮปปี้ทุกอย่างค่ะ
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news