“เอ็มมี่ แม็กซิม” แซ่บ เปิดตัวพ่อของลูก และเสี่ยที่ขอเป็นพ่อบุญธรรมให้ลูก
รายการ “ถามสุดซอย” ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 – 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย “ธัญญ่า ธัญญาเรศ รามณรงค์” ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “เอ็มมี่ แม็กซิม” ซึ่งกำลังท้องลูกคนที่ 3 ทำให้เกิดความสงสัยว่าเธอท้องกับใคร เอ็มมี่เคยทำงานต่างประเทศ ทำงานที่ประเทศอะไรบ้าง? “สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย ไปเอเชียหลายประเทศ ไปแบบ 6 เดือน ถูกต้องตามกฎหมาย และมีบอสเข้ามาดีลกับเราก่อน เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งไม่ใช่เอเจนซี่อะไรทั้งนั้น โดยมีการตรวจทุกอย่างว่าเรามีประวัติเสียมั้ย มีข่าวไม่ดีมั้ย ไปอยู่ 6 เดือนเขาจะมีบ้านพักนักร้องนักดนตรีอยู่ด้วยกัน เวลาเลิกงานก็มีรถมารับ ร้านเอ็มมี่เขาจะห้ามออกไปกินข้าวกับลูกค้า ห้ามออกไปนอนกับลูกค้า กรณีลูกค้ามาชอบเอ็มมี่ก็พาไปทั้งหมดค่ะ” มีลูกค้าจีบจริงจังมั้ย? “มีค่ะ เอ็มมี่ร้องเพลงครั้งนึงเคยได้เป็นล้าน ร้านที่เอ็มมี่ไปชื่อร้านรัชดา เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในตอนนั้นของสิงโปร์ ไปตอนแรกๆ ก็คิดถึง เพราะเอ็มมี่เพิ่งคลอดน้องคนที่ 2 ได้สองเดือน ก็ต้องบินไปอยู่ 6 เดือน และคิดว่ากลับมาต้องมีบ้านมีรถ ซึ่งเราก็มีจริงๆ แต่ไปอยู่ที่โน่นหญิงไทยค่อนข้างลำบาก เพราะเราเป็นคนไม่ดริ๊งค์ ดื่มแอลกอฮอล์โดนหิ้วกลับบ้านทุกวัน บางทีมีคนให้เราล้านนึงเพลงนี้เขาชอบ หนูเคยร้องเพลงจีนแล้วเป็นเพลงดังของยุคนั้น” ล้านนึงต้องแบ่งมั้ย? “ไม่ค่ะ แล้วแต่กฎของร้าน ของร้านจะเป็นพวงมาลัยรวม ได้เท่าไหร่ก็มาหารกัน อย่างเอ็มมี่ได้มาล้านนึงเขาก็หัก 20 เปอร์เซ็นต์ แต่อยู่ที่ข้อตกลง เพราะต้นทุนไม่เหมือนกัน และค่าตัวไม่เท่ากัน เขาจะบอกเลยคนนี้ได้กี่พันเหรียญ” 6 เดือนได้เงินกลับมากี่บาท? “ไม่มียุคไหนทำเงินได้เท่ายุคเราแล้ว เพราะเราเป็นยุคแรกๆ ก็ทำเงินได้ 10 กว่าล้าน และได้ทองอีก 80 บาท ได้มือถือไอโฟนอีก 13 เครื่อง โชคดีเรามีหนังไปฉายที่โน่นพอดี เรามีแฟนคลับ ร้องเพลงอยู่เขาจะส่งไอแพดขึ้นไป กระเป๋าหลุยส์ ชาแนล ก็เป็นสิ่งที่โชคดีมากที่เราไปช่วงนั้น” ไปคาสิโนด้วยมั้ย? “นักร้องไปเล่นกันเองค่ะ เหมือนว่างก็ลองไปช้อปปิ้ง เราไปกันเป็นกลุ่มให้เวลาเท่านี้ เพราะต้องเข้างาน” แต่ละประเทศได้เงินกลับมาพอกันมั้ย? “ค่าเงินจะไม่เท่ากันค่ะ พอเอามาแลก แต่ละประเทศทำงานหนักไม่เหมือนกัน สิงคโปร์เบาสุดเพราะค่าเงินมันเยอะ สมัยก่อนนั่งเสยผมก็ได้แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เอ็มมี่กลับมาเมืองไทย อยู่ 3 เดือนแล้วกลับไป ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลย มันเริ่มมีคำว่านางแบบ เด็กนั่งดื่ม โคโยตี้เข้ามา ทำให้มันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ” ไปร้องเพลงที่ต่างประเทศ ไปอยู่ทีละ 6 เดือนกี่ปี? “ช่วงนึงหนูอยากหาเงินจริงๆ บางทีเราไม่ได้เป็นนางเอก เงินก็ไม่ได้มาก ก็หลายปีที่ใช้ชีวิตเดินสายในต่างประเทศ 2-3 ปีได้” เงินเก็บต้องเยอะมาก? “ถึงเอามาทำแชร์ได้ โดนปล้นไปเรียบร้อยแล้วค่ะ (หัวเราะ) เหลือศูนย์ แต่ล้มแล้วเราก็ต้องลุก ต้องสู้” ถ้าหมดโควิด สามารถกลับไปร้องเพลงแบบนั้นได้อีกมั้ย? “ได้ แต่การทำงานจะไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะมันเสียระบบไปหมดแล้ว สมัยก่อนมีการช่วยกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ นี่ผัวฉัน แฟนฉัน ทำให้การทำงานลำบาก พอกลับมาอยู่เมืองไทยตั้งวงเอง รับงานเองง่ายกว่า พอลูกค้าต่างประเทศ หรือเจ้าของร้านมารับไป เครดิตจะดีกว่า เพราะไปเป็นวง เมื่อไหร่เราไปก็มีเกรดมากขึ้น ดีกว่าเข้าไปโดยไม่ถูกกฎหมาย” เจ้าของร้านไม่ให้ไปต่อกับแขก พอมีเด็กเอ็นเข้าไป ได้ออกไปกับแขกมั้ย? “หนูไม่ทันยุคเด็กเอ็น แล้วไม่รู้ว่าจริงๆ เด็กเอ็นเขาทำอะไรกันด้วยซ้ำ เขารับงานกันยังไง สมัยหนูไม่มีค่ะ นับไป 10 ปีมีแต่นักร้อง พอพวกเราไปปุ๊บแค่เจอคำว่านางแบบกับโคโยตี้ โคโยตี้ใส่กางเกงขาสั้น ใส่บิกินี่ข้างบนแล้วก็เต้น แต่ถ้าเป็นคนไทยต้องห้ามแต่งตัวโป๊ เพราะตร.จับ” ตอนสมัยสาวๆ 15-16 เห็นว่ามีหนุ่มมาขอ ให้เงินเยอะมาก แต่ไม่เอา? “หนูไม่ได้ชอบผู้ชายอายุมากหรือมีเงินเยอะ ผู้ชายอายุ 30-40 แล้ว สมัยก่อนเงินล้านเยอะมาก แม่ก็อยากให้เรามีชีวิตที่ดีตามประสาพ่อแม่ เขามาขอแม่ให้เราแต่งงาน แต่เรามีแฟนอยู่แล้ว ถ้าให้เลือกแฟนคนแรกกับผู้ชายอายุมากกับเงิน แน่นอนเด็กสมัยนั้นก็ต้องเลือกแฟนคนแรก ตอนนั้นเขามาขอเอ็มมี่ 15 ล้าน ถ้านับสมัยนี้คงเป็นร้อยล้าน เพราะหนูเป็นนักร้องคาเฟ่มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่อายุ 16-17 หนูจับเงินล้านตั้งแต่เด็ก หนูรู้คุณค่าของเงิน ฉะนั้นหนูเป็นพวกเด็กรักเอย ถ้าต้องไปนอนกับใครสักคน ต้องเป็นคนที่เราเคยเห็นหน้าค่าตา ต้องเป็นคนที่เราคบหากัน รักและศึกษากัน ไม่ใช่การคลุมถุงชนหรือเงินก้อนนึงมาซื้อเรา” คือไม่ใช่เอาเงินมาแลกกับการไปนอนกับใครก็ได้? “ใช่ หนูนอนกับเขาไม่ได้ เพื่อนก็เหมือนกัน ถ้ามีเรื่องหมางใจกันหนูก็ไปนอนกับเขาไม่ได้ ดังนั้นใครที่เข้ามาในชีวิตต้องเกิดจากความรัก หรือรู้จักกันก่อน” ตอนประกาศคบผู้หญิง น้องคนนั้นไปไหน? “ไลฟ์สไตล์เราไม่เหมือนกันเลย หนูกับเขาต่างกันมาก เราเป็นนักแสดง ชีวิตกลางวันเราจะเยอะ เราจะทำงานเยอะ แต่น้องจะทำช่วงกลางคืนเยอะ มีเพื่อน มีสังคม หนูเลยรู้สึกว่าเราไม่เหมือนกัน เราให้ความอบอุ่นเขาได้แค่เป็นพี่น้อง คุยได้ทุกเรื่องอบอุ่นกว่า ก็เลยทำให้ห่างกัน แต่ก็คุยกันบ้าง พอเขารู้ว่าเรามีน้องเขาก็มาทักทายเหมือนเดิม เราไม่ได้เกลียด ไม่ได้ทะเลาะกัน” หลังจากนั้นก็มาเจอแฟนคนใหม่? “จริงๆ ผู้ชายคนนี้รู้จักก่อนน้องผู้หญิง แต่เป็นเพื่อนกัน เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นแฟนเพราะความเอาใจใส่ เสมอต้นเสมอปลาย เอ็มมี่แพ้ผู้ชายปากหวาน ดูแลเอาใจใส่เรา ตื่นเช้ามามีข้าวมาส่งรอเราแล้ว เขาทำแบบนี้ตั้งแต่เป็นเพื่อนแล้ว ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับหนู เพราะถ้าใครมาในชีวิตเราแล้วเขามาดีเราก็ดีกับเขาแค่นั้นเอง แต่เราเห็นเขาทำมาเป็นปี ยังคุยกับพี่สาว ผู้ชายคนนี้ดีเนอะ เสมอต้นเสมอปลาย หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา เขาก็บอกว่าให้โอกาสเขาได้มั้ย ลองเปิดใจ เขาไม่ได้หล่อเป็นผู้ชายธรรมดา จะคบเขาได้มั้ย” ตกลงปลงใจนานหรือยัง? “ก็เรื่อยๆ แล้วกัน ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ถ้าไปข้างหน้าแล้วไม่รอดมันจะเจ็บ แต่เราเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นคนดูแลหัวใจเรา ดูแลมาปีกว่าแล้วนะคะ” แต่ตอนนี้มีน้อง กำลังตั้งท้อง ก็เป็นสามีแล้วนะ? “ตอนท้องหนูร้องไห้เลย เสียใจ เราคิดเยอะว่าเราอายุขนาดนี้แล้ว มีน้องจะปลอดภัยมั้ย เราคิดเยอะ แต่พอโทรไปบอกเขา เขาบอกว่าดีใจจะร้องไห้ทำไม เขาสัญญาจะดูแลให้ดีที่สุด” ทำไมไม่เปิดตัว? “จริงๆ ไม่ใช่ไม่เปิดตัว แต่ตอนนั้นที่เรามีน้อง ก็ตื่นเต้น ไม่ได้คิดว่าจะเปิดตัว ตอนคบกันก็อยากให้ชิลๆ คือมันมีคำถามเยอะ อย่างอ้าว ก่อนหน้านี้คบผู้หญิงแล้วผู้หญิงไปไหน เอ็มมี่เลยมองว่าไม่เปิดตัวดีกว่ามั้ย พอเลิกกันไปคนก็ด่าเรา ไม่เปิดตัวดีกว่า ใครเห็นก็ทักทายเราได้ ไม่ได้ปิดบัง เจอเราก็ถ่ายรูปได้ทั้งเอ็มมี่และเขา ทุกวันนี้เราไปไหนมาไหนด้วยกัน เจอกัน” เราตั้งใจมั้ยว่าจะมีลูกกับคนนี้? “อีกไม่กี่ปีจะ 40 หนูกลัวลูกไม่ปลอดภัย กลัวเด็กสมองไม่เต็มร้อย แต่อยากบอกกับทุกๆ คนว่าไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นพ่อของลูกหนู แต่ลูกหนูเกิดจากความรักของเราสองคน เราดูแลกันดี โคตรของโคตรดี หนูเกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนดีขนาดนี้ ไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนให้เกียรติขนาดนี้ เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เจ้าชู้ ปกป้องหนูจากทุกๆ เรื่อง วันนี้กล้าพูดได้เลยว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากความรักของเราสองคน” อายุเท่าไหร่? “ห่างกันไม่มาก เหลื่อมๆ กันนิดหน่อย” คนก็สงสัยว่ามีเสี่ยคนนึงมารับเป็นพ่อบุญธรรมพ่อเอ็มมี่? “เขาไม่ได้เป็นเสี่ยหรอก แต่มีคนไปเมนต์ว่าเสี่ยเดแน่เลย เสี่ยเดรวยมาก พี่เดเขาเป็นเจ้าของเพจดัง เขาชอบทำบุญให้ทาน ใครแย่ๆ มาอินบ็อกมาหาเขา เขาตรงไปช่วยเลย เขาก็เอาเงินตัวเองไปช่วยคนอื่น จนวันนึงทำงานด้วยกันก็บอกเขาว่าพี่เด หนูท้อง อารมณ์คนท้องหงุดหงิด แปรปรวน หาเรื่องแฟน จะเลิกกับแฟนบ้าง ก็พูดกับเขาเล่นๆ ว่าหนูจะเลิกกับแฟนแล้วนะพี่เด เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวดูแลเองในฐานะพี่ชายไปฝากท้องนะ ค่าคลอดเท่าไหร่ ให้บอก ทุกวันนี้ยังไม่คลอดก็หมดเป็นแสนแล้ว เขาช่วยดูแล และมีการส่งนมแอนมัมมา 18 ลัง หนูรู้สึกว่าโชคดีที่มีน้องอะตอม พี่เดไม่ใช่สามีค่ะ พี่เดเป็นพี่ ที่โคตรของโคตรเป็นคนดีและใจบุญมาก ที่เรียกพ่อบุญธรรมเพราะตอนนั้นพี่เดมาดูแลเอ็มมี่ เราก็บอกว่าเป็นพ่อมั้ย เดี๋ยวใส่ชื่อพ่อเข้าไป เขาบอกว่าไม่เอา” เปิดสตูฯ ให้ด้วย? “ใช่ ความฝันเขาคืออยากทำสตูฯ แต่ไม่มีเวลา งานเขาเยอะ หนูก็บอกว่าอยากทำสตูฯ อยากมีอาชีพ มีบริษัทเป็นของตัวเอง เขาก็บอกว่าทำเลย จัดเต็ม บอกมาพี่จัดให้ เขาก็ทำสตูฯ ให้จนเสร็จ ซื้อกล้อง ซื้ออะไร ทุกอย่างจัดเต็ม ไปสตูดิโอเอ็มมี่ทำได้ทุกอย่าง” สามีไม่หึงเหรอ? “ไม่ค่ะ เขาเจอกันและแนะนำตลอด” สามีดูแลยังไง? “เขาดูแลดีมาก อย่าให้พูดเลยเดี๋ยวอิจฉา (หัวเราะ) กินข้าวหรือยัง ลูกเตะมั้ย วันนี้คุณแม่ทำอะไร รายละเอียดเยอะมากจนเรารำคาญ อันนี้กินไม่ได้นะ เขาดีมาก อาจเป็นครั้งแรกที่เรามีน้องและมีคุณพ่ออยู่เคียงข้าง เพราะลูกสองคนก่อนไม่มีคุณพ่อเคียงข้าง เอ็มมี่รู้สึกว่าการมีลูกของเอ็มมี่ครั้งนี้ทำไมวิเศษจัง ลูกชายโตแล้ว จะ 16 เขามีโลกส่วนตัวจะไม่ยุ่งกับแม่ เดือนนึงได้คุย 2 ครั้ง แค่นั้นจริงๆ โลกส่วนตัวมาก แต่ลูกสาวจะติดเรา อายุ 11 อยู่ป. 6 ติดเอ็มมี่” ตอนมีปัญหาเรื่องแชร์ที่ตอนนั้นเราเหมือนหมดตัว มีเสี่ยมาขอเลี้ยงมั้ย? “หนูรู้ว่าทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ คือเขาชอบอินบ็อกมาหาหนู หนูไม่รู้ว่าเป็นเสี่ยมั้ย หนูใส่เบอร์โทรผู้จัดการ ผู้จัดการก็โทรไป บางคนขอถ่ายรูปเป็นไพรเวตให้เอ็มมี่แก้ผ้า ชม.ละ 3 แสน ดีลกันจบเรียบร้อย เราบอกทำได้แค่นี้ จะรับมั้ย พอเอาจริงๆ เขาก็ไม่กล้าจ่าย บางคนขอกินข้าวได้มั้ย ชม.ละ 3.5 แสน ผู้จัดการเขารู้ว่าถ้ามาหาหนู หนูด่าแน่ หนูโพสต์ประจานไม่ปิดชื่อด้วย หนูไม่มีโมเมนต์อยู่ให้ใครเลี้ยง หนูทำงานหาเลี้ยงตัวเองตลอด ทำงานหนักมาโดยตลอด ไม่มีโมเมนต์มีผัวรวยหรือเสี่ยเลี้ยง มีแค่พรุ่งนี้จะทำอะไร เช็กคิวให้สิต้องทำอะไร ไม่เคยมีตื่นมาแล้วมีเงินวางอยู่บนหัว” ยืนยีนได้ว่าไม่เคยนอนกับใครแล้วเอาเงินเขามา? “หนูท้าหลายๆ คนที่บอกว่านอนกับเอ็มมี่ ช่วยเสนอหน้าออกมา กล้าๆ หน่อย แล้วบอกว่าคุณจ่ายเอ็มมี่เท่าไหร่” ช่วงเราแย่ๆ แย่ขนาดไหน? “แย่ถึงขั้นโพสต์ประชดชีวิต ตอนนั้นก็เริ่มเจอสามี แต่เขาก็ไม่ได้มาช่วยอะไรเรามาก เขาแค่ซื้อข้าวมาให้เราทุกๆ วัน โดยที่เราไม่ต้องอดอยากปากแห้ง เราได้กินอิ่ม แต่เมื่อเราเป็นแม่ ไม่ว่าจะจนแค่ไหนก็อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ หนูก็ไขว่คว้าและดิ้นรนให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ เพราะชีวิตเราไม่เคยเรียนโรงเรียนเอกชนเราก็อยากให้ลูกเรียนเอกชน เพราะวันหนึ่งเราตายไปแล้ว ลูกยังมีความรู้ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะอีกไม่นานเราก็ตาย เราก็ป่วย หนูพร้อมตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นลูกเราต้องมีความรู้ความสามารถเพื่อเอาตัวรอดได้ พอเขาไปเรียนโรงเรียนดีๆ สังคมดีๆ การวางตัวเขาก็ดี ไปไหนมาไหนผู้ใหญ่เอ็นดูเขา เอ็มมี่ตายตาหลับแล้ว ลูกเราไม่ลำบากแล้ว คิดแค่นี้จริงๆ แต่ตอนนั้นคนก็ด่าเอ็มมี่ว่าทำไมไม่ให้ลูกเรียนรัฐบาล ดราม่ากับเอ็มมี่ เอ็มมี่ก็ตอบไปว่าเมื่อไหร่ที่เราเป็นแม่ เราก็อยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเพราะฉันยังไม่ตาย ฉันมีมือมีตีน บางทีที่โพสต์เพราะเหนื่อยอย่างเอ็มมี่โดนโกง เขาทิ้งเอ็มมี่ไปหมดเลย ทำให้เอ็มมี่รู้ว่าใครเป็นเพื่อนใครเป็นหมา ใครอยู่ข้างๆ เรา พื้นที่ส่วนตัวหนูก็ระบายของหนู อย่าด่าหนูนักเลย วันนี้หนูก็สู้และลุกแล้ว กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่ที่เจอพี่เด” เอาเงินไหนจ่ายค่าเทอมลูก? “พี่เดช่วยทุกอย่างจนทุกคนบอกว่าเป็นเสี่ยเหรอ พี่เดจ่ายค่าเทอมให้น้อง น้องเรียนพระหฤทัย ค่าเทอมพี่เดก็จ่ายให้ ถ้าวันนี้เอ็มมี่จะสร้างคนขึ้นมาให้คนรู้จัก อยากให้รู้จักพี่เด เพราะที่ผ่านมา คนทะเลาะกับหนูคนก็รู้จักทั้งประเทศ บางทีเราช่วยเขาด้วยใจ แต่กลายเป็นว่าเรากลายเป็นคนโกง ทำให้คนรู้จักเขาทั้่งประเทศ สิ่งที่เราได้รับคือฉันกลายเป็นคนขี้โกงอีก ถ้าวันนี้จะสร้างใครขึ้นมา สิ่งที่คนในโลกต้องรับรู้ว่าเป็นคนดีจริง และมอบให้ประเทศชาติจริงๆ คือพี่เดและแม่เทพ วรมันต์ สองคนเท่านั้น” เห็นว่าไลฟ์สดขายของ ขายอะไร? “ก่อนหน้านี้ไลฟ์ขายเสื้อผ้า คนเราแปลกอย่างนึง เวลาขายของไม่สนใจสิ่งที่เราจะทำ เมื่อก่อนเรามีเสื้อผ้าแบรนด์เนมเยอะมาก เอ็มมี่เอามาขาย ตัวละ 20-30 ร้อยสองร้อยไม่มีใครเอาจริงๆ เอ็มมี่ใส่ครั้งเดียวจบ เสื้อผ้าแบบนี้ไม่เอาเหรอ เอ็มมี่ก็แปลกใจ แล้วมาว่าเราโพสต์ให้คนสงสารเลยเลิกขายของ แต่ที่ดราม่าคือกางเกงในแบรนด์ฝรั่งเศส เอ็มมี่ไปดอนเมืองกำลังจะบินไปต่างจังหวัด เขาลด 70 เปอร์เซ็นต์ จาก 1,100 บาท แล้วแถมอีก และมีคนจ่ายให้หนู แล้วใครจะไม่เอา พอกลับมาปุีบน้องสาวขี้แกล้งเขาอยากหัดเป็นแม่ค้า ขายของ มันเป็นกางเกงในที่หนูยังไม่ซักก็เอามาแกล้ง แล้วเขาก็บอกว่ากางเกงในตัวนี้ 1,100 บาท แต่ท้ายคลิปจะบอกว่ามีคนซื้อให้ เวลาคุยกับน้องก็ปัญญาอ่อนนิดนึง เล่นกับน้อง แต่สงสัยคนพอเวลาเกลียดก็จะฟังแค่สิ่งที่สามารถด่าได้ เขาก็เข้ามาคอมเมนต์ว่าทำไมใส่กางเกงในแพงจัง ปกติไม่มีจะกินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หนูก็ปรี๊ดว่าพี่คะ กรุณาดูท้ายคลิปด้วยนะคะว่ามีคนซื้อให้หนู หรือจะให้คนซื้อให้หนูออกมาด้วยมั้่ย สรุปพอเอาคลิปมาโพสต์อีกรอบ และโพสต์แคปชั่นเข้าไป เขาก็ลบคอมเมนต์เขาไปแล้ว ก็เลยรู้สึกว่ากว่าจะเกิดเป็นเอ็มมี่แม็กซิมกว่าจะมีชื่อเสียงได้ เป็น 20 ปี ตบกับพี่ญ่ายังไม่ดังเท่า ทำไมเกิดเป็นหนูโดนด่าโดนดราม่า ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร เราจะทำสิ่งดีๆ ออกมาให้คนเห็น ให้เขามาขอความช่วยเหลือและขอโทษเรา สุดท้ายก็เป็นจริงๆ” ต่อให้คนด่าก็ไม่ต้องสนใจ น้อยคนจะหาเงินเป็น 10 ล้านได้? “ช่วงนั้นเบญจเพส และขาขึ้นด้วย เชื่อเรื่องดวง” สรุปจะเปิดตัวสามีมั้ย? “หนูไม่ปิดบัง และเปิดตัวแน่นอน ตอนนี้เราทำธุรกิจด้วยกัน อยากให้ทุกคนติดตามเอ็มมี่ในตัวตนเอ็มมี่้จริงๆ หลายคนอาจไม่ถูกใจ แต่กล้าพูดได้ว่าน้อยคนมากที่จะพูดตรงเหมือนหนู อะไรไม่ใช่ความจริงอีเอ็มมี่เถียงใจขาด เป็นธุรกิจที่ใครในวงการยังไม่ทำกัน ทุกคนจะต้องมาอุดหนุนเอ็มมี่ก็ได้ค่ะ”