ขอบคุณที่อดทนรอ! เบนซ์ พรชิตา เปิดความในใจถึง มิค บรมวุฒิ

ขอบคุณที่อดทนรอ! เบนซ์ พรชิตา เปิดความในใจถึง มิค บรมวุฒิ พร้อมยกเป็นพ่อและสามีที่ดีที่สุด พร้อมขอคำปรึกษาปัญหากวนใจมาสอบถามพี่อ้อยพี่ฉอด

 

 

เมื่อ มิค บรมวุฒิ ได้ควงภรรยา เบนซ์ พรชิตา กลับมานั่งเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 อีกครั้ง เจ้าตัวก็ได้ระบายความรู้สึกพร้อมกับเปิดความในใจหลังจากแต่งงานมา 5 ปี รอวันนี้ที่จะมาพูดในรายการ เพื่อขอคำปรึกษาจาก พี่อ้อยพี่ฉอด และความในใจของ เบนซ์ ที่เผยถึง มิค ขอยกเป็นพ่อและสามีที่ดีที่สุด ขอบคุณที่อดทนรอ

ถาม มิค ก็เรียกได้ว่าเป็นพ่อบ้านเต็มตัวมากๆเหมือนกัน ทำอะไรบ้างคุณพ่อมิค
มิค บรมวุฒิ : หนูพูดเลยว่า มิค ทำอะไรบ้าง
เบนซ์ พรชิตา : ทำงานนอกบ้านและทำงานในบ้านค่ะ มี 2 อย่าง งานในบ้านคือ ซักผ้าแล้วก็จะทำอาหารเขาจะทำอาหารให้ลูก
มิค บรมวุฒิ : ซักผ้าที่เราซักเอง คือ ตั้งแต่เกิดมาผมเป็นลูกคุณหนูนะ ผมนี่ชี้นิ้วสั่งไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งโตขึ้นมา ผมต้องมานั่งเป็นเบ๊ทุกคนในบ้าน
เบนซ์ พรชิตา : ไม่ได้ให้ทำ
มิค บรมวุฒิ : แล้วแกทำไม แล้วถ้าไม่ทำใครจะทำ
เบนซ์ พรชิตา : ก็ให้แม่บ้านทำ

ถาม แล้วเราให้แม่บ้านซักผ้าไม่ได้เหรอ
มิค บรมวุฒิ : ตอนแรกให้แม่บ้านซักเสื้อผ้า มิค แต่เสื้อผ้าลูก มิค เป็นคนซักเองเดี๋ยวเขาใส่ผงซักฟอกเยอะไปเดี๋ยวลูกจะคันหลังๆเราก็เริ่มรู้สึกว่า อ้าว !! ภรรยาเรามาอยู่แต่แม่บ้านเป็นแม่บ้านเราเราก็ทำให้เองอีกไปๆมาๆเราทำเองหมด เพิ่งพานางไปชอปปิงชุดชั้นในเพียบ !! แล้วเดินมาบอกเราว่าดูดิสีตกเราก็บอกว่าใครใช้ให้ใส่รวมกัน

ถาม คุณผู้ชมนี่คือรายการที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวจริงๆ
มิค บรมวุฒิ : คือ ผมก็ไม่เข้าใจว่าของของคุณ
เบนซ์ พรชิตา : เดี๋ยวคราวหน้าแยก คือ เราเข้าใจว่าเสื้อในมันรวมได้เข้าใจว่าสีมันไม่ตกไง

ถาม มิค เขารอมา 5-6 ปีเลยนะที่เขาจะได้มานั่งระบายตรงนี้
มิค บรมวุฒิ : ตอนนี้ มิค สูบลมมาเต็มที่ตัวพองใหญ่มาก นี่ล่าสุดฮามากเลยนะครับ มิค กลับมาบ้านเพราะว่างานเช้าเสร็จเร็วแม่ก็เดินลงมาแล้วถามเราว่าทำไมไม่ไปนอนที่สองล่ะลูก เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานแล้วนี่ ไปนอนรอสิก็บอกอ๋อ .. มาซักชุดชั้นในกางเกงในให้ เบนซ์ แล้วก็มาทำโน้นทำนี่นิดหน่อยครับ เดี๋ยวออกแล้วมันเป็นภาพที่ทุเรศมากในชีวิตคือแม่เดินมาลูบหัวแล้วก็หมดกันแบดบอยของแม่แล้วก็เดินขึ้นบ้านไปเลยแล้วก็ทิ้งผมแบบ .. เกิดอะไรขึ้นเออๆกิตติศัพท์ที่เราเป็นเด็กเฟี้ยวมาตั้งแต่เด็กจบเลย

ถาม ได้มีการตกลงบทบาทกันว่าอันนี้เธอ อันนี้ฉัน
มิค บรมวุฒิ : เปล่าหรอกจริงๆก็คือหนึ่งคือเขาไม่ทำ สองคือเราก็รู้สึกว่าเราทำให้มันก็ไม่ได้แย่ เราทำให้มันก็ดูเหมือนเราใส่ใจดีเนอะอะไรอย่างนี้
เบนซ์ พรชิตา : คือ มันเป็นเรื่องที่ได้บอกกับแม่เราเอาไว้ว่าตอนแต่งงานว่าจะเลี้ยงดูเหมือนกับอยู่ที่บ้าน
มิค บรมวุฒิ : เขาไม่ผิด (เสียงสูง) ผิดตรงเอาผ้าสีไปใส่ผ้าขาวครับ
เบนซ์ พรชิตา :

ถาม ทุกวันนี้ แม่เบนซ์ เป็นอย่างไรกับ มิค บ้าง
เบนซ์ พรชิตา : ลูกรักเลยค่ะ เขาเป็นลูกรัก มิคเอาอะไรไหมลูกเธอโทรถาม มิค สิว่าตอนเย็นเขาจะกินอะไรแม่เขาเห็นแล้วว่าสามารถดูแลลูกและหลานได้อย่างโอเค แล้วก็แบบคือเขาก็ขยันทำงานค่ะ ถือว่าโอเคเป็นลูกเขยที่ดีมาก

 

ถาม เบนซ์ เขาดุมากเลยไหม ทุกวันนี้ยังเป็นไหม โมโหเร็วขึ้นเร็วลง เร็ววีนเหวี่ยงหรือสมควรแล้วสมควรโดน
มิค บรมวุฒิ : มิค ว่า มิค ไม่สมควรโดนในหลายๆเรื่องนะ มิค กล้าพูดแล้ว มิค ก็เชื่อว่า เบนซ์ ก็กล้าจะพูดว่า พี่มิค ไม่เคยทำอะไรให้หนูต้องโดน
เบนซ์ พรชิตา : แต่พี่เป็นคนพิเศษของหนูที่ได้สิทธิ์นั้นคนเดียว
มิค บรมวุฒิ : ไม่ดีใจเลยครับไม่เคยได้เรียกร้องขอสิทธิ์นั้น (หัวเราะ)
เบนซ์ พรชิตา : เป็นบุคคลพิเศษที่เราจะหาที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว แต่กับลูกจะไม่เป็นนะแต่กับลูก เบนซ์ จะเก็บเอาไว้แล้วก็ระเบิดทีเดียว

ถาม ลองยกตัวอย่างเหตุการณ์อะไรที่มันทำให้ เบนซ์ ขึ้น แล้วขึ้นขึ้นขนาดไหนอย่างไร
มิค บรมวุฒิ : สมมติไม่เข้าห้องนอน ขอไปหยิบอันนี้นิดเดียวแต่คือเหมือนบิลด์มานานแล้ว
เบนซ์ พรชิตา : มันถึงเวลานอนแล้ว
มิค บรมวุฒิ : ขึ้นเสียงเลย ฉันบอกให้เข้าห้องเดี๋ยวนี้ เรายืนอยู่ข้างๆจะโกรธอะไรขนาดนั้นลูกแค่จะไปหยิบของ ลูกยืนน้ำตาไหลแม่ดุหนูขนาดนี้ทำไม
เบนซ์ พรชิตา : จะเป็นคนไม่แบบ… ไม่ค่อยๆขึ้นค่ะ ถ้าขึ้นคือขึ้นเลย แต่เดี๋ยวนี้จะเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นแบบจะพยายามเปลี่ยนเป็นแบบให้สัญญาณลูกว่าใกล้แล้วนะลูก ตอนนี้ เบนซ์ จะเป็นแบบแม่พูดครั้งสุดท้ายแล้วนะจะแปลงร่างแล้ว แล้วลูกจะวิ่งเลย (หัวเราะ) คือต้องให้สัญญาณเตือนก่อน

ถาม แล้วแปลงร่างบ่อยไหม
มิค บรมวุฒิ : ก่อนหน้านี้บ่อยแต่ช่วงนี้ไม่บ่อยแล้ว

ถาม แล้วในความเราสองคนกันเองอย่างนี้ มีปะทะกันจริงจังไหม
มิค บรมวุฒิ : จริงๆทะเลาะกันได้ทุกเรื่องกินอะไรมันจะเรื่องจุกจิกเล็กๆ
เบนซ์ พรชิตา : ทะเลาะกันทุก 2 นาทีเหมือนนั่งกันอย่างนี้เดี๋ยวก็ทะเลาะกับมันอีก
มิค บรมวุฒิ : รู้ไหมว่าทะเลาะเพราะใคร
เบนซ์ พรชิตา : ขึ้นเสียง พี่นั่นแหละ เนี่ยๆเป็นแบบนี้นิสัยคือ เขาชอบโทษเราแล้วเราเถียงไม่ทันแล้วเขาก็ชนะแล้วก็นั่งยิ้มแบบนี้เกลียด นิสัยไม่ดี แต่ก็ทะเลาะไม่ได้จริงจังค่ะ แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องจริงจังเลยเคยมีครั้งเดียวแต่เราไม่ได้ทะเลาะ
มิค บรมวุฒิ : เรียกว่าขอเชิญคุยดีกว่า

ถาม แล้วครั้งนั้นมันเรื่องอะไรถึงต้องเชิญคุย
เบนซ์ พรชิตา : เรื่องที่เขาน้อยใจหลายเรื่อง เขาน้อยใจว่าเราไม่สนใจว่าดูแต่ลูก

ถาม ครั้งหนึ่งเคยน้อยใจจนหนีออกจากบ้าน
มิค บรมวุฒิ : หนีสิครับ ให้ทุกคนดูไว้จริงๆแล้วการทะเลาะของคู่รักมันเป็นเรื่องปกติ แต่หาทางออกให้เจอเหมือนเรา คือวันนั้นเหมือน ปริม ทำอะไรซักอย่างเหมือน ปริม ตวาด เบนซ์ แล้วเขาบอกให้เราไปจัดการเราก็เดินไปเลยว่า ปริม แบบนี้ไม่ได้นะลูกก็เริ่มดุๆๆ แล้วเขาก็เดินเข้ามา โธ่ .. ปริม ลูกเอาลูกไปกอดสเสมือนว่าอีพ่อเป็นตัวร้ายเลยลูกก็หันมาตวาดอะไรสักอย่างเห็นไหมล่ะพ่อไม่รู้เรื่องเลย
เบนซ์ พรชิตา : งอนเลยคราวนี้งอนเลย
มิค บรมวุฒิ : เสียใจโมโหขับออกไปวนรถเล่นชั่วโมงกว่าๆและระหว่างชั่วโมงกว่าๆน้ำตาก็ไหลเองเราเหมือนโดนหลอกใช้ พ่อเอาไปดุลูก เราก็โกรธเขา แล้วพอเขา เข้าไปโอ๋ลูกเราก็โกรธเขา แล้วเขาก็ให้ลูกโทรตามเราก็โยนโทรศัพท์ไปหลังรถเลย
เบนซ์ พรชิตา : ซึ่งในช่วงนั้นเราก็อธิบายให้ลูกฟังว่าเมื่อกี๊พ่อเค้าโกรธเพราะว่าอะไร แต่เด็ก 5 นาทีก็ลืมแล้วค่ะ แต่พ่อนี่นานเชียว

 

ถาม แต่ เบนซ์ ก็มีเรื่องที่ทำให้ มิค น้อยใจอีกคืออย่างไร
มิค บรมวุฒิ : มันหลายครั้งที่เรารู้สึกเสียเซลล์เหมือนเป็นคนน่ารังเกียจในบ้านไม่เห็นหัวเราเลย ไม่เคยถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เคยถามว่าหิวไหม กินอะไรไหม พอเราเดินเข้ามาเขาปฏิเสธเหมือนแบบให้เราไปไกลๆ เราก็เฮ้ย !! เริ่มไม่ไหวแล้วเราก็เลยพูดว่าหนูรู้ใช่ไหมว่า มิค ไม่เคยไปที่ไหนนอกบ้านทั้งที่ มิค ทำได้นะ แต่ มิค ไม่เคยคิดจะทำแต่สิ่งที่หนูทำอยู่ตอนนี้ขอร้องหยุดก่อนเลยนะเพราะ มิค ใกล้แล้วที่กำลังจะเริ่มคิดว่าอยากจะออกไปหาอะไรนอกบ้าน มันเริ่มมีความคิดแบบจะหาลู่ทาง มิค ก็เลยมาเตือนเขาก่อนว่าความคิดของ มิค มันแปลกๆแล้ว
เบนซ์ พรชิตา : คุยกันยาวเลยค่ะ ถึงตีสาม เบนซ์ ก็ฟังเขาพูดยาวๆ เบนซ์ ก็บอกเขาว่าการออกไปทำงานข้างนอกเข้าใจว่าเหนื่อยแต่การอยู่ในบ้านเลี้ยงลูกสามคนไม่ใช่ไม่เหนื่อยนะ แล้ว เบนซ์ ไม่เคยหยุด ไม่เคยนอนกลางวัน เราเหนื่อยกันคนละมุมนะแล้วก็เราจะพยายามคุยกันว่าโอเคเข้าใจแล้วก็ขอบคุณที่รอเราก็พยายามที่จะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีกว่านี้
มิค บรมวุฒิ : มิค ก็แอบขอบคุณตัวเองว่าดีเนอะก็ยังจะรอต่อเนอะเพราะสิ่งหนึ่งที่รอเลยเพราะ มิค เห็นหน้าลูกๆอย่าให้มันมีปัญหามือที่สามให้ลูกเห็นว่าพ่อเป็นคนเจ้าชู้ พ่อมีบ้านเล็กบ้านน้อย
เบนซ์ พรชิตา : หลังจากที่คุยกันวันนั้นเราก็พยายามนะคะ พอเขากลับมาบ้านเราก็จะถามเขาว่าเหนื่อยไหม กินอะไรหรือเปล่า กินอะไรหรือยัง
มิค บรมวุฒิ : เริ่มมีคำถามแต่ทางเชิงความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนยังไม่ได้ดี มิค ก็เลยไปคอยเตือนเขาว่าที่ มิค แต่งตัวกับคนใช่ไหมไม่ได่แต่งงานกับหุ่นเหมือนไม่มีความรู้สึกใช่ไหม จนกระทั่งเรารู้สึกว่าเดี๋ยวจะซื้อตุ๊กตายาง

เบนซ์ พรชิตา : แล้วเราก็บอกเขาด้วยนะว่าเราจะซื้อให้เขา
มิค บรมวุฒิ : นางบอกเลยว่าซื้อเลยเดี๋ยวช่วยเลือกก็ยังไม่สำนึกเนอะ (ยิ้ม) แล้วนางช่วยดูนะว่าอันนี้เหมือนคนเลยพี่ไม่จบก็ยังหาทางเลือกให้อีก

ถาม มีอะไรไหมที่เรารู้สึกว่าจริงๆคือเหตุผลหลักที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาไม่อยากให้เราเข้าไปใกล้ๆ
มิค บรมวุฒิ : มิค เพิ่งมารู้เร็วๆนี้เองครับ ว่าเพราะอะไรเพิ่งได้คุยกันเขาไม่มั่นใจหุ่นเขาเรามานั่งวิเคราะห์เรื่อยๆคือ เบนซ์ จะเดินมาแล้วบอกพี่นมหนูชี้พื้น
เบนซ์ พรชิตา : หนูไม่มั่นใจตัวเองจริงๆ
มิค บรมวุฒิ : ก็เราตั้งใจที่จะมีลูกด้วยกันพ่อโอเคทุกอย่างเชื่อว่าลึกๆในใจเขาคงจะเป็นปมที่หุ่นไม่เหมือนเดิม แต่ มิค ก็จะย้ำเสมอว่า มิค ก็แฮปปี้ดี
เบนซ์ พรชิตา : มันไม่เหมือนกันพี่อาจจะรู้สึกว่าจะอ้วนยังไงก็โอเคก็รัก แต่ในมุมของเราเราจะรู้สุกว่าเราผอมกว่านี้เราไม่มีส่วนเกินตรงนั้น ตรงนี้ แต่พอมันมีมันไม่โอเคจริงๆนะเรารู้สึกว่ามันไม่อยากให้จับ
มิค บรมวุฒิ : จับมันดีออกนิ่มๆชอบ (หัวเราะ) ถามคนจับคนจับไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย แต่ก็เข้าใจในมุมของเขา

ถาม ไปดูรายการคลับฟรายเดย์แล้ว เบนซ์ จะรู้ว่า เบนซ์ โชคดีขนาดไหนที่ได้ผู้ชายแบบนี้มา
เบนซ์ พรชิตา : คำที่พี่พูดเนี่ยคือเรื่องจริงเลยนะ พอ เบนซ์ กลับมาทำงานแล้วเวลา เบนซ์ เจอพี่ๆในวงดสนเรานี่แหละจะมาบ่นเรื่องสามีอันนั้นอันนี้ ฟังแล้วเราก็เราโชคดีแล้วเนอะมากด้วย แล้วก็มานั่งแล้วก็อ๋อ … จริงๆนางก็เป็นคนดีนะ ก็รักอยู่แหละแต่ว่าพูดไม่เป็นไง เราเป็นคนพูดไม่เป็น แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว

ถาม มีบางคนที่เรารู้สึกว่าเราได้รักแท้แล้วไง แต่เราดูแลเขาเป็นแค่ของตาย แต่ของใต้มีลมหายใจนะ เจ็บได้ร้องไห้เป็น
มิค บรมวุฒิ : อุ้ย !! ท่องไว้นะคำเมื่อกี้

ถาม คุ้มไหมมาออกรายการคลับฟรายเดย์โชว์
มิค บรมวุฒิ : คุ้มที่สุดในโลก คุ้มที่เก็บไว้ 5 ปี กราบขอบพระคุณนะครับ

 

ถาม คนที่บอกว่าพูดไม่เก่ง พูดไม่เป็นวันนี้ต้องพูดซักหน่อยแล้ว เป็นโอกาสดีผ่านมา 5 ปี กลับมานั่งตรงนี้คู่กันอีกครั้งหนึ่งอยากบอกอะไรกับเขา
เบนซ์ พรชิตา : ต้องขอบคุณพี่ที่หล่อจริงๆอันนี้ เบนซ์ ซีเรียสนะ แล้ว เบนซ์ รู้สึกว่าถ้าไม่รอมันก็คือจะไม่มีคำว่าครอบครัวเพราะสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นมันจะไม่สามารถทำให้หัวใจ มันกลับมาเหมือนเดิมได้ถ้าเขาทำจริงๆมันไม่มีวันลบออกไปจากใจเราได้เลย เพราะฉะนั้นก็จะบอกเขาว่าขอบคุณนะที่รอแล้วก็รู้สึกว่ามันต้องเป็นการอดทนที่แบบ .. มากมาย (เสียงสะอื้น) เพราะว่ามันไม่ใช่แค่เรื่อง ความสัมพันธ์ของสามีภรรยา แต่มันเป็นความเป็นห่วงหรือว่าความรักทุกอย่างมันคือศูนย์ ศูนย์จริงๆอะไรอย่างนี้ แล้วก็รู้สึกว่าแบบหลังจากที่คุยกันไปแล้ว สิ่งที่ เบนซ์ พยายามทำ เบนซ์ ว่าเค้ารู้ว่า เบนซ์ แถบไม่เถียงคืออะไรก็ได้ที่พี่โอเคก็จะโอเคด้วย แล้วก็จะพยายามซัพพอร์ตเขาในทุกๆเรื่อง ของการอยากทำงาน อยากทำอย่างอื่นอะไรอย่างนี้ อย่างที่พี่ๆพูดถ้าไม่มีอยู่ ถ้าไม่มีคนนี้จริงๆ คือ เบนซ์ คิดภาพไม่ออกเลยว่าชีวิตมันจะอยู่อย่างไร เขาเป็นพ่อที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆค่ะ ทุกครั้งที่เสร็จงานกลับบ้าน เบนซ์ ไม่เคยโทรตามแม้แต่ครั้งเดียว เขาก็พยายามเต็มที่ที่จะต้องดูแลเราและลูกคนเดียว โดยที่เราไม่ทำงานเลยแล้วก็รู้สึกว่าเขาเหนื่อยเยอะแล้ว ก็ขอบคุณที่แบบทั้งทำงานหนัก แล้วก็กลับมาเป็นพ่อที่ดีของลูก แล้วก็อดทนในเรื่องที่เบนซ์ละเลยไป แล้วก็พยายามดูแลให้ดีที่สุด แล้วก็เชื่อว่าพ่อน่าจะรับรู้แล้วว่าแม่พยายาม เยอะมากที่จะทำให้พ่อมีความสุขเนอะ รักนะ (กอดกัน)

ถาม เห็นไหมเวลาที่ มิค น้อยใจไม่ต้องนั่งดูคลิปตอนแต่งงานแล้ว
มิค บรมวุฒิ : ครับ เปลี่ยนใหม่ เบนซ์ ดูคลิปคลับฟายเดย์ จริงๆแล้ว มิค ก็ต้องขอบคุณเขาเหมือนกันครับ ครอบครัวเขาต้องพึ่งที่เขา แต่เขายอมหยุดทุกอย่างเพื่อที่จะมามีครอบครัวกับเราแล้วเลี้ยงลูกเรา เขาก็คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของ ม

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCmL7sBjm02WNURAOxGzq25w

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news