Home
|
บันเทิงไทย

ตุ๊ก ชนกวนันท์ รับตามง้อขอคืนดีอดีตสามีทุกปีเพราะอยากให้กลับมาเป็นครอบครัว

Featured Image

คุณแม่สุดสตรอง ตุ๊ก ชนกวนันท์ รับตามง้อขอคืนดีอดีตสามีทุกปีเพราะอยากให้กลับมาเป็นครอบครัวพร้อมเล่าย้อนช่วงเวลาที่ผ่านมาในชีวิตที่ต้องผ่านอุปสรรคที่เจ็บปวด

เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่สุดสตรองหญิงแกร่งสุดขั้วเลยทีเดียว สำหรับ ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ที่เป็นคุณแม่ยืนหนึ่งเลี้ยงลูก คือน้องแพรวกับน้องภูมิได้สมบูรณ์แบบ เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 คุณแม่ตุ๊ก ได้เล่าย้อนถึงแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาในชีวิตช่วงหนึ่งของเธอนั้นจะต้องผ่านอุปสรรคที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตคู่ แต่เจ้าตัวก็ขอบคุณช่วงเวลานั้นที่ทำให้ใจตัวเองแข็งแกร่ง

ถาม เราคิดไหมว่าระยะเวลาขนาดนี้ทำไมใจเราไปเร็วขนาดนั้น

ตุ๊ก : ถามว่าเร็วไหมเร็วค่ะ เร็วจริงๆ จำได้เลยว่า 22 ตุลาคม ที่ ChannelV พี่บ๊วย ขอแต่งงานก็จำได้วันนั้นภายในไม่กี่วันหลังจากเป็นแฟนกันไม่ถึง 1 เดือน แต่เราคุยกันมา 10 เดือนแล้วนะคะ แล้วตกลงกันเป็นแฟนกันเดือนตุลาคม 22 ตุลาคมคือขอ เร็วเราก็เร็วด้วย แต่เราและเขาต่างก็คิดว่ามั่นใจ ซึ่งครอบครัว เพื่อนๆที่อยู่รอบตัวเราก็รู้สึกว่าเร็วไป แต่คำว่าเร็วไปเนี่ยจะไม่มาก แต่ไม่เท่ากับคำที่เขาไม่ผ่านในสายตาเพื่อนๆไม่สนับสนุนเลยเพราะลุคของเขาเป็นคนเจ้าชู้(แต่ที่เราคุยกับเขา 10 เดือนเราไม่เห็นลุคนั้นเลย เพราะเราเห็นแต่ลุคอบอุ่นอย่างเดียว ไม่มีตลกนะคะ) และใน 10 เดือนเราเสพแต่ความรู้สึกนั้น ทำให้เราตัดสินใจเป็นแฟนพาไปเจอพ่อแม่เร็วมากทุกอย่างเร็วมาก ทริปแรกๆที่เขาชวนไปคือเราก็ได้เจอคุณพ่อคุณแม่ น้องสาวเขาครบเลย ซึ่งสำหรับการรับรู้ของผู้ใหญ่ สำหรับตุ๊ก กับครอบครัวพี่บ๊วย คือเราผ่าน แต่สำหรับครอบครัวตุ๊ก พี่บ๊วย เขาก็ผ่านแล้วเราก็ได้แต่งงานกัน ชีวิตหลังแต่งงาน อันหนึ่งที่ ตุ๊ก คิดว่ามันมีผลส่วนหนึ่งคือพี่บ๊วยบอกว่าเขาจะรีโนเวตบ้านหลังเดิมเขาก็เป็นคนที่รักคุณพ่อคุณแม่มาก เพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน คือ คุณพ่อคุณแม่และก็ 3 พี่น้อง แต่เขาก็ถามเราก่อนนะคะว่าได้ไหม เราตอบแบบเร็วมากไม่ได้คิดว่าจะต้องคิดว่าได้ พี่บ๊วยเขาก็เริ่มทำบ้านใหม่ แล้วพอเราย้ายเข้าไปอยู่เราก็ได้มาคุยกับเพื่อนแก๊งนางแบบของเรา อย่างเช่น สมมตินะคะ อย่างพี่อั๋น เป็นฝรั่งแล้วเดินใส่รองเท้าในบ้านแล้ว ตุ๊ก ไม่ชอบ อันนี้ไม่ใช้เรื่องกริยา นิสัยใจคอนะคะ แต่ตุ๊กรู้สึกอึดอัดเราก็บอกว่าทำบ้านไปแล้วก็คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วเนอะ เพื่อนๆก็ได้แต่รับฟัง ซึ่งเราก็เข้าไปอยู่ซึ่งทุกวันนี้คุณพ่อคุณแม่คือ ผู้ใหญ่ที่น่ารักมาก แต่      ตุ๊ก คิดว่ามันเป็นเรื่องเคมีและความชิน และก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันทุกอย่างเลยเริ่มมาคุแล้วตุ๊กก็เงียบขึ้นเรื่อยๆหลังๆมาพอเรากลับจากทำงานเราก็ขึ้นห้องเลย

ตุ๊ก : อย่างหนึ่งที่ ตุ๊ก คิดว่า ตุ๊ก บอกได้คือ ซึ่งอันนี้มันไม่ผิดมันเป็นเรื่องของความถนัดแต่ละคน ตุ๊ก ว่าพี่บ๊วยเป็นคนกลางที่ไม่ได้ดี ซึ่ง ตุ๊ก ก็เชื่อว่าเคยได้ยินเขาพูดแบบนั้นเขาบอกเขาชอบหนี เขาไม่ชอบความปวดหัววุ่นวาย !! ซึ่งเราก็เห็นคนกลางที่เขาประสานเก่งๆมีจิตวิทยาเก่งรู้ว่าแม่ชอบแบบนี้ รู้ว่าภรรยาชอบแบบนี้ อย่างเอาใจแม่ก่อน แล้วพออยู่ในห้องเรา พี่เข้าใจหนูว่าเรื่องนี้มันเป็นแบบนี้จริงๆแค่นี้ก็รอดแล้ว ยอมๆไปก่อนในตอนนั้น แต่ถึงตอนนี้ก็ต้องบอกเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ก็น่ารักเพราะขนาดที่เราหย่าแล้ว เวลามาเจอกันหรือแม่หาหลานเขาก็จะเกรงใจ ตุ๊ก มากเพราะตอนที่เราอยู่ด้วยกันเราไม่ได้สื่อสารกันตรงๆเลยมีแต่แบบเม้ง หรืออาจจะพูดประชดไม่เคยได้มานั่งคุยกันดีๆเลย (ถามว่า วันนั้นเราแรงไหม) มันไม่ได้แรงแบบในละคร แต่ก็คิดว่าไม่ได้เบา หมายความว่า พอเรารู้สึกไม่ดีเราก็เข้าห้อง ตอนนี้พอเราโตเราก็รู้จักศิลปะการฟัง รู้จักศิลปะการดีล แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันมีสิ่งนี้ในโลก เราคิดว่าการเป็นแบบนั้น เราก็ต้องแสดงออกแบบนี้ ก็คือจบ คิดว่ามีหนทางเดียว ไม่ได้คิดว่าต้องแบบไปถามเขาว่า แม่ค่ะ มันหมายความว่าอย่างไร เมื่อกี้ ตุ๊ก คิดไปเองหรือเปล่าคะ หรือว่ามันไม่มีอะไร คราวหลัง ตุ๊ก จะได้ไม่ทำอีก แต่ตอนนั้นเราก็ไม่เคยพูด หรือว่าเรื่องการเราหวงลูกอันนี้ยอมรับเลย 100 เปอร์เซ็นต์หวงลูกมาก มันเกิดมาจากหลายๆอย่างตั้งแต่ที่เราท้อง ด้วยความเป็นเราที่เติบโตมาแบบนี้ คือ ให้เราผ่าคลอด เตรียมพี่เลี้ยงไว้ให้เรา (แต่เพราะอาจจะเป็นความเด็กด้วย ก็คือ โกรธมากทำไมฉันมันไม่ได้เรื่องเลยเหรอ) แต่ภาพเราตอนนั้นคือ ไม่น่าเลี้ยงลูกเป็น ก็เลยแบบพยายามทุกอย่าง ช่วยเหลือตัวเอง หาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการคลอดกับการเลี้ยงลูก ตอนนั้นคุณแม่พี่บ๊วย ก็บอกจะเตรียมคนเลี้ยงไว้ (ซึ่งถ้าเป็นตอนนั้นเราจะรู้สึกว่าทุดคนห่วงเรามากๆกลัวเราเหนื่อย) แต่ตอนนั้นเรากลับคิดว่าทุกคนดูถูกเราโกรธมาก เราก็ไม่ได้ถาม โกรธ แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะทำให้ดู เรายังรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแปลกมากในตอนนั้นและพอคลอดเราก็คลอดธรรมชาติสำเร็จ เลี้ยงเอง อย่างคุณแม่เขาบอกว่ามาๆอุ้มหลานให้ เพราะว่าเขารักหลานมากให้เราไปกินข้าว เราก็จะพูดไปว่าคุณแม่เล่นได้เลยนะคะ ไม่เป็นไร เพราะว่าเป็นคนที่กินข้าวไปเลี้ยงลูกไปด้วยได้ คือยังจะต้องแบ่งสิ่งเหล่านี้ คือ ให้เล่นนะ จะไม่ยอมรับเลยว่าเขามาช่วย คือบ้าบอมาก ตุ๊ก ว่าเขาก็ไม่รู้ คือเป็นบ้าอยู่คนเดียว ซึ่งพอเรามีคนที่สองแล้วเพราะเราเป็นคนที่ข้อมีวิชาการเยอะมาก แล้ว แพรว ก็เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากอายุ 3 เดือน นอน 12 ชั่วโมงแล้วเขาก็จะมาแล้วยังไม่ตื่นอีกเหรอเขาก็คิดถึง ก็มาเขี่ยหลาน แต่ก็มาพูดมาร้องเพลงให้ตื่น ในใจของเราก็โกรธ คิดอยู่ในใจว่า เดี๋ยวเด็กไม่ฉลาดเพราะว่าเวลาเด็กนอนเยอะๆจะดี เราก็มี   ความเคือง ก็เพิ่มความมาคุแล้วเราก็แอบมั่นใจว่าวิธีเราดีกว่าวิธีเขา แล้วเราก็ย้ายบ้านแล้ว คุณย่า ก็มาเยี่ยมหลานก็นอนนานมากเราก็บอกเขาไปว่ายังไม่ตื่นค่ะ เพราะเขาก็มารอหลาน 2 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่ตื่น พอตื่นเราก็ถักเปียเราไม่ได้แกล้งนะคะเพราะเราอยากให้สวยๆเพราะกลัวว่าเดี๋ยวลงมาไม่สวยไม่ดีเขาจะมองเราไม่ดี แล้วเราก็ได้ไปได้ยินข้อมูลทีหลัง จริงไหมไม่รู้ว่าจะไปหาหลานทีอย่างกับไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้รอไปสิ เราก็รู้สึกเลยว่าเรานี่มันก็มากไปเนอะ พอมาเป็นคนที่สองถ้านอนอยู่แล้วคุณย่ามาหาเราเรียกปลุกให้เขาเลย

ถาม ซึ่งก็มีเหตุการณ์หนึ่งพอหลังจากแต่งงานเราก็ได้เห็นข้อความหนึ่ง

ตุ๊ก : พอแก่ลงก็ยอมรับว่าเรื่องแบบนี้มีบ้าง จริงๆเพื่อนสนิทอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ อาจจะมารู้ในรายการนี้ครั้งแรก เกิดขึ้นประมาณแต่งงานได้แค่หลักเดือน แต่เราก็ผ่านเรื่องนั้นมาได้ด้วยดี พี่ดู๋ สัญญา ยังแซวเลย บ๊วย ทนหน่อยนะ ผู้เขามักจะพูดเรื่องเก่า เดี๋ยว ตุ๊ก มันต้องพูดอย่างเช่นแบบทีวันนั้น ..ผู้หญิงมักจะชอบพูด ซึ่งตัวเราเองก็ตั้งใจว่าเราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีกเลย ซึ่งเราก็ทำได้จริงๆเราก็ไม่เคยพูดเลย เหมือนกับเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เราก็มารู้ทีหลังว่าพี่บ๊วย พูดกับเพื่อนว่าความผิดครั้งนี้เขาจะสปอยล์ตุ๊กให้สุดชีวิต เพราะว่าวันที่เจอเหตุการณ์ครั้งนั้น ตุ๊ก ไม่ได้พูดอะไรเลย คือ ตุ๊กจะเป็นคนแปลกๆ แต่ถามว่าช็อกไหม ช็อกค่ะ ที่รู้เรื่องนี้เพราะว่า ตุ๊ก ไปหยิบโทรศัพท์ พี่บ๊วย อย่าโกรธนะคะเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ตอนนั้นเราก็แบบถามหาเบอร์เพื่อนพี่บ๊วยเขาก็แบบขี้เกียจ เพราะเขาอ่านหนังสืออยู่เขาก็บอกว่าไปหยิบเองพอเราเปิดมาเราก็เจอ คิดถึง เราก็รู้จักเพราะคนนี้เขาก็เป็นเพื่อนไง ตุ๊ก ก็ถามเลยคนนี้ใคร เพราะเป็นคนชอบถามเขาก็บอกว่าคนนี้มาจีบ พี่บ๊วย ก็รอดเรื่องนี้ก็จบ แต่พอเราเจอผู้หญิงเราก็ไม่พูดด้วย เสร็จแล้วเขาก็ไม่สบายใจ แล้วเขาก็ไปถาม เก๋ ชลลดา ว่าพี่ตุ๊ก เขาเป็นอะไรเขาไม่พูดกับหนู เก๋ เขาก็ว่าเหรอๆเดี๋ยวมาถามเราให้พอ เก๋ มาถามเราก็เล่าให้ฟังว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่เก๋ เขาก็รู้สึกแปลกๆ เก๋ เลยโทรศัพท์หาน้องแล้วเปิดลำโพงซึ่งน้องเขาก็จะไม่รู้ว่าตุ๊ก ฟังอยู่ก็เลยรู้ว่ามันไม่ใช่มาจีบฝ่ายเดียว ก็เป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่การตบมือข้างเดียว เราก็กลับบ้านแล้วพอเขากลับมาแล้วบอกเขาว่าเราทราบเรื่องหมดแล้ว แล้วหลังจากนั้นตุ๊กก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย แต่เราตื่นมาร้องไห้ตอนกลางคืนแต่เราไม่นึกว่าพี่บ๊วย จะรู้เรื่องแล้วก็ผอม เขาก็เลยสาบานว่าเขาจะตามใจผู้หญิงคนนี้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ซึ่งเขาก็ทำได้จริง ซึ่งตุ๊ก ก็เพิ่งมาคิดได้วินาทีนี้ เหมือนกันกับคำว่า สปอยล์ ของเขาคือไม่พูดความรู้สึกที่ไม่ดีออกมา คำที่หยาบคายหรือมีอารมณ์ที่สุดในชีวิตที่ตุ๊กเคยได้ยินจากปาก พี่บ๊วย คือ อะไรวะ คำที่แรงที่สุดในชีวิตคือ พี่ขอหย่า 

ถาม มองย้อนกลับไปคิดว่าเราพยายามดึงรั้งเขาจากการที่เขาจะดูแลพ่อแม่ไหม อย่างเช่น เขาบอกว่าเขาอยากกลับไปหาพ่อแม่บ้าง เราก็บอกเขาว่าอย่าเพิ่งเลย

ตุ๊ก : อย่างนี้ไม่มีเลยคะ ไปได้ นัดเจออันนี้แม่มาหาหลานอันนี้เจอตลอด 

ถาม ในความพยายามในการใช้ชีวิตคู่มีหลายครั้งที่เคยได้ยินปัญหาคือคนที่เป็นแม่ลูกคือโลกทั้งใบของเราจนมีบางครั้งไหมที่เราลืมหน้าที่ของการเป็นภรรยา

ตุ๊ก : ตุ๊กว่าตุ๊ก คือ คนที่ทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่เก่งอยู่แล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีลูกคือเราเคยไปออกรายการพี่ดู๋ แรกๆก็ได้มีการแซวด้วยภาษาสุภาพแต่สื่อนัยยะให้เข้าใจเป็นว่าไม่ชอบทำการบ้าน และ เราก็มั่นใจตัวเองว่าเขาหลงและรักเรามากพอ จนกระทั่งแม่ตัวเองแท้ๆได้ดูรายการ ก็เตือนว่าลูกอย่าเป็นแบบนี้เลยถ้าวันหนึ่งเขาเจอใครเนอะ เขารักหนูมากๆนะตอนนี้ แม่บอกว่านอนเฉยๆก็ได้ ตอนนั้นคือรำคาญแม่มาก โอ๊ยอะไร ทะลึ่ง เพราะเรามั่นใจมากว่าเขารักเรามากๆ (ซึ่งเพราะเราเองไม่ชอบเรื่องแบบนั้นเลย) บางครั้งเขาอยากจะมีความสัมพันธ์แต่เราขี้เกียจ เหนื่อย เราก็จะแกล้งหลับเขาไม่ได้บังคับแล้วก็ไม่ได้ว่าแล้วก็ไม่ได้ง้อ ซึ่งถามว่านี่คือปัญหาหลักที่ทำให้เราไม่โอเคกันไหม ตุ๊ก คิดว่ามันผสมและส่วนหนึ่ง เพราะตอนนั้นเราโนสน โนแคร์มากแล้วมั่นใจมากว่าเขารักเรามากกว่าที่เรารักเขา

ตุ๊ก : พอเกิดเรื่องขึ้นเราหวัง 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะกลับมาคืนดีเพราะเราไม่ค่อยเคยผิดหวัง ทุกอย่างเราค่อนข้างทำได้เพราะเราเคยทำกลับมาได้สำเร็จเพราะเราเคยเจอปัญหานอกใจเราก็กลับมาได้ แต่ก็หวั่นใจทุกวันจนมันแปลกๆ จนกระทั่งพี่ดู๋ อีกแล้วก็โทรไปหาปรึกษาเพราะเราไม่รู้ว่าจะโทรหาใครในโลกแล้วเราก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้เยอะ พี่ดู๋ ก็ให้เราวางแผนว่าจะลุยเลย หรือว่าจะรอก่อนตอนนั้น คือ รอก่อน คือ รอในที่นี้ของเราก็จะรอตรงนี้รอได้ ไปคุยกันให้เบื่อกันไปเลยรอได้ (คือเขากับของใหม่) เพราะเราคิดว่าเขาแค่หลงกับของใหม่ พอจบฉันจะรออยู่ตรงนี้ 

ถาม วันที่ถูกบอกเลิกวันนั้นเรารู้สึกยังไงบ้าง

ตุ๊ก : ไม่ถึงกับฟูมฟาย แต่พออุ้มลูกแล้วจะร้องเราก็จะรีบเดินไปในสวนเพราะเด็กทารกน่าจะไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเรากั้นน้ำตาไม่ได้ น้ำตามันไหลเองมันเจ็บพอน้ำตาไหลเสร็จเราก็กลับขึ้นบ้านมา 

ถาม มีครั้งหนึ่งที่ ตุ๊ก บอกว่าสงสารลูกคนโตเหมือนกันที่จะต้องเห็นคุณแม่ตอนที่กำลังเฟลสุดๆ

ตุ๊ก : ก็จะมีช่วงที่น้ำท่วมพอดีประมาณปี 54 ซึ่งบ้านเราถมสูง 2 เมตร พี่ฉอด คือตอนนั้นเราเครียดเราเลยหนีไปก่อนหอบลูกไปด้วย 2 คน ไปเชียงใหม่กับปายรวมกัน 2 เดือน เพราะเราเป็นคนที่ทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้วเพราะเราไม่ได้มีพี่เลี้ยงอยู่แล้ว เราคิดว่าเราทำได้แต่ลืมไปว่าไปต่างถิ่น พอจะเข้าห้องน้ำจะทำอย่างไร แต่ปกติเราก็อุ้มลูกอึ ฉี่นะอย่างตอนนั้น แพรว ตอนนั้นจะต้องอายุ 3 ขวบพอดีเข้าก็ช่วยดูแลน้องเวลาที่เราเข้าห้องน้ำ และดูน้องจนกว่าที่เราออกมาจากห้องน้ำเพราะเวลาที่เราอาบน้ำไปเราอุ้มลูกอาบน้ำไม่ได้อยู่แล้ว คือ เราก็ขับรถไปกับลูกเด็กสามขวบ คือ ต้องบอกเลยว่าอยู่กับแม่ที่เป็นบ้า แล้วก็เด็กทารกตอนนั้นคือ สงสาร แพรว มาก แต่สภาวะในอารมณ์ของเราในวันนั้น ตุ๊กว่าตัวเองโอเคมากแล้วสื่อเรียกว่าเราสตรอง ตุ๊ก ก็ยิ่งสะกดจิตว่าตัวเองสตรองค่ะ พอเราได้สติแล้วเวลาเดินมาก็คิดว่าตัวเองบ้าๆบวมๆเหมือนกัน (ถ้าถามจริงๆตอนนั้นหนีน้ำท่วมไหม) ก็ไม่ได้หนีน้ำท่วมหลอกค่ะ 

ถาม แล้วเรามีไปลงกับลูกบ้างไหม

ตุ๊ก : ไม่ได้ไม่ลง 100 เปอร์เซ็นต์ หรอกมันมีหลุดๆ ที่รู้ว่าเราหลุดเพราะว่าวันนั้นย้ายไปอยู่ปายแล้ว เราก็หลุดพูดกับลูกว่า แพรว แป๊บนึงได้ไหม !! แล้วเพื่อนคนนี้ .. ชีวิตคือโชคดีมากเพราะเจอกัลยาณมิตรตลอด เพื่อนคนนี้เขาเป็นกระบวนกร (คือ นักทำกระบวนการอย่างเช่น กระบวนการวันนี้เราจะมาคุยเรื่องการฟัง) เพื่อนเขาก็บอกเราว่าเมื่อกี้ รู้ตัวหรือเปล่าว่าข้างในถูกเขย่าแล้วก็ออกไปกับลูกเราก็บอกว่าไม่รู้ตัวเลย เราก็เลยตั้งสติ (เพราะตอนนั้นเราคิดว่าถ้าทนายเขาเก่งๆแล้วเอาลูกไปจะเป็นยังไง) คือ ตอนนั้นเราเครียดมากเลยว่า 5 สาเหตุของการฟ้องหย่ามีอะไรได้บ้างเราก็ไม่เข้าข่าย (คือ มันเป็นความกลัวของเราที่เขาจะเอาลูกไป) ส่วนเรื่องหย่าคือเริ่มรอมร่อแล้วแหละ

ถาม แต่เขายังยืนยันขอหย่า

ตุ๊ก : ยืนยันตลอด เราปฏิเสธกับไม่ตอบบ้าง จนวันหนึ่งยืนอยู่แล้วเขาก็เดินมาบอกว่า ตุ๊ก งานวันศุกร์ยกเลิกนะ เพราะวันที่เขามาบอกคือ วันจันทร์แล้ว แล้ววันศุกร์คือเราต้องถ่าย Mv เอ๊ะ จิรากร เพลง จากนี้ไปจนนิรันดร์ (ตอนนั้นเราคิดเลยเพราะเราเห็นชื่อเพลงถ้าถ่าย Mv เราต้องคืนดีกันแน่เลย) แต่ช่วงนั้นเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกับเราแล้ว ขอแยกห้องนอนแล้ว เขาก็บอกเราว่ายกเลิกนะ เราก็บอกว่าไม่ได้นะ น่าเกลียด เขาบอกกับเราว่า (พี่ไม่อยากหลอกประชาชนยกเลิกเถอะ พี่ไม่ได้รัก ตุ๊ก แล้ว) เราก็ยังรั้งเขาว่ามันก็แค่งาน เขาก็บอกว่าให้เราไปฟังความหมายเพลงสิ ซึ่งสุดท้ายก็ยกเลิกเพราะเขาไม่เล่น หลังจากนั้นเราก็ไปหย่ากัน ซึ่งวันที่หย่าเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเพราะว่ามันผ่านมาแล้ว แต่ว่าเราเป็นลม (เพราะคิดว่าตอนนั้นตัวเองเหนื่อย ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะดราม่าแต่ก็ไม่ได้ดราม่าอะไรเลย) ก็มีคนให้สติว่า ตุ๊ก มีศักดิ์ศรีของความเป็นแม่แล้วก็ของความเป็นผู้หญิงคือมาได้แล้ว เราอย่าไปยื้อเขาเลยเพราะเขาเองเขาก็ไม่อยากร่วมทางกับเราแล้วมันต้องตบมือด้วยกันเนอะชีวิตคู่ คนหนึ่งเขาเขาไม่อยากเล่นแล้ว คนเราถ้ารักกัน มันก็จดทะเบียนใหม่มาอยู่ด้วยกันใหม่ได้ ก็ด้วยความที่เราศรัทธาคนที่พูดด้วยเราก็ตกลงวัน (ถามว่า วันนั้นแข็งแรงหรือยัง) วันนั้นก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าวันนี้ ความแข็งแรงมันเพิ่มขึ้นทุกวันแน่นอน 

ถาม แต่ก็ได้ข่าวว่าเราก็มีการง้อขอคืนดีทุกปี

ตุ๊ก : จริงๆแล้วที่ประจำทุกปีเพราะมากกว่านั้นกลัวเขารำคาญ แต่จะไม่ขอก็คิดว่าอยากทำอะไรทำให้ถึงที่สุดขอซะหน่อย พี่บ๊วย ก็จะบอกว่าแบบนี้ดีแล้ว ซึ่งพอทุกวันที่ 22 ตุลาคม วันที่เขาขอแต่งงาน ซึ่งเขาก็ไม่รู้หรอกว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ เขาไม่ได้คิดตามเรา แต่เราคิด แล้วพอ 22 ตุลาคม เราก็จะถามคิดว่าจะกลับมาไหม คิดว่าสงสารลูกสร้อยมากสร้อยน้อยแล้วแต่ปี เขาก็จะบอกว่าแบบนี้ดีแล้ว เราทำมาแบบนี้ทุกปี แต่ไม่ได้แน่ชัดนะคะ 3-4 ปี ที่ความรู้สึกหรือวิธีคิดของหนูไม่ได้อยากที่จะถาม แต่ที่ผ่านมาที่เราถามเพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่ตุ๊ก ต้องถาม คือ ส่วนหนึ่งเรารักเขา ส่วนหนึ่งเราอ้างว่าเราทำเพื่อลูกทำอยู่อย่างนั้นประมาณ 5 ปี นะคะ เพราะหย่ามา 9-10 ปี ส่วนให้คนไม่ทราบแล้วบางทีนักข่าวมาถามว่าทิฐิหรือเปล่า แต่เขาไม่ทราบว่าเราเป็นคนถูกทิ้งนะเราไม่ได้เป็นคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้นะ ส่วนใหญ่คนคิดว่า ตุ๊ก เป็นคนขอหย่าด้วยซ้ำ เพราะเราก็ไม่ได้อยากหย่าตั้งแต่วันแรกด้วย คือ เราขอเขาคืนดีมาตลอดในวันที่ 22 ตุลาคม จน ตุ๊ก ว่าทุกคู่นะคะ มันถูกเติมทุกวันถ้ามันไม่ถูกเติมจะลดลง พอมันลดลงแล้วมันไม่ผ่านเกณฑ์ตรงนี้ความรักที่มันต่ำลงจนมันไม่ออกฤทธิ์แต่พอถึงวันที่ 22 ตุลาคม รู้สึกว่าปีนี้ไม่ถามดีกว่า สำหรับตุ๊ก คิดว่าเพราะความรักที่ไม่ถูกเติมแล้วมันก็ลดลงในปริมาณที่ไม่ได้มากพอที่จะออกฤทธิ์ อันนี้ก็อยากแชร์ให้คุณผู้ฟังด้วย ก็ขอพูดถึงพี่ดู๋อีกครั้งเพราะตอนนั้นพี่ดู๋ คือ จะอยู่ในชีวิตของเราทั้งคู่เยอะมากบอกว่าวันแรกที่ ตุ๊ก คือได้ก็คือใดๆ ก็ตามชีวิตคู่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ความผิดคนละ 50 เปอร์เซ็นต์ไม่ว่าจะหัวข้ออะไร เพราะถ้าบ้านเราแข็งแรงพอก็จะไม่มีใครมาเลื่อยขาบ้านเราได้ หรือ พี่ดู๋ จะบอกว่า มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ทุกนาทีดีมากเพราะประโยคนี้เข้าหู ตุ๊ก เร็วมากมันเลยไม่มีแบบ.. ทำไมๆ ไม่มีเลยนะคะ ตั้งมีปัญหามาไม่ทำไมเพราะทุกอย่างเปลี่ยนได้ทั้งนั้น

ถาม มาถึงตรงนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ตุ๊ก : ไม่ถึงกับเปลี่ยนนะคะ แต่กว้างขึ้นคนเราจะรักกันมันต้องดูแลกันหลายมิติ เราไม่ได้อยากให้เขาดูแลเราฝ่ายเดียวเราก็ต้องดูแลเข้าใจใจเขาด้วย คือ ไม่ใช่เราไม่เสียใจกับอะไรที่ผ่านมา ตุ๊ก ก็เชื่อว่าถ้า ตุ๊ก ไม่ได้เจออะไรต่างๆที่ผ่านมาทั้งหมด ตุ๊ก จะไม่โตเท่าวันนี้ แล้วทั้งหมดคือ พอใจกับผลงานตัวเองเพราะว่าเห็นแพรวกับภูมิมีมุมมองความรักที่ดีมากๆเราเชื่อว่าเด็กเล็กๆเขาสะท้อนจากความรู้สึกของเราจริงๆแปลว่าเรามีความรู้สึกดีๆแผ่ออกไปให้เขารู้สึกดีๆซึ่งเราก็หวังว่าเขาจะทำอะไรกับความรักได้ดีกว่าเรา

ถาม ถ้าถามว่าสถานภาพของตุ๊ก กับ พี่บ๊วย เป็นเพื่อนกันแบบไหน

ตุ๊ก : มันก็จะดูเป็นคำที่ทุกคนใช้กันนะคะ คือ เป็นพ่อแม่ของลูก เราจะมีความคุยกันในเรื่องที่ต้องดีลกัน แต่เราก็อาจจะไม่ได้คุยกันหรือสนิทกันที่เราจะปรึกษาปัญหากันได้ทุกเรื่อง

ถาม เคยเผลอโทษตัวเองไหม

ตุ๊ก : เคยค่ะ แต่อย่างที่บอกเพราะว่าเรามีกัลยาณมิตรดีมากเวลาเหมือนจะโทษตัวเองเพื่อนก็จะคอยบอกว่าเราว่าอย่าโทษตัวเองนะ เพราะเดี๋ยวมันจะกดทับ ซึ่งตุ๊ก โชคดีมากที่มีเก๋คอยอยู่ข้างๆมาตลอดเขาพร้อมที่จะมาอยู่ตรงหน้าเราตลอดถ้าเราต้องการแล้วเขาก็รักลูกตุ๊กมาก 

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป

https://youtu.be/bkSKqZcSE6I

https://youtu.be/bY0HQrione0

https://youtu.be/hLBjhSzeZhM

https://youtu.be/qM0j3_b0cTw

https://youtu.be/4Cpdt44LEJA

https://youtu.be/msQtyoqtGps”

https://youtu.be/msQtyoqtGps

https://youtu.be/sAMQh1FZoy4

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube