สรุป #จ้าวลู่ซือ นักแสดงสาวชื่อดังของจีน หลังตกเป็นข่าวว่าป่วยเป็นภาวะ Aphasia
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ของจีน เมื่อ จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) นักแสดงสาวชื่อดัง ตกเป็นข่าวว่าป่วยเป็นภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร (Aphasia) ซึ่งเป็นความผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการพูด อ่าน หรือเขียนของผู้ป่วย
ข่าวนี้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อต้นสังกัดของเธอ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่าต้นสังกัดได้กดดันให้เธอทำงานอย่างหนักจนไม่ได้พักผ่อน ส่งผลต่อสุขภาพของเธอ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ขอชวนอ่านสรุปเรื่องราวทั้งหมดของ #จ้าวลู่ซือ ดังนี้
จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) คือใคร
จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) หรือที่รู้จักในชื่อ Rosy Zhao, Lucy Zhao เป็นนักแสดงและนักร้องชาวจีนที่ได้รับความนิยมในวงการบันเทิง ภายใต้สังกัด YinheKuyu Media เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 1998 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน และสำเร็จการศึกษาสาขาแฟชั่นดีไซน์จาก มหาวิทยาลัยหมิงเต้า (Mingdao University) ไต้หวัน
ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง จ้าวลู่ซือเคยโด่งดังในฐานะเน็ตไอดอล หลังจากภาพเซลฟี่ของเธอในวัยมัธยมถูกแชร์ในโลกออนไลน์ ด้วยความน่ารักสดใสที่โดดเด่น ทั้งผมหน้าม้าและดวงตากลมโต ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในฐานะเน็ตไอดอลที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก
ในปี 2016 เธอเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจากการเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงในรายการ Super Girl ทางช่อง Mango TV ก่อนที่จะได้รับโอกาสเป็นพิธีกรในรายการวาไรตี้ Huo Xing Qing Bao Ju
จ้าวลู่ซือเริ่มเข้าสู่วงการการแสดงในปี 2017 กับบทบาทสนับสนุนในเว็บดราม่าเรื่อง Cinderella Chef (สูตรรักซินเดอเรลล่า) และบทบาทรองในภาพยนตร์ City of Rock ในปีเดียวกัน
กระทั่งในปี 2018 เธอเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากบทสมทบในละครโรแมนติก Untouchable Lovers (หงส์ขังรัก) และสร้างชื่อเสียงครั้งสำคัญจากการรับบทนำในละครเรื่อง Oh! My Emperor (ฮ่องเต้ที่รัก) ประกบคู่กับ กู่เจียเฉิง และ เซียวจ้าน ซึ่งกลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทำให้เธอกลายเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการในเวลาต่อมา
สรุป #จ้าวลู่ซือ
- เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นมาจาก มีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ได้เผยแพร่เฟคนิวส์เกี่ยวกับอาการป่วยต่างๆของจ้าวลู่ซือ
- วันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางด้านสตูดิโอได้แถลงการเกี่ยวกับอาการป่วยของเจ้าลู่ซือ โดยสรุปเนื้อหาใจความว่า “วันที่ 18 น้องจ้าวลู่ซือรู้สึกไม่สบายกะทันหันและถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจและรักษาโดยเร็วที่สุด ตอนนี้น้องกำลังปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรักษาและพักฟื้นตัว” รวมถึงระบุด้วยว่า จะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนในการเผยแพร่ข่าวปลอมด้วย
- ด้านกลุ่มแฟนคลับของจ้าวลู่ซืออ้างว่าได้ติดต่อไปยังแพทย์ของเธอเพื่อสอบถามอาการ และได้คำตอบว่านักแสดงสาวเกิดภาวะ “อะเฟเซีย” (Aphasia) หรือ “ภาวะสูญเสียความสามารถในการพูดสื่อสาร”
กลุ่มแฟนคลับระบุโดยอ้างแพทย์ว่า “ภาวะอะเฟเซียไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่เกิดได้จากการเป็นหวัดรุนแรง หากวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เธอจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากเส้นประสาทได้รับความเสียหายนานกว่า 2 สัปดาห์และไม่หายขาด จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู”
“จ้าวลู่ซือป่วยหนักด้วยอาการหวัดและไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างทันท่วงที ไข้ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถเดินหรือพูดได้ชั่วคราว ซึ่งไม่ใช่สโตรกอย่างที่บางคนรายงาน”
“ตอนนี้เธอพูดได้แต่ช้าลง เธอสามารถยืนได้ นี่คือข้อความที่ลู่ซือส่งถึงแฟน ๆ เพื่อคลายความกังวลของพวกเขา ขอความกรุณาอย่าโพสต์ข่าวปลอมเกี่ยวกับอาการป่วยของลู่ซือ”
- ต่อมา ทางด้านเพื่อนสนิทของจ้าวลู่ซือได้ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์เมื่อปี 2019 ซึ่งทำให้จ้าวลู่ซือต้องเผชิญกับความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจจากต้นสังกัด
โดยเนื้อหาดังกล่าวมีใจความว่า จ้าวลู่ซือ ถูกต้นสังกัดปฏิบัติอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่ผ่านการออดิชั่น เธอถูกลากไปในห้องน้ำ โดนวิจารณ์เรื่องน้ำหนักตัว ดูถูกเหยียดหยามว่าเธอไร้ค่าและไม่เก่งเท่าคนอื่น
จ้าวลู่ซือถูกทำร้ายด้วยคำพูดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เมื่อเธอจะออกไปจากที่นั่น คนๆนั้นวิ่งไล่ตามพยายามคว้าตัวเธอไว้ ลู่ซือถูกดึงผมและถูกตี
ด้วยอายุที่ยังน้อยและสัญญาที่ติดค้าง ทำให้จ้าวลู่ซือไม่กล้าแจ้งความหรือบอกครอบครัว เธอได้รับเพียงข้ออ้างว่าเมาจากคนกระทำ แต่เรื่องนี้ก็กลายเป็นบาดแผลในใจของเธอมาตลอด
เธอยังคงฝันร้ายและมีอาการหวาดกลัวอยู่เสมอ เธอมักเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองและไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ความอดทนต่อแรงกดดันได้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเธอเป็นอย่างมากจนถึงตอนนี้
- จากกระแสดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ทางด้าน เข่อลู่ลี่ (ชื่อแฟนคลับ) ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้ทางต้นสังกัด สตูดิโอ กองซีรีส์ ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้น
- เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ได้มีการแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอเกี่ยวกับกระบวนการรักษาและฟื้นฟูร่างกายของจ้าวลู่ซือ ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยนักแสดงสาวเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2024 และขณะนี้เริ่มพูดและเคลื่อนไหวได้แล้ว
- ล่าสุดทางด้าน จ้าวลู่ซือ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันพูดถึงเรื่องทั้งหมดนี้ขอโทษที่ต้องรบกวนพื้นที่สาธารณะ
ที่ผ่านมา ฉันไม่เคยให้ปัญหาสุขภาพของตัวเองส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือคนรอบข้าง ฉันยอมรับปัญหาของตัวเอง เพราะเป็นคนที่อดทนมาก แต่ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉันเพิ่งค้นพบว่าลึก ๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นคนใจกว้างอย่างที่คิด ฉันเองก็มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้
ฉันรู้สึกขอบคุณและโชคดีที่อาชีพของฉันทำให้ได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจมากมาย ฉันเข้าใจดีว่าความเข้าใจจากคนอื่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะได้รับเสมอไป ฉันสนับสนุนให้ทุกคนเลือกอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน เพราะคุณมีสิทธิ์ที่จะหนีจากสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจหรือเหนื่อยล้า คุณสามารถหยุดได้ทุกเมื่อ คุณมีอิสระ และคุณสามารถกล้าหาญได้เสมอ
ฉันเข้าใจดีว่าทุกคนต่างมีความเจ็บปวดและพบความอยุติธรรมในชีวิต ฉันเคยได้ยินเรื่องราวที่เลวร้ายมามากมาย ถ้าปิดปากเงียบในขณะที่ Abuser ของคุณยังกล้าทำชั่วต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ หรืออาชีพไหน การที่คนถูกบังคับให้ต้องขุดแผลเก่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า “ไม่ได้คิดมาก” หรือ “ไม่ได้อ่อนแอเกินไป” เป็นเรื่องที่ไม่สมควร บาดแผลทางใจหรือโรคซึมเศร้านั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์มาประเมินความรุนแรงของอาการได้ ยกเว้นแพทย์เท่านั้น
ช่วงเวลาที่ผ่านมา
ปี 2019: ฉันเริ่มมีอาการซึมเศร้า แต่กลับถูกบอกว่า “อย่าคิดมาก” หรือ “ปล่อยวางแล้วจะดีขึ้น” ฉันจึงมองข้ามปัญหาของตัวเอง
ปี 2021: ฉันเริ่มมีอาการเหมือนถูกแมลงกัดและคันทั้งตัว ถึงแม้ไปหาหมอและกินยา อาการก็ไม่ดีขึ้น ฉันจึงเริ่มพบจิตแพทย์เพื่อจัดการกับอาการวิตกกังวล (Anxiety) ของฉันเอง
ปี 2023: ฉันเผชิญกับโรคปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพอง ผิวหนังอักเสบ และอีกหลายปัญหาสุขภาพ รวมถึงการสูญเสียคนในครอบครัว ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน จนฉันไม่ทันสังเกตถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจิตใจตัวเอง
ปี 2024: ฉันเริ่มมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ปวดข้อ ปวดคอ และอาการแพ้รุนแรงขึ้น ตอนแรกคิดว่าเป็นผลข้างเคียงของยารักษาอาการภูมิแพ้ แต่กลับเป็นอาการที่สะท้อนถึงปัญหาสุขภาพจิต
ประสบการณ์ในวัยเด็กและชีวิตที่ผ่านมา
ตอนเด็ก ฉันถูกคนรอบข้างมองว่า “เป็นแจกันไร้ค่า” และเคยถูกครูทำโทษด้วยความรุนแรง ตอนนั้นฉันเชื่อว่า “ทุกอย่างเกิดจากความผิดของตัวเอง” ฉันไม่กล้าบอกใคร เมื่อโตขึ้น ฉันยังถูกทำร้ายซ้ำ แต่ยังคิดว่าเป็นเพราะตัวเองไม่ดีพอ ฉันจึงไม่กล้าขอความช่วยเหลือ
ต่อมาจนกระทั่งผลงานของฉันได้รับการยอมรับและขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่ทำให้ฉันกล้าที่จะพูดบอกลาออกมาในที่สุด เธอคนนั้นได้เรียกร้องค่าชดเชยก้อนโตจากการ “ยกเลิกสัญญาจ้าง” เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการถึงจะยอมหยุดร้องไห้ และเลิกขู่ทำร้ายตัวเอง และยังมีการปล่อยข่าวลือและใส่ร้ายฉันทั้งในและนอกวงการอย่างต่อเนื่อง หลังจากคนมากมายเสพข่าว เข้ามาหาฉันเพื่อคุยเรื่องนี้ ในความเป็นจริง ทุกเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นสร้างบาดแผลลึกในจิตใจฉัน และความเจ็บปวดนั้นไม่เคยหายไปเลย
ความจริงแล้วฉันรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ และไม่สามารถคาดหวังให้เพื่อน พ่อแม่ บริษัท ฯลฯ ต้องสมบูรณ์แบบ พวกเขาไม่ได้ทำร้ายฉัน พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการปกป้องฉัน แค่นั้นก็พอแล้ว
ฉันไม่เคยเปิดเผยอาการป่วยของตัวเองมาก่อน ฉันไม่ได้ต้องการให้โรคนี้ถูกแปะป้ายว่า “เรียกกระแส” แต่ยังไงก็ตามในเมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้ว ฉันอยากเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคนี้ให้ทุกคนทราบ
อาการซึมเศร้าคืออารมณ์ความรู้สึก แต่โรคซึมเศร้าคือโรคที่ต้องรักษา มันไม่สามารถแก้ได้ด้วยการ “คิดให้กว้างๆ” หรือ “แค่พูดมันออกมา” หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนที่รู้สึกเหมือนกันจะเข้าใจ ถึงแม้คนอื่นจะเข้าใจหรือไม่มันก็ไม่สำคัญ สิ่งที่แย่ที่สุดคือคุณจะต้องพิสูจน์ตัวเอง อธิบายให้กับทุกคนฟัง ในขณะที่แม้แต่ตัวคุณเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
ความเข้าใจในสุขภาพจิตของตัวเอง และลำดับความสำคัญด้านการดูแลสุขภาพจิตให้เป็นสิ่งแรก เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ความเสียดายเป็นความรู้สึกที่ไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้น ใช้ช่วงเวลาที่ “พิเศษ” นี้ ให้เป็นโอกาสที่จะเป็นอิสระจากความขัดแย้งในอดีต ให้เป็นการซ่อมแซมตัวเองขึ้นมา
ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เพราะความรักเหล่านี้ทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอีกครั้ง ขอให้ทุกคน สุขสันต์ในวันปีใหม่ และมีความสุขมากมายไม่มีสิ้นสุด
เพิ่มเติมจากใบวินิจฉัยของแพทย์ จ้าวลู่ซือเป็น Dissociative (Conversion) Disorder และ Anxiety Condition
การรักษา :
– การบำรุงบำบัดความวิตกกังวล: 10 ครั้ง
– การให้คําปรึกษาทางจิตวิทยา: 10 ครั้ง
– กินยาเป็นประจําและจัดการความรู้สึก
สำหรับภาวะบุคลิกภาพแยก (Dissociative Disorders) และ ภาวะบุคลิกภาพแยกถือเป็นหนึ่งในความผิดปกติทางจิตวิทยา และในกรณีของจ้าวลู่ซือนั้นเป็นประเภทของความผิดปกติที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง (Conversion Disorder) โดยอาการแสดงอาจรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เช่น อาการชักหรือการพูดติดขัด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
อย่างไรก็ตาม ทางด้านต้นสังกัดอย่าง YinheKuyu Media ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ยังมีการทวีตข้อความ พร้อมติดแฮชแท็ก #จ้าวลู่ซือ #ZhaoLusi #FreeZhaoLusi #TruthForZhaoLusi ส่งกำลังใจแก่นักแสดงสาวกันอย่างเนืองแน่น พร้อมกับกดดันให้ทางต้นสังกัดออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
youtube Doctor Tany
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
