สรุปดราม่า #บิววราภรณ์ ปมสุนัขเสียชีวิต

ตกเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกโซเชียล สำหรับกรณี บิว วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่ถูกพูดถึงหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่สุนัขของเธอหลุดออกจากบ้าน และเข้าไปมีปัญหากับสุนัขของเพื่อนบ้าน จนเป็นเหตุให้สุนัขฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต
ซึ่งพอหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง คุณธนิน สามีของคุณบิว ได้ติดต่อไปยังเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิตเพื่อกล่าวคำขอโทษ พร้อมหารือทำข้อตกลงร่วมกันในการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ส่วนทางฝ่ายของคุณ บิว วราภรณ์ เองก็ยินดีเยียวยาและรับผิดชอบ อีกทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงกันว่าจะไม่กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวอีก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาทางด้าน ครอบครัว และคุณบิวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เดินทางไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่สุนัขที่เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดูเหมือนจะยังไม่จบ เมื่อมีการแจ้งในไลน์กลุ่มหมู่บ้านว่า มีสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนหลุดออกมา 2 ตัว ซึ่งเจ้าของสุนัขที่เคยสูญเสียได้เข้าไปตอบกลับว่า ตนเคยเตือนคู่กรณีแล้วให้ดูแลสุนัขให้ดี แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดซ้ำไวขนาดนี้
ต่อมาทางด้านของคุณบิว วราภรณ์ ได้เข้าไปอ่านข้อความ ปรากฎว่าสุนัขที่คนในหมู่บ้านพูดถึง ไม่ใช่สุนัขของเจ้าตัว แต่เป็นสุนัขของบ้านอื่นที่เลี้ยงไซบีเรียนเหมือนกัน จึงให้ทางด้านสามี คือคุณธนิน โทรไปอธิบายกับทางเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิต ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด
กระทั่ง วันที่ 5 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ช่อง YouTube “BB Memory” ซึ่งเป็นช่องของคุณบาส พี่ชายของคุณบิว ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่พูดถึงการสูญเสียแมวของตนจากเหตุถูกสุนัขจรจัดทำร้าย โดยมีเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิตเข้ามาคอมเมนต์ใต้คลิปดังกล่าวว่า
“เข้าใจความรู้สึกมากๆ เลยค่ะ เพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหมาไซบีเรียนของคุณบิวน้องสาวคุณก็รุมกัดหมาของเราตายเหมือนกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่ได้รับคำขอโทษจากคุณบิวเลยค่ะ ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ”
ซึ่งในโพสต์เดียวกันยังมีคอมเมนต์จากบุคคลที่สามเสริมว่า “แย่มาก ๆ น้องไม่ควรมาโดนแบบนี้ ถ้าเป็นหมาแจ้ตาย ป่านนี้คงเป็นข่าวดังไปแล้ว”
หลังข้อความเหล่านี้ถูกเผยแพร่ จึงทำให้บิว วราภรณ์รีบติดต่อกลับไปยังเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิตอีกครั้ง โดยได้รับคำตอบว่า ทางเจ้าของต้องการให้บิวออกมาขอโทษผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากฝั่งของบิวใช้ชีวิตและทำคอนเทนต์ได้ตามปกติ ในขณะที่ครอบครัวของเขายังต้องอยู่กับความโศกเศร้า และสูญเสีย
จากนั้นบิว วราภรณ์จึงออกมาไลฟ์สดผ่าน TikTok ส่วนตัวเพื่อชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์ ขณะที่เจ้าของสุนัขอีกฝ่ายก็ได้ไลฟ์สดเช่นกัน เพื่อเล่าเรื่องจากมุมของตน ทว่ากลับมีชาวเน็ตจำนวนมากตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชัดเจนของหลักฐาน ทั้งในเรื่องของพันธุ์สุนัข และการระบุว่าเป็นสุนัขของคุณบิวโดยตรง พร้อมตั้งคำถามถึงเหตุผลที่ต้องเรียกร้องคำขอโทษในที่สาธารณะ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ทางเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิตจึงได้โพสต์ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมอธิบายความรู้สึกและเหตุผลต่าง ๆ ที่ทำให้เรื่องราวต้องกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
- เรื่องราวทั้งหมด
- วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม น้องหมาปอมอายุ 14 ปีของเราหลุดออกออกบ้านด้วยความสะเพร่าของเราเอง และไปโดนกัดตายบริเวณส่วนกลางหน้าบ้าน ตอนเวลา 15.55 น. (ตามคลิปด้านล่าง) ทางเราพยายามตามหาเจ้าของหมาที่มากัดปอมเราตาย โดยถามจากรอบ ๆ บ้านและได้คลิปจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านมา
- พบว่าเป็นหมาไซบีเรียน 2 ตัวของคู่กรณีเราจึงทำการโทรฯติดต่อคู่กรณีครั้งแรกในเวลา 18.22 น.
- คู่กรณีไม่อยู่บ้านแจ้งว่าจะเข้ามาคุยวันอาทิตย์ หลังจากนั้นเราได้ไปทำการจัดการศพน้องปอม
- หลังจากที่คุยปรึกษากับทางบ้านแล้ว วันอาทิตย์ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงอยากให้มาพบและพูดคุยกันในวันเกิดเหตุเลย จึงได้โทรฯไปนัดหมายคู่กรณีให้มาพบกัน ณ จุดเกิดเหตุเวลา 20.00 น.
- เวลา 20.00 น. ทางครอบครัวเรา 5 คนรวมทั้งคุณแม่ของเรา (เจ้าของปอม) รออยู่ที่จุดเกิดเหตุและมีการโทรฯตามคู่กรณีถึง 3 รอบโดยคู่กรณีออกมาเวลาประมาณ 20.45 น. (ซึ่งคุณแม่และพี่สาวเราไม่อยากรอแล้วจึงขอเข้าบ้านไปก่อน)
- ได้พบคู่กรณีและคุณแม่ของภรรยาคู่กรณี มีการพูดคุย และได้ทำการขอโทษจากทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายยอมรับว่าหมาหลุดออกมาทั้งคู่ แต่โชคร้ายที่ฝั่งเราเป็นฝ่ายสูญเสียหมาปอมไป และเราได้กำชับถึงมาตรการของคู่กรณีหลังจากนี้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหมาคู่กรณีตัวใหญ่ หลุดมาหลายรอบและไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก โดยทางเรายืนยัน ณ ตรงนั้นว่าไม่ได้อยากรับเงินชดเชยในส่วนใดๆ ก็ตาม
- ทางเราได้แจ้งว่าอยากจะจบจากเหตุการณ์ในวันนี้แต่เพียงเท่านี้ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ทางเรายังทำใจไม่ได้ ทางคู่กรณีเลยแจ้งว่าหากมีคำแนะนำด้านใดหรืออยากให้ดูแลด้านใดให้ติดต่อกลับได้ทันที และทุกคนแยกย้ายกัน ณ จุดเกิดเหตุในเวลาประมาน 22.00 น.
- ในวันต่อมา (อาทิตย์ที่ 16 มีนาคม) มีหมาไซบีเรียนหลุดมาในกลุ่มหมู่บ้านอีกครั้ง ทางเรากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จึงพิมพ์ลงไปในกลุ่ม (ตามภาพที่แนบมา)
- ทางคู่กรณี โทรฯมาแจ้งว่า ไม่ใช่หมาของตน ทางเรารับทราบ และไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อ
- หลังจากเวลาผ่านไป 5-6 วันในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม ทางเราได้คุยกับคุณแม่และถามคุณแม่ว่าพร้อมจะเจอเจ้าของหมารึยัง คุณแม่แจ้งว่าพร้อมแล้ว
- ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม เราจึงได้พยายามโทรฯนัดหมายกับคู่กรณี ครั้งแรกเวลา 16.34 น. และครั้งที่สองเวลา 19.44 น. แต่ทางคู่กรณีไม่รับสายและไม่ติดต่อกลับอีกเลยตั้งแต่วันนั้น
- เหตุผลที่เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์คุณบาส
- “ทางพวกเราทุกคนขอโทษจากใจจริง ที่เข้าไปใช้พื้นที่โซเชียลของคุณบาสสื่อสารไปยังคู่กรณี”
- แต่เนื่องจากวันที่ 6 เมษายน พบว่าพี่ชายของคู่กรณีเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน จึงเข้าไปคอมเมนต์เพื่อแสดงความเสียใจและใช้พื้นที่นั้นสื่อสารไปถึงคู่กรณี เพื่อหวังให้คู่กรณีติดต่อกลับมา (ตามคอมเมนต์ในโพสต์)
- การติดต่อกลับมาของคู่กรณี
- หลังจากที่เราคอมเมนต์ในโพสต์ของคุณบาสไป เราได้รับการติดต่อกลับมาจากคู่กรณีในวันที่ 7 เมษายน เวลา 11.26 น. (พูดคุยกันประมาณ 25 นาที) เราได้ถามถึงเหตุผลที่ไม่ติดต่อกลับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ซึ่งทางคู่กรณีแจ้งว่าผิดพลาดเองติดธุระ (แต่ทำไมไม่โทรฯกลับมา? ทั้ง ๆ ที่มีเบอร์เรา)
- ได้ข้อสรุปว่า ทางคู่กรณีเข้าใจผิด คิดว่าเราไม่อยากพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว (ถ้าเราไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว วันที่ 20 มีนาคม เราจะพยายามติดต่อคุณไปทำไม? เราจะรอให้คุณติดต่อกลับมาทำไม?)
- สรุปการพูดคุยในวันที่ 7 เมษายนคือ ทางเราแจ้งว่า “ให้ทางคู่กรณีกลับไปพูดคุยกันแล้วให้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง”
- ในวันที่ 8 เมษายน (วันนี้) เวลาประมาณ 11.00 น. ทางคู่กรณีทั้งสองไลฟ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราฟังพบว่ามีความคลาดเคลื่อนในหลาย ๆ ประเด็นในข้อเท็จจริง
- สิ่งที่เราต้องการ
- ในตอนแรก เราแค่ต้องการนัดหมายและต้องการคำขอโทษด้วยความจริงใจโดยตรงกับคุณแม่ของเรา ซึ่งเป็นเจ้าของหมาปอมตัวจริง แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ ทั้งสิ้น และในตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษนั้นอีกต่อไปแล้วครับ เรายืนยันว่าไม่ได้อยากทะเลาะกับใครใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่มีการต่อว่าคู่กรณีแต่อย่างใด สุดท้ายขออนุญาตพูดในมุมของคนที่โกรธ และสูญเสียหมาที่เลี้ยงเหมือนลูกมาตลอด 14 ปี ตอนนี้พวกเราโดนกระแสโซเชียลถล่มเยอะมาก และทำให้สภาพจิตใจของพวกเราย่ำแย่ไม่แพ้กัน จึงจบประเด็นทั้งหมดตรงนี้เท่านี้นะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews