เมื่อถึงเวลาต่อประกันรถยนต์ หลายคนมักเกิดคำถามว่าควรต่อประกันกับบริษัทเดิม หรือเปลี่ยนไปทำกับบริษัทใหม่ดี เพราะการตัดสินใจเลือกประกันรถยนต์นั้นส่งผลโดยตรงต่อความคุ้มครองและค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายตลอดทั้งปี การพิจารณาอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการมากที่สุด
เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยน ประกันรถยนต์
การเปลี่ยนประกันรถยนต์ เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาเมื่อคุณพบว่าพฤติกรรมการขับขี่หรือการใช้รถของคุณเปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่ใช้รถเฉพาะในเมือง อาจต้องขับรถทางไกลบ่อยขึ้น หรือมีการใช้รถเพื่อธุรกิจ ซึ่งต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้น นอกจากนี้ หากคุณพบว่าเบี้ยประกันปีต่อไปมีการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือการบริการหลังการเคลมไม่เป็นที่พอใจ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องมองหาตัวเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์กว่าเดิม
ทำไมเคลมบ่อยถึงควรเปลี่ยนประกันรถยนต์เจ้าใหม่
การเคลมประกันบ่อยครั้งส่งผลโดยตรงต่อเบี้ยประกันในปีถัดไป เพราะบริษัทประกันจะประเมินความเสี่ยงของผู้เอาประกันจากประวัติการเคลม ยิ่งเคลมบ่อย เบี้ยประกันก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้น การเปลี่ยนประกันรถยนต์ไปบริษัทใหม่อาจช่วยให้ได้เบี้ยประกันที่ถูกลง เพราะบางบริษัทอาจมีนโยบายการคำนวณเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน หรือมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเงื่อนไขความคุ้มครองให้ดีก่อนตัดสินใจเปลี่ยน
การต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิมมีข้อดีอะไรบ้าง?
การต่อประกันกับบริษัทเดิมมีข้อดีหลายประการที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะหากคุณพอใจกับบริการที่ได้รับ ยกตัวอย่างเช่น
- ได้รับสิทธิพิเศษลูกค้าเก่า : บริษัทประกันมักมีส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับลูกค้าที่ต่อประกันปีต่อปี
- มีประวัติการเคลมที่ชัดเจน : ทำให้การเคลมครั้งต่อไปสะดวกและรวดเร็วขึ้น เพราะบริษัทมีข้อมูลประวัติการซ่อมและการเคลมที่ผ่านมา
- ความคุ้นเคยกับขั้นตอนและบริการ : ไม่ต้องเรียนรู้ระบบหรือขั้นตอนการให้บริการใหม่ ทำให้สะดวกเมื่อต้องการความช่วยเหลือ
- โอกาสต่อรองเงื่อนไขพิเศษ : การเป็นลูกค้าเก่าอาจทำให้มีโอกาสต่อรองเงื่อนไขหรือขอสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้
สิ่งที่ต้องเช็กก่อนต่อประกันรถยนต์
ก่อนตัดสินใจต่อประกันหรือเปลี่ยนบริษัทประกัน มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มค่าที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
- เปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครอง : ตรวจสอบว่าเบี้ยประกันที่จ่ายคุ้มค่ากับความคุ้มครองที่ได้รับหรือไม่
- ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้น : อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ละเอียด โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับข้อยกเว้นความคุ้มครอง
- พิจารณาฐานะทางการเงินของบริษัท : เลือกบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน เพื่อความมั่นใจในการจ่ายค่าสินไหม
- ตรวจสอบศูนย์ซ่อมในเครือ : ดูว่ามีศูนย์ซ่อมที่สะดวกต่อการเข้าใช้บริการหรือไม่
- ประเมินคุณภาพการบริการ : สอบถามจากผู้ใช้จริงหรืออ่านรีวิวเกี่ยวกับการบริการและการจัดการเคลม
สรุปบทความ
การตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถยนต์เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องความคุ้มครอง เบี้ยประกัน และคุณภาพการบริการ แม้การต่อประกันกับบริษัทเดิมจะมีข้อดีหลายประการ แต่การเปลี่ยนไปทำกับบริษัทใหม่ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในบางกรณี สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้รถและความต้องการของตัวเอง
และสำหรับคนที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า ครอบคลุม และได้รับบริการที่ประทับใจ สามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ตัวแทน หรือซื้อประกันออนไลน์ผ่าน INSURE อินทรประกันภัย หรือโทร 02-636-5656 เราพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ