การเทรด forex คือ การซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน เช่น USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาท) ฟอเร็กซ์เป็นหนึ่งในประเภทการลงทุนที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากตลาดมีสภาพคล่องสูง และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ด้วยปริมาณการเทรดเฉลี่ยมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
ดังนั้น ในบทความนี้ ทีมงาน CompareForexBrokers ของเรา จะเริ่มอธิบายตั้งแต่ความหมาย วิธีการเทรด คำศัพท์ที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลพื้นฐานที่เพียงพอก่อนการเริ่มลงทุนจริง
ตลาด Forex คืออะไร?
ตลาด Forex เป็นตลาดสำหรับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Trading) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), เยน (JPY) และอื่นๆ โดยราคาในตลาดจะเป็นราคาที่มาจากการเปรียบเทียบกับสกุลเงินใน คู่เงิน (Currency Pairs)
ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ และจะเปิดทำการตั้งแต่ 05:00 น. ของวันจันทร์ และปิดทำการในวันศุกร์เวลา 04:00 น. ของวันเสาร์ (ตามเวลาในประเทศไทย)
โดยตลาด Forex สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่
-
Spot Forex: เป็นตลาดที่มีการซื้อขายสกุลเงินในราคาปัจจุบัน โดยใช้เวลาดำเนินการจนสิ้นเพียงสองวันทำการ
-
Forex Derivatives: เป็นตลาดที่มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Swaps) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้
คู่สกุลเงิน
คู่สกุลเงินที่คุณเห็นในกระดานเทรดจะประกอบด้วยสองสกุลเงินเสมอ โดยสกุลเงินตัวแรกจะเป็น Base Currency (สกุลเงินฐาน) ส่วนสกุลเงินที่สองเรียกว่า Quote Currency (สกุลเงินอ้างอิง)
คู่สกุลเงินที่ทำการซื้อขายมากที่สุด
คู่สกุลเงินที่มีการเทรดมากที่สุดบนตลาด Forex ได้แก่
-
EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ):ปริมาณการเทรดมากที่สุดในโลก
-
GBP/USD (ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ): มีความผันผวนสูง
-
USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น): มีสภาพคล่องสูงและมีการเทรดมากในตลาดเอเชีย
-
AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ): มีความสัมพันธ์กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์
-
USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา): มีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมัน
อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate)
อัตราแลกเปลี่ยน คือ ราคาที่แสดงถึงมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง มีค่าผันผวนตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการในตลาด การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือการประกาศจากธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ
- ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการแลกเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็น 35 บาทไทย (THB) อัตราแลกเปลี่ยนจะเท่ากับ 1 USD = 35 THB
ความแตกต่างของราคาเสนอขายและซื้อ
เพื่อให้เทรดเดอร์มือใหม่เช่นคุณมองภาพรวมออก ลองดูคำอธิบายด้านล่างนี้
-
ราคาเสนอขาย (Bid Price)คือ ราคาซึ่งผู้ค้าสามารถขายสกุลเงินได้ หรือเป็นราคาที่ตลาดพร้อมจะซื้อจากคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขายสกุลเงิน EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) ที่ราคา 1.1200 แปลว่า คุณต้องการขาย 1 EUR เพื่อรับ 1.1200 USD
-
ราคาเสนอซื้อ (Ask Price) คือ ราคาที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินได้ หรือเป็นราคาที่ตลาดพร้อมจะขายให้กับคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1205 แปลว่า คุณต้องการซื้อ 1 EUR (ยูโร) ด้วยเงิน 1.1205 USD
สเปรด (Spread) และ Pips
สเปรด คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขายและราคาเสนอซื้อ ซึ่งเป็นต้นทุนในการเทรด Forex ตัวอย่างเช่น:
- ราคาเสนอขาย (Bid): 1.1200
- ราคาเสนอซื้อ (Ask): 1.1205
ในกรณีนี้ สเปรด คือ 0.0005 หรือ 5 จุด (pips) ซึ่งเมื่อพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า Pips คือ หน่วยการวัดความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขายและราคาเสนอซื้อนั่นเอง
บัญชีเดโม (Demo Account)
บัญชีเดโม คือ บัญชีผู้ใช้สามารถลองทำเข้าสู่ตลาดเทรด ทำการซื้อขาย และทดลองกลยุทธ์ในการเทรดที่วางแผนไว้ได้โดยไม่ต้องกังวลกับว่าเงินที่เสียไป เนื่องจากเงินในบัญชีนี้เป็นเพียงเงินสมมุติเท่านั้น คุณสามารถเลือกใช้บัญชีเดโมได้จากโบรกเกอร์ชั้นนำของคุณ ที่ควรได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล Tier 1,2,3 หรือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทย
การสร้างกำไร/ขาดทุน
นี่คือตารางที่ช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทำกำไรและขาดทุนได้ง่ายขึ้น
แพลตฟอร์ม Forex
แพลตฟอร์ม Forex เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาด Forex และทำการซื้อขายสกุลเงินได้สะดวก ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้มักประกอบได้ด้วย เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและฟังก์ชันการซื้อขายที่ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่นิยม ได้แก่:
- MetaTrader (MT4/MT5): เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคและความสามารถในการใช้หุ่นยนต์เทรด (Expert Advisors)
- cTrader: แพลตฟอร์มที่เน้นความเร็วและความแม่นยำในการทำคำสั่งซื้อขาย พร้อมเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่ทันสมัย
- TradingView: เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูง ในหมู่นักวิเคราะห์กราฟและผู้ที่ต้องการติดตามตลาด ผู้ใช้สามารถเข้าถึงกราฟแบบเรียลไทม์จากหลายตลาด รวมถึง Forex, หุ้น, คริปโต และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ครบครัน เช่น อินดิเคเตอร์ การตั้งค่าเทมเพลตกราฟ การแชร์กราฟ และการวิเคราะห์แบบคลาวด์
กลยุทธ์การเทรด Forex
กลยุทธ์การเทรด Forex คือแผนการที่ใช้เพื่อการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งคุณสามารถเลือกตามสไตล์การเทรดของคุณได้ เช่น:
-
Scalping: การเทรดที่ทำการเปิดและปิดตำแหน่งอย่างรวดเร็ว (ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที) เพื่อสร้างกำไรจากการเคลื่อนไหวในช่วงสั้นๆ
-
Day Trading: การเทรดที่เปิดตำแหน่งและปิดในวันเดียว โดยไม่ได้ถือครองตำแหน่งข้ามคืน
-
Swing Trading: การเทรดที่ถือครองตำแหน่งในระยะกลาง (ตั้งแต่หลายวันจนถึงหลายสัปดาห์) โดยหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของราคา
ความเสี่ยงและโอกาสจากการเทรด Forex
ความเสี่ยง
Forex ถือเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ตลอดเวลา และไม่มีการรับประกันว่าคุณจะสร้างกำไรได้เสมอไป โดย
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ตลาด อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย การประกาศทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางการเมือง เป็นต้น
โอกาสการสร้างกำไร
Forex เปิดโอกาสให้ผู้ค้าสามารถสร้างกำไรจากการเคลื่อนไหวของสกุลเงินได้ทั้งขาขึ้นและลง ดังนั้น การเข้าใจทิศทางของตลาดและการใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเทรดจะสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
บทสรุปเกี่ยวกับการเทรด Forex
การเทรด Forex เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในตลาดการเงินโลก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจและต้องจัดการอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจกับคำศัพท์พื้นฐาน การใช้งาน รวมทั้งเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมพร้อมวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราขอเตือนคุณอีกครั้ง การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงและฟอเร็กซ์ก็เป็นหนึ่งในการลงทุนนั้น เพื่อความปลอดภัยของเงินของเงินของคุณ การเทรดของคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนไปในจำนวนที่สูงเกินไป อย่าลืมประเมิณความเสี่ยงทุกครั้งก่อนตัดสินใจใดๆ