Home
|
เศรษฐกิจ

ดราม่า ปมหักเงินเพิ่ม 3,000 บาท! ชาวเน็ตแห่ร้องเรียน ล่าสุด กยศ. ชี้แจงแล้ว

Featured Image

          จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” ได้รับข้อความ ขอความช่วยเหลือจากลูกเพจเกี่ยวกับการหักเงินกู้ กยศ. เพิ่มขึ้นโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งมีการหักเงินจากเดิมเดือนละ 3,000 บาท โดยอ้างว่าไม่มีการแจ้งเตือนในแอปฯ อีเมล์ หรือช่องทางอื่น ๆ ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยและกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มหักเงินโดยไม่ทราบเหตุผล 

          ต่อมา ทางด้าน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ได้ออกมาชี้แจงว่า เงินที่เก็บเพิ่ม 3,000 บาทนั้นเป็นการเก็บจากผู้กู้ที่มีสถานะค้างชำระ และทางกองทุนฯ ระบุว่าผู้กู้สามารถหลีกเลี่ยงการถูกหักเงินตามที่แจ้งนี้ได้ด้วยการดำเนินการตามข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ :

  1. ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้
  • เพื่อลดจำนวนการผ่อนชำระต่อเดือน
  • ขยายเวลาการผ่อน
  • ลดเบี้ยปรับให้ 100%
  • และปลดผู้ค้ำประกันให้

 

          โดยกองทุนฯ จะแจ้งจำนวนเงินการหักเงินเดือนตามยอดผ่อนชำระใหม่ ในเดือนถัดจากเดือนที่ผู้กู้ยืมได้ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว เช่น ในกรณีที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ภายในเดือนเมษายน 2568 กองทุนจะแจ้งยอดผ่อนชำระใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2568 ดังนั้นในเดือนเมษายน 2568 จะทำให้ถูกหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท เพียง 1 เดือนเท่านั้น

 

  1. ชำระยอดหนี้ค้างให้เสร็จสิ้น หากผู้กู้ยืมชำระแล้วให้ผู้กู้ยืมเงินนำหลักฐานการชำระแจ้งต่อนายจ้างแล้ว ให้นายจ้างลบยอดออก 3,000 บาท จากยอดหักเงินเดือนในเดือนเมษายน 2568 ได้

 

เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ กยศ.

          สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. นั้น ครอบคลุมเป้าหมายคือ กลุ่มก่อนฟ้องคดี, กลุ่มที่บอกเลิกสัญญาแล้วแต่ยังไม่ฟ้องคดี, กลุ่มที่ฟ้องคดีแล้วแต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา, กลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่บังคับคดีและได้บังคับคดีไปแล้ว และกลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด

 

โดยเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ มีดังนี้

  • ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระเงินคืนกองทุนเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน
  • ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี
  • ในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
  • การคำนวณยอดหนี้ที่จะนำมาปรับโครงสร้างหนี้

 

          ทั้งนี้ กองทุนฯ จะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีคำนวณยอดหนี้ใหม่แล้วไม่มียอดหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงเหลือ กองทุนฯจะปรับโครงสร้างหนี้ให้ผู้กู้ยืมและให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% โดยถือว่าผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว

          สำหรับผู้กู้ยืมที่มียอดหนี้คงเหลือและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ กองทุนฯจะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายนับแต่วันครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรก มาคำนวณตัดชำระหนี้ใหม่ จากเดิมตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น แต่เมื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่จะตัดเงินต้น (เฉพาะส่วนที่ครบกำหนด) ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ

  • อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี และอัตราเบี้ยปรับ 0.5% ต่อปี
  • ในส่วนของเบี้ยปรับทั้งหมด กองทุนฯจะพักแขวนไว้ เมื่อผู้กู้ได้ทำการชำระหนี้ปิดบัญชีจะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ 100%
  • เมื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากสัญญาค้ำประกันเงินกู้ทันที
  • ในกรณีที่ผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สะสมถึง 6 งวด หรือเมื่อผู้กู้ยืมมีงวดผ่อนชำระเหลือไม่ถึง 6 งวด หากผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด ให้ถือว่าสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุดลง กองทุนฯจะนำเบี้ยปรับที่ตั้งพักแขวนไว้กลับคืนมาเป็นทุนทรัพย์เพื่อดำเนินการฟ้องร้องหรือบังคับคดีกับผู้กู้ยืมต่อไป

 

กำหนดการปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์ ประจำปี 2568

ที่เว็บไซต์ https://slfregis.studentloan.or.th ผู้กู้ยืมต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD *กรุณาตั้งค่า Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นในโทรศัพท์มือถือ ก่อนทำสัญญา 

ระบบ Android

ระบบ iOS

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube