พระพุทธกวัก กวักมานี่เถิด กวักให้ได้ดี มีโชค มีชัย มีเสน่ห์ มีเมตตา มีบารมี ที่เชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล
พระพุทธกวัก กวักมานี่เถิด กวักให้ได้ดี มีโชค มีชัย มีเสน่ห์ มีเมตตา มีบารมี พระพุทธกวัก หลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังถึงเรื่องราวของพระพุทธกวักมาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจารย์เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน เพราะส่วนใหญ่คนจะรู้จักกันเฉพาะ นางกวัก ซึ่งวันนี้จะนำเรื่องราวของวัตถุมงคลที่เชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล
พระพุทธกวัก ถ้าเรียกเป็นแบบทางการ คือ พระพุทธรูปปางประทานเอหิภิกขุ แต่เรามักเรียกตามภาษาชาวบ้านตามที่เห็นว่า พระพุทธกวัก ซึ่งมีพระพุทธลักษณะของพระพุทธรูปปางประทานเอหิภิกขุ พระพุทธองค์ทรงอยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวายกขึ้นตั้ง ฝ่าพระหัตถ์ตรงออกไป งอนิ้วพระหัตถ์ลงหน่อย เป็นกิริยาทรงกวักจนบางแห่งเรียกตามพุทธลักษณะนี้ว่า พระพุทธกวัก
- ตำนานพุทธรูปปางประทานเอหิภิกขุ หรือ พระพุทธกวัก
เมื่อโกณฑัญญะหนึ่งในปัญจวัคคีฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ได้เกิดธรรมจักษุแจ่มแจ้งในธรรมขึ้นแล้ว สิ้นความสงสัยแล้ว ดำรงมั่นอยู่ในอริยคุณชั้นเป็นพระอริยบุคคลชั้นพระโสดาบันแล้ว ท่านจึงได้ทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาจึงได้ทรงอนุญาตให้ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุในธรรมวินัยนี้ ด้วยทรงเปล่งพระวาจาว่า “เอหิ ภิกขุ” เป็นอาทิ ซึ่งมีใจความว่า “ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด” ด้วยการตรัสพระวาจาเพียงเท่านี้ท่านโกณฑัญญะนั้นก็ได้สำเร็จเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เป็นอันอุปสมบทแล้ว การอุปสมบทด้วยวิธีการอย่างนี้ เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” มีสมเด็จพระบรมศาสดาทรงเป็นพระอุปัชฌายะโดยตรง และเป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงทำ ทรงเป็นพระอุปัชฌายะองค์แรก มีพระโกณฑัญญะเป็นพระภิกษุรูปแรก พระพุทธจริยาที่พระบรมศาสดาทรงเป็นพระอุปัชฌายะ ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระโกณฑัญญะ ซึ่งเป็นสิทธิวิหาริกองค์แรกของพระองค์ จัดเป็นนิมิตรมงคลอันดีของพระสงฆ์สาวกที่เจริญรุ่งเรือง สืบมาจนบัดนี้ เป็นให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ เรียกว่า “ปางประทานเอหิภิกขุ“
ในวันต่อมา พระบรมศาสดาทรงเทศนาสั่งสอน พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และ พระอัสสชิ ด้วยปกิณกเทศนา ให้ท่านทั้ง 4 รูป ได้บรรลุพระโสดาปัตติผล แล้วทรงประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้ท่านทั้ง 4 รูป เป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย ครั้นวันแรม 5 ค่ำ เดือน 8 ได้ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร โปรดพระปัญจวัคคีย์ภิกษุทั้ง 5 รูป นั้นได้บรรลุพระอรหัตต์ เป็นพระอเสขะอริยบุคคล ซึงดำรงอยู่ในอริยผลสูงสุดในพระพุทธศาสนา นับเป็นพระสาวกที่ทรงอรหัตตสมบัติชุดแรกของพระบรมศาสดา
พระพุทธจริยาที่พระองค์ผู้เป็นพระบรมศาสดาได้ทรงเป็นพระอุปัชฌายะในการประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระโกณฑัญญะ จัดเป็นนิมิตหมายมงคลอันดีของพระสาวกผู้ที่ได้รับซึ่งมีแต่ความเจริญงอกงามในพระศาสนา ถือว่าเป็นโชคลาภอย่างยิ่งของท่านที่ได้รับพระวาจาและได้ทัสสนาพุทธจริยาเช่นนี้ ต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมา เรียกว่า “ปางประทานเอหิภิกขุ” แต่เราถือเอาพุทธลักษณะที่เห็นเป็นเหมือนว่ากวัก มาเรียกกันว่าพระพุทธกวัก และสื่อโชคลาภใหม่ตามแต่ใจปรารถนาของบุคคลที่ต้องการลาภผลทางสังคมโลกอยู่ว่า หากใครได้บูชาพระพุทธกวักนี้ เหมือนพระพุทธองค์กวักให้มารับโชคลาภมาให้เรา
- พุทธคุณ พระพุทธกวัก
การที่พระพุทธองค์ได้กวักเรียกใครเข้ามาด้วยพระดำรัสเอหิภิกขุ ถือว่าเป็นโชคลาภของผู้นั้น เมื่อมีการสร้างเป็นพระพุทธรูปหรือพระพิมพ์ขึ้นมาเรียกตามพุทธลักษณะที่เห็น จึงมักเรียกกันว่าพระพุทธกวัก หรือเชื่อว่าหากได้บูชาแล้ว เป็นสิริมงคลยิ่งนัก นำมาซึ่งลาภผล เป็นต้นว่า โชคลาภ วาสนา เมตตามหานิยม เงินทองไหลมา เลื่อนยศตำแหน่ง หายโรคภัย สุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย ค้าขายดี มีลูกค้าเนื่องแน่น เป็นสง่าราศี แก่ผู้บูชา มีความร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย
- มวลสารที่นิยมนำมาสร้างพระพุทธกวัก
พระพุทธกวักเนื้อไม้แกะ พระพุทธกวักเนื้อผง พระพุทธกวักเนื้อดิน พระพุทธกวักเนื้อว่าน พระพุทธกวักเนื้อทองสำริด พระพุทธกวักเนื้อทองคำ พระพุทธกวักเนื้อเงิน พระพุทธกวักเนื้อทองแดง พระพุทธกวักเนื้อชิน พระพุทธกวักเนื้อตะกั่ว พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระพุทธกวักได้เข้มขลัง มีหลายรูป ได้แก่ หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่นาค วัดระฆัง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อทบ วัดชนแดน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันตก และอีกหนึ่งท่าน คือ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธ
- พระคาถาบูชาพระพุทธกวัก ของหลวงพ่อกวย ตั้งนะโม ๓ จบ
มาตาวะปาริโต สันเต มานะวัตเถ ปะระมัตถิโน นามิโต เทวะสังเฆหิ มานะฆาตัง นะมามิ นะมัสสามิ
พระพุทธกวักนี้ หากตกทอดอยู่กับผู้ใดแล้ว ก็จะมีโชคลาภเป็นเนืองนิตย์ แต่เราก็ต้องรู้หลักในการสักการะบูชา และระลึกถึงท่านอยู่เสมอ เราจะต้องใช้พระคาถาซึ่งเป็นหัวใจของท่าน บูชาเป็นประจำทุก ๆ วัน แล้วโชคลาภก็จะทยอยกันเข้ามา โดยที่ท่านจะบันดาลมาให้ในทางลับโดยที่เราไม่รู้ตัว
นอกจากนี้หากท่านใดทำกิจการค้าขาย หรือนักแสดง อยากให้คนเข้ามาอุดหนุนสินค้า หรือเข้ามาชมการแสดง ก็มีคาถาเสกกวักเรียกผู้คน เรียกโชคลาภตำหรับพระครูมงคลวรสิทธิ พ่อท่านทอง วัดหลักห้า เมืองยะลา โดยจุดธูปเก้าดอก บอกกล่าว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อท่านทอง วัดหลักห้า แล้วว่าคาถา ดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ…มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตัง จิตมนุษย์ หญิงชายทั้งหลายทั่วแผ่นดิน มานิมามา อาคัจฉาหิ มีจิตมารักข้าพเจ้า ทุกคน อุอะมะ เกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุ บูชาข้าพเจ้าอย่าได้ขาด สัพพะบูชา มหาลาภัง ภะวันตุ เมฯ
…มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตัง มานิมา จิตตังวา บุปผังวา เทวีวา ราชาวา เศรษฐีวา สมโณวา พราหมา มะโณวา อิตถิวา ปุริโสวา พาณิชโชวา พาณิชชาวา เอหิ เอหิ ปูชิตา อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ
พระคาถาบทนี้บริกรรมท่องในใจ ทำท่ากวักมือทางหน้าร้านค้า สามารถที่จะดลบันดาลเรียกคนให้มา วิชานี้เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ขายของทั้งหลาย สวด สาม จบ อธิษฐานจิตขอโชคลาภเรียกผู้คนให้มาอุดหนุนธุรกิจการค้า การแสดงของตน สวดเป็นประจำเสริมโชคลาภและเสน่ห์เมตตา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news