มิชลินไกด์ (Michelin Guide) เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางนักชิมทั่วโลก ให้มุ่งสู่ร้านอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพรสชาติอันเลิศล้ำและประสบการณ์การทานอาหารที่เหนือชั้น โดยรางวัลนี้ ถือเป็นเครื่องหมายการันตีมาตรฐานบ่งบอกถึงความพิเศษและความยอดเยี่ยมของร้านอาหารนั้น ๆ ทำให้การได้เป็นหนึ่งในร้านอาหาร Michelin Star ถือเป็นความฝันสูงสุดของเชฟหลายคน
แต่กว่าจะคว้า Michelin Star ดาวมิชลินมาประดับบนหน้าร้านไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะเหล่าเชฟและทีมงานต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ฝีมือและความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การทานอาหารที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งร้านอาหาร Michelin Star ทุกแห่ง ต้องผ่านการประเมินที่เข้มงวดและละเอียดถี่ถ้วน วันนี้ เราจึงจะมาทำความรู้จักกับเกณฑ์การให้คะแนนของ Michelin Star กัน
ประวัติความเป็นมา
ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจประวัติของ Michelin Guide กันก่อน ซึ่ง Michelin Guide เริ่มต้นในปี 1900 โดยบริษัทยาง Michelin จากประเทศฝรั่งเศส เดิมทีคู่มือนี้มีไว้เพื่อแนะนำร้านอาหารและโรงแรมให้กับนักเดินทาง แต่ต่อมาได้พัฒนาเป็นมาตรฐานการประเมินคุณภาพร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดย Michelin ใช้ระบบการให้ดาวตั้งแต่ 1 ถึง 3 ดาว โดยมีความหมายดังนี้
- 1 ดาว อาหารดีมาก ควรค่าแก่การแวะชิม
- 2 ดาว อาหารยอดเยี่ยม สมควรเปลี่ยนเส้นทางเพื่อมาลิ้มลอง
- 3 ดาว อาหารระดับพิเศษ สมควรเดินทางมาเพื่อชิมโดยเฉพาะ
เกณฑ์การพิจารณาร้านอาหาร Michelin Star
เกณฑ์การให้คะแนนเพื่อประเมินให้ดาวร้านอาหาร Michelin Star จะประกอบด้วย 5 ประการหลักด้วยกัน ดังนี้
- คุณภาพของวัตถุดิบ: วัตถุดิบที่ใช้ต้องสดใหม่ เป็นวัตถุดิบตามฤดูกาล และมีคุณภาพสูงสุด ร้านอาหารควรคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น และนำเสนอรสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบได้อย่างครบถ้วน
- ฝีมือการปรุง: เชฟต้องมีความเชี่ยวชาญ เข้าใจเทคนิคการปรุงอาหารอย่างลึกซึ้ง สามารถดึงรสชาติที่ดีที่สุดจากวัตถุดิบออกมา และสร้างสรรค์เมนูที่แปลกใหม่ และน่าสนใจได้อย่างคงเส้นคงวา
- รสชาติ: อาหารต้องมีรสชาติที่กลมกล่อม ลงตัว ดึงดูดใจ และสร้างความประทับใจให้กับผู้ทาน รวมถึงสะท้อนถึงเอกลักษณ์ สไตล์ และความคิดสร้างสรรค์ของเชฟได้เป็นอย่างดี
- คุณค่าและความคุ้มค่า: ราคาอาหารต้องสมเหตุสมผล สอดคล้องกับคุณภาพ รสชาติ และประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้ผู้รับประทานรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
- ความสม่ำเสมอ: ร้านอาหารต้องรักษามาตรฐาน คุณภาพ และรสชาติของอาหารให้คงที่อยู่เสมอ มิฉะนั้นอาจถูกปรับลดดาวลงได้เช่นกัน
การได้รับดาวและได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหาร Michelin Star เป็นความฝันของเชฟและร้านอาหารมากมายทั่วโลก แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความทุ่มเท ความพิถีพิถัน และความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ หากอยากไปตามรอย Michelin ก็มั่นใจได้เลยว่าร้านอาหารที่ได้รับดาวเป็นร้านที่อร่อยจริง และจะสร้างความประทับใจให้คุณได้แน่นอน