Home
|
ไลฟ์สไตล์

3 เหตุผลที่เราควร offline บ้าง

Featured Image

          ค่าเฉลี่ยของฉันในสัปดาห์นี้คือ….ชั่วโมง….นาที ใครที่ใช้ iOS น่าจะเคยเห็นว่ามันจะแจ้งเตือนแบบนี้ทุกสัปดาห์ มีใครเคยตกใจกับตัวเลขกันบ้างไหม? หรือใครที่ใช้มือถือเพื่อ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เคยสังเกตไหมว่าเราใช้มากเกินไปหรือเปล่า ผลวิจัยล่าสุดชี้ว่าคนเราใช้จ่ายเวลากับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น แน่นอนว่าเราใช้เวลาไปกับมือถือกันเยอะ ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำงาน เพื่อคุยกับเพื่อน หรือกับแฟน แต่ลองดูเหตุผล 3 ข้อนี้ เพราะ 3 ข้อที่จะชี้ว่าคุณควร offline บ้างหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย

          1.สุดท้ายเราทุกคนอาจจะใช้เทคโนโลยีผิดวิธี

          มีข้อความน่าสนใจกล่าวไว้ว่า ในอดีตมนุษย์เราฉลาดพอที่จะสร้างเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง แต่น่าเสียดายที่เราไม่เคยฉลาดพอที่จะใช้มันอย่างชาญฉลาด เช่น อาวุธที่เราเคยประดิษฐ์ขึ้นเพื่อล่าสัตว์ มันก็กลับกลายมาเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายกันเอง 

          เทคโนโลยีอื่นๆก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานนิวเคลียร์ โทรทัศน์ จนมาถึงโทรศัพท์มือถือ สิ่งเหล่านี้กลายมาทำร้ายเราในหลายครั้ง เช่น เราใช้มือถือทั้งๆที่อยู่กับเพื่อน เราดูวิดีโอผ่านสื่อโซเชียลทั้งๆที่ตัวเรานั่งอยู่ริมทะเล จนบางครั้งอยากให้ลองถามตัวเองดูว่า นี่เราเสพติดมากเกินไปหรือเปล่า? เราใช้มันผิดวิธีจากที่มันควรจะเป็นหรือเปล่า?

          2.Nocebo Effect 

          หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับคำนี้ Nocebo Effect ขอเล่าสั้นๆ ทุกคนจะได้เห็นภาพกับคำนี้ ก่อนอื่นต้องรู้จักคำว่า Placebo หรือ พลาเซโบ เรียกง่ายๆคือ การเอาใจ วิธีนี้ถูกใช้ในการจ่ายยาหลอก หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องที่แพทย์จะจ่ายยาหลอกให้กับคนไข้ เช่นให้กินวิตามินแล้วคนไข้รู้สึกว่าตัวเองหายปวดหัว ตัวเองแข็งแรงมากขึ้น Nocebo Effect  ก็คือคำตรงข้าม คือเราจะรู้สึกแย่กับการรักษา การทานยา อาการนี้เองก็อาจส่งผลเมื่อเราเล่นมือถือมากไปได้

          แล้วมันส่งผลอย่างไร? ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายสุดคือระหว่างที่เราเล่นมือถือ เราได้เสพข่าวเชิงลบมากๆ จนทำให้เราวิตกกังวลจนเกินเหตุได้ เช่นข่าวโควิด ตอนแรกก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่พออ่านข่าวปุ๊บ เจ็บคอปั๊บ! และนำไปสู่ความวิตกกังวล ความเศร้าโดยที่เราไม่รู้ตัว 

          3.เสียเวลาทำอย่างอื่น

          คำนี้อาจจะดูแรง แต่ก็เป็นคำที่ตรงมากๆเลย จากผลวิจัยของสหรัฐฯ ชี้ว่าคนใช้เวลาค่าเฉลี่ย 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในการเล่นมือถือ ส่วนคนไทยเคยมีผลสำรวจโดยเล่นมือถืออยู่ราวๆ 4.7 ชั่วโมง แน่นอนว่าตัวเลขนี้มาจากหลายปัจจัย เช่น ตอนกลับบ้านไม่รู้จะทำอะไร อยู่เฉยๆที่บ้านก็เล่น อย่างไรก็ตามในวันหยุดนั้นอยากให้ลองทำกิจกรรมอื่นๆ วางมือถือลงบ้าง เราจะรู้ว่าเรามีเวลาทำอะไรอีกเยอะ (ตัวผู้เขียนเคยลอง ตอนนั้นมีกระแส โซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ (Social Media Detox) แล้วพบว่ามันก็จริง เวลารู้สึกผ่านไปช้ากว่าเดิมเยอะเลย) 

          การที่เรา Offline จากโซเชียลบ้างจะทำให้เรามีเวลาและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ลองปิดการแจ้งเตือนหากไม่มีอะไรสำคัญเพื่อให้วันหยุดของเราได้ลองทำอะไรอย่างอื่นบ้าง บางทีเราอาจจะมีความสุข ได้ปล่อยตัวเองจากความเหนื่อยล้ามากขึ้น ใครจะคิดว่าบางทีการเล่นมือถืออาจจะเครียดกว่าเดิมอีกก็ได้นะทุกคน และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ INN Lifestyle 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

ขอขอบคุณข้อมูล 

psychologytoday

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube