1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
รักใครให้ดื่มนม คำนี้อาจจะคุ้นหู หรือผ่านตาใครหลายคนมาเป็นเวลานาน วันนี้อยากจะชวนทุกคนให้มาดื่มนมกัน สำหรับใครที่เลิกดื่มนมไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ วันนี้อาจจะเป็นโอกาสอันดีที่จะหยิบนมขึ้นมาดื่มอีกครั้ง เพราะวันนี้ 1 มิถุนายนเป็น วันดื่มนมโลก World Milk Day
ความเป็นมาของวันดื่มนมโลก World Milk Day
ค่อนข้างแปลกจากวันสำคัญอื่นๆอยู่นิดหน่อย ตรงที่ปกติวันสำคัญเหล่านี้จะมีที่มาหรือมีเหตุการณ์สำคัญ แต่วันดื่มนมโลก นั้นเริ่มมาจาก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization) หรือ FAO นั้นได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปีเป็น วันดื่มนมโลก เพื่อให้ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะองค์กรทั้งภาครัฐหรือเอกชนก็ตามนั้นก็จะให้ความสำคัญและสนับสนุนการดื่มนม รวมถึงจัดกิจกรรมให้เห็นความสำคัญของการดื่มนม (แค่นั้นแหละที่มาของวันนี้)
ความสำคัญของการ ดื่มนม
จะมีแค่ประวัติก็สั้นไปหน่อย งั้นการดื่มนม มีความสำคัญอย่างไร ง่ายที่สุดคือ นมเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลเซียมสูง แคมเซียมนั้นสำคัญต่อการสร้างกระดูกที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และฟอสฟอรัส
- นมช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก ลดโอกาสเกิดโรคไขข้อ โรคกระดูกพรุน
- นมช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
- นมช่วยเสริมกล้ามเนื้อ
- นมมีแมกนีเซียมที่ช่วยลดอาการปวดหัวได้
- นมอุ่นช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้
- นมช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้
- นมเป็นสิ่งที่เติมพลังได้ดี
นมยังมีสรรพคุณอีกมากและนมยังเป็นส่วนผสมพื้นฐานของหลายๆผลิตภัณฑ์ และหลายเมนูอาหารอีกด้วย วันนี้เราจะเห็นฟาร์มหรือเกษตรกร และบริษัทต่างๆที่ทำเกี่ยวกับนมได้ออกมาแจกนมให้ดื่ม รวมถึงได้จัดกิจกรรมต่างๆมากมาย
ส่วนคำว่า รักใครให้ดื่มนม อันนี้มีมานานแล้ว อีกจุดที่ทำให้เป็นที่รู้จักมาจากโฆษณาที่ใช้คำนี้กันเยอะ เคยมีชุดโฆษณาที่เอานักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันมาแสดงโฆษณาเหมือนกัน
สุดท้ายเนื่องใน วันดื่มนมโลก นี้เอง ทีม INN ก็ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาดื่มนมกัน เพราะรักใครให้ดื่มนม หรือจะทันสมัยหน่อยก็ ดื่มเหล้ามันขม ดื่มนมดีกว่า และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ INN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล