เชื่อว่าหลายคนก็ยังคง WFH กันอยู่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ไอ.เอ็น.เอ็น. เคยพูดถึง การทำงานที่บ้านอาจจะเครียดกว่าเดิมเพราะความไม่สมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว ยังมีอีกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ Lockdown Brain Fog ภาวะสมองตื้อจากการอยู่บ้านนานๆ
Lockdown Brain Fogคืออะไร
คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกอาการสมองตื้อ เบลอ คล้ายกับเวลาเรานอนไม่พอ แล้วงงๆ มึนๆ ทำอะไรได้ไม่เต็มที่ คำนี้เป็นคำที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการล็อกดาวน์
มีรายงานว่าคนทั่วโลกเกิดอาการนี้กันมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาเพราะต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ทำอะไร สาเหตุที่เกิดมาจาก 3 ปัจจัยหลักด้วยกันคือ
- เราไม่ได้ติดต่อ พูดคุยกับใคร ขาดสังคม ขาดการสื่อสารทำให้สมองอาจถูกใช้งานน้อยลง
- การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ เช่นที่บ้าน ไม่ได้ไปไหนมาไหน ไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ
- ความเหงา ความเบื่อที่ต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา
จากรายงานชี้ว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะมันขัดต่อธรรมชาติของมนุษย์ที่ปกติต้องใช้สมองในการจัดการ สื่อสาร คิด มีการทดสอบพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่อยู่บ้านนานๆ การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพลดลงไปจริงๆ พอได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมประสิทธิภาพของสมองก็ค่อยๆกลับมา
อาการ Lockdown Brain Fogนั้นอาจจะส่งผลต่อการทำงาน งานที่ออกมาอาจจะมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากประสิทธิภาพของสมองลดลง
แล้วเราจะรับมือหรือป้องกันยังไงดี?
- สื่อสารพูดคุยให้มากขึ้น ไม่ว่าจะคุยกับที่บ้าน โปรแกรมออนไลน์ โทรหาเพื่อน โทรหาคนรู้จัก
- ทำกิจกรรมให้มากขึ้น ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน
- ลุกให้บ่อยขึ้น อย่านั่งทำงานหรือนอนอยู่บ้านอย่างเดียว เดิน ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นให้บ่อยขึ้น
- หาอะไรผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ กินอะไรที่ชอบ หาอะไรทำให้ตัวเองผ่อนคลายจะช่วยได้
- ทานอาหารบำรุงสมอง
- นอนหลับให้เพียงพอ
Lockdown Brain Fog เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไหนใครอยู่บ้านและต้องทำงานที่บ้านมาแล้วนานๆช่วยบอกหน่อยว่ารู้สึกเหมือนกันไหม มาบอก iNN กันไว้หน่อย และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล