UCEP สิทธิรักษาเจ็บป่วยฉุกเฉินฟรีที่ทุกคนต้องรู้
หมดสติ ไม่หายใจ เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน แขนขาอ่อนแรง เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤต รู้ไหมว่าอาการพวกนี้รักษาฟรี 72 ชั่วโมง วันนี้อยากชวนทุกคนมารู้จักสิทธิของตัวเราเองกับ UCEP
UCEP คืออะไร?
UCEPคำนี้ ย่อมาจาก Universal Coverage for Emergency Patients เป็นสิทธิการรักษาตามนโยบายของรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งในประเทศไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
สำคัญอย่างไร
เคยมีกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหลายครั้งแล้วคนเจ็บหรือคนใกล้ตัวกลัวว่าไป รพ. อื่นที่ไม่ใช่ รพ. ตามสิทธิของตัวเองแล้วจะเสียค่าใช้จ่าย UCEPคือสิ่งที่จะช่วยครอบคลุมตรงนี้ เพียงแค่มีอาการเข้าข่ายตามนี้
1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง
3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น
4.เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง
5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด
6.อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
หากมีอาการที่เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤตดังกล่าว ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี แม้จะเป็น รพ. เอกชน ไม่เกิน 72 ชั่วโมงแรก (3 วัน)
ขั้นตอนการใช้สิทธิUCEP มี 5 ขั้นตอน
1.ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อน
2.โรงพยาบาลประเมินอาการ และคัดแยกระดับความฉุกเฉิน
3.ศูนย์ประสานความคุ้มครองสิทธิ ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล
4.กรณีเข้าเกณฑ์ฉุกเฉินวิกฤต จะได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ UCEPทันที แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
5.กรณีไม่เข้าเกณฑ์ฉุกเฉินวิกฤต ให้รีบประสานกับโรงพยาบาลตามสิทธิ หากประสงค์จะรักษาต่อ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
หากมีอาการให้โทรแจ้งที่สายด่วน 1669 เพื่อรับการช่วยเหลือ
UCEPเป็นอีกหนึ่งสิทธิที่เราทุกคนต้องรู้และจำไว้ เพราะชีวิตเราไม่แน่ไม่นอน การได้รับการรักษาอย่างทันทีเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตอย่างมาก iNN ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความรู้ในเรื่องสิทธิที่ทุกคนควรได้ และสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตามบทความสุขภาพดีๆหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล