สำหรับคนเรานั้นเลือกไม่เกิดก็ไม่ได้ เลือกจะไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน เมื่อถึงคราวเราได้ย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่ตามปกติก็จะมีการทำพิธีจัดการกับศพตามหลักความเชื่อต่างๆไม่ว่าจะฝังหรือเผา แต่ปัจจุบันโลกมนุษย์นี้ก็มีทางเลือกใหม่ๆที่ทำให้ร่างของเรายังคงได้ใช้ประโยชน์อยู่แม้เราจะไม่ได้อยู่แล้วก็ตาม เช่น อย่างการเปลี่ยนศพให้เป็นปุ๋ย
Recompose เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาที่นำแนวคิดการเปลี่ยนร่างไร้วิญญาณให้กลายเป็นปุ๋ยเพื่อเป็นประโยชน์แก่สิ่งแวดล้อมมาใช้ ซึ่งเป็นการเผาและฝังไปเลยทั้งตัวผ่านกรรมวิธีนำศพมาบรรจุเข้าแคปซูลทรงกระบอกขนาดใหญ่ แล้วกลบร่างที่นอนแน่นิ่งด้วยเศษไม้ชิ้นเล็กๆ ฟาง อัลฟาฟ่า(พืชตระกูลถั่ว) แล้วคอยควบคุมระดับความชื้นและปริมาณแก๊สต่างๆทั้งออกซิเจน ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงความร้อนให้เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้ย่อยเรือนร่างที่ไม่ไหว
เพียงแค่ระยะเวลา 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดีที่เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ไว้อนุรักษ์ธรรมชาติ ให้ต้นกล้าต้นเล็กๆได้เติบโตแทนผู้ตายที่หยุดนิ่งลง
ภายใต้การนำของแคทรินา สเปด ผู้บริหารของบริษัท Recompose ในตอนนี้ได้มีการอนุมัติให้การแปลรูปศพกลับเป็นปุ๋ยสู่ธรรมชาตินี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายรัฐวอชิงตันเป็นที่เรียบร้อยในเดือนพฤษภาคมปี 2020 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนจำนวนมากร่วมสนใจลงชื่อเข้าใช้บริการนี้ในอนาคตมากถึง 15,000 คน
ซึ่งในกระบวนย่อยสลาย 1 ครั้งสามารถลดการก่อก๊าซคาร์บอนมากกว่า 1 ตันเลยทีเดียว หากเทียบกับการเผาร่างด้วยไฟ แต่ค่าเสียหายนี้อาจจะเจ็บช้ำไปสักหน่อยเพราะด้วยเครื่องมือและกระบวนการต่างๆทำให้ยอดที่ต้องชำระครั้งนี้มีมากถึง 5,500 ดอลลาร์ หรือราวๆ 167,000 บาท ไม่แน่ว่าในอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลงก็เป็นได้
กระบวนการเปลี่ยนร่างที่เปลือยเปล่าให้กลายเป็นวัตถุที่ส่งผลดีไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่พูดถึงมากขึ้นในปัจจุบันจากภาวะโควิด 19 เนื่องจากเจ้าเชื้อไวรัสดังกล่าวทำให้คนที่ยังมีชีวิตได้รู้ถึงคุณค่าของการได้หายใจอยู่ต่อและได้มองถึงอนาคตที่จะไม่ได้สูดลมเข้าปอดอีกแล้ว
บริษัทเอกชนต่างๆจึงเริ่มคิดค้นโปรเจคแปลรูปศพต่างๆให้เหมาะสมกับเจตจำนงของเราไว้มากมายทั้งการเปลี่ยนเป็นปุ๋ยโดย Recompose แปลงเป็นปะการังเทียมลงมหาสมุทร อัดอังคารเราส่งกระสวยไปดาวอังคาร ก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน
หรืออีกวิธีนึงที่ทำได้ง่ายและไม่เสียเงินก็มีอย่างการบริจาคร่างกายที่กำลังเป็นที่นิยมก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน เพราะไม่ได้แค่มีประโยชน์ต่อนักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้จากตัวเรา ยังเป็นการต่อชีวิตจากร่างที่ไม่มีชีวิตให้กับใครสักคนได้มีโอกาสอยู่ต่อผ่านส่วนเสี้ยวของเรา ติดตามบทความสุขภาพดีๆ และไลฟ์สไตล์โดนๆได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news