ใครชอบดมกลิ่นหนังสือยกมือขึ้น ไม่ว่าจะกลิ่นหนังสือเปิดแกะห่อใหม่ๆ หรือหนังสือบางเล่มที่เก็บไว้ พอมาเปิดอีกครั้งมันก็จะได้กลิ่นที่รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก สิ่งนี้เรียกว่า BiBliosmia
BIBLIOSMIA
เริ่มแรกเลยใช้เรียกเอกลักษณ์ของ กลิ่นหนังสือ เห็นภาพชัดสุดเวลาเดินไปตามร้านหนังสือมือสอง เราจะได้กลิ่นที่เฉพาะมากๆ แล้วกลิ่นของหนังสือมาจากไหน?
กลิ่นของหนังสือมาจากหลายองค์ประกอบ มีเคมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง แต่จะขออธิบายง่ายๆ ละกัน หลักๆ คือ เนื้อไม้ที่อยู่ในหนังสือที่เรียกว่า ลิกนิน (อย่าลืมว่ากระดาษทำจากไม้) กระดาษ หมึก กาว หนัง (หนังสือบางเล่มเป็นปกหนัง) องค์ประกอบหลายๆ อย่างของหนังสือเกิดการเสื่อมไปตามเวลา ทำให้เกิดเคมีบางอย่าง ทำให้กระดาษเป็นสีเหลือง เริ่มมีกลิ่นขึ้นมา นั่นแหละทั้งหมดรวมๆ กันทำให้เกิดกลิ่น
กลิ่นที่ว่านี้มีคนให้นิยามไว้ว่า กลิ่นเหมือนอัลมอนด์ผสมวานิลลา บางคนก็ว่ามันเหมือนกลิ่นไม้ที่สดชื่น บ้างก็ว่าเหมือนกลิ่นช็อกโกแลต แน่นอนว่ากลิ่นอาจจะมีความแตกต่างกันเพราะหนังสือแต่ละเล่มอาจจะมีวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างกัน
จากชื่อเรียกของกลิ่นหนังสือ ก็กลายมาเป็นชื่อเรียกของ คนที่ชอบดมกลิ่นหนังสือ ไปด้วย แล้วก็ดีใจด้วยที่ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวแน่นอน ทั่วโลกมีคนชอบดมกลิ่นหนังสือ
กลิ่นหนังสือ BIBLIOSMIA คือสิ่งที่ทำให้หนังสือไม่มีวันตาย ไม่มีวันตายในที่นี้ หมายถึงแม้จะมีหนังสือ E-book เกิดขึ้นมาแต่ยังไงมันก็ไม่มีกลิ่นหนังสือ แล้วก็มีคนจำนวนมากที่ยังคงซื้อหนังสือเพราะชอบกลิ่น ชอบบรรยากาศร้านหนังสือ ชอบเวลาได้จับสัมผัสหนังสือเป็นเล่มๆ มากกว่า
แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมกลิ่นถึงส่งผลได้ขนาดนั้น เพราะกลิ่นนั้นเชื่อมโยงกับอารมณ์ เชื่อมโยงกับความทรงจำ กลิ่นช่วยให้ผ่อนคลายได้ ทำให้หลายคนชอบที่จะดมกลิ่นหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่พึ่งแกะห่อออกมา กลิ่นหนังสือที่อยู่ในชั้นวาง หรือแม้กระทั่งกลิ่นของร้านหนังสือเวลาเดินไปเลือกซื้อ
BIBLIOSMIA เลยเป็นคำที่ใช้เรียกกลิ่นหนังสือ ใช้เรียกคนที่ชอบดมกลิ่นของหนังสือ กลิ่นนี้เกิดจากวัตถุดิบในการผลิตหนังสือที่ผสมและเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดมแล้วรู้สึกฟิน รู้สึกผ่อนคลาย เป็นกลิ่นที่หาไม่ได้จากที่ไหน ใครที่ชอบดมกลิ่นหนังสือ บอก ไอ.เอ็น.เอ็น. ไว้หน่อยอยากรู้ว่ามีเยอะไหม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล