รู้สึกว่าตัวเองบ้างานไหม? คำถามนี้หากดูผิวเผินอาจจะดูแปลกสักหน่อย ใครจะบ้างาน ขยันทำงานขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะว่ามีอยู่จริงๆ
ปัจจัยจากสังคมปัจจุบันผลักดันให้เราต้องทำงานมากขึ้น เพื่อความก้าวหน้า เพื่อเงิน เพื่อให้ทันต่อการแข่งขัน แล้วก็ทำให้คนทำงานแบบเราๆนี่แหละ เกิดสิ่งที่เรียกว่า พวกบ้างาน หรือ Workaholic นั่นเอง
Workaholic คำนี้ถูกนิยามโดย นักจิตวิทยาชื่อ Wayne Edward Oates เพื่อใช้อธิบายพฤติกรรมของคนที่ทำงานมากๆโดยมีอะไรผิดปกติ
อาการของการบ้างาน
- หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่าเราจะมีเวลาทำงานมากขึ้นได้อย่างไร
- ใช้เวลาทำงานมากกว่าที่ตั้งใจไว้
- ทำงานเพื่อรักษาคุณค่าในตนเอง
- หากทำงานน้อยลง จะรู้สึกผิด วิตกกังวล
- ไม่ฟังเสียงจากคนรอบข้างเรื่องการทำงานที่มากเกินไป
- มีปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบตัวเนื่องจากทำงานที่มากเกินไป
- มีปัญหาสุขภาพที่มาจากการทำงาน
สิ่งที่น่าสนใจคือ คนบ้างาน ส่วนมากไม่รู้ตัวว่าบ้างาน อาจจะเรียกว่าอาการเสพติดงานก็ได้ พวกเขามักมองว่า ถึงงานเยอะแต่มันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาได้เงินตอบแทน ได้รับการยอมรับ ได้ในสิ่งที่ตัวเองคิด หากมองในมุมนี้แล้ว ก็จะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิดไปซะทีเดียว
งั้นจุดที่พอดีคืออะไร ก็คงไม่มีนิยามตายตัว ในบางช่วงคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่งานจะเยอะมากๆ จนเราต้องทำ หรือเรารู้สึกสนุกกับงานจนอยากทำ แต่ก็ควรดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตัวเอง ดูความสัมพันธ์รอบตัว ว่ามันมีปัญหารึเปล่า พยายามดูแลให้ดีควบคู่ไปกับการทำงาน เช่น เรามีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมรึเปล่า เพราะมักเป็นอาการที่มาคู่กับเวลาที่เราทำงานหนักๆ
แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรดี ง่ายที่สุดคือการกำหนดเวลาการทำงานให้ชัดเจน มีช่วงเวลาพักผ่อน หากมีเวลาว่างก็ไปพักผ่อนตามที่ใจชอบบ้าง
ส่งท้ายสั้นๆ อยากชวนทุกคนดูเรื่อง The intern ชื่อไทยคือ โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋ เป็นเรื่องของชายวัย 70 ปีที่ไปเป็นเด็กฝึกงานของบริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่มีเจ้านายเป็นวัยรุ่นไฟแรง เรื่องนี้สะท้อนเรื่องผลกระทบของการบ้างานได้ดีทีเดียว นอกจากนี้เชื่อว่าดูจบแล้วจะได้ข้อคิดอะไรมากมายแน่นอน อย่าลืมติดตาม ไอ.เอ็น.เอ็น. เพื่อไม่พลาดทุกเรื่องราวดีๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล