Home
|
ไลฟ์สไตล์

No Nut November คืออะไร?

Featured Image

          ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา เราอาจจะเห็นคำว่า No Nut Novemberที่เป็นชาเลนจ์ที่เหล่าหนุ่มๆท้าทายกัน ว่าแต่ว่ามันคืออะไร มีที่มาจากไหน วันนี้หาคำตอบมาให้แล้ว

          ก่อนอื่นเกริ่นไว้ก่อนว่า คอนเทนต์เนื้อหาจะสำหรับผู้ใหญ่นิดนึง แต่ก็เพื่อเป็นการให้ความรู้นะทุกคน 

          No Nut November มันคือชาเลนจ์ ห้ามสำเร็จความใคร่ (หรือถึงจุดสุดยอด) ด้วยตัวเองเป็นเวลา 30 วัน ก็คือตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนแต่ช้าก่อน มันมีการอ้างอิงข้อมูลของคำท้านี้ด้วยนะ เมื่อก่อนนี้มีผลวิจัยออกมาว่า หากผู้ชายไม่หลั่งออกมาใน 1 อาทิตย์ ฮอร์โมนก็จะสูงขึ้นทำให้เมื่อได้ปล่อยออกมาแล้วจะมีความรู้สึกที่ดีกว่า ตอนนั้นเลยเป็นชาเลนจ์เล็กๆ ชื่อว่า 1 week no fap Challenge 

          พอมันเป็นมีมในโลกออนไลน์ ก็เลยเกิดเป็น No Nut November ขึ้น ว่ากันว่ามีคนไปโพสต์ในเว็บ Urban Dictionary เพื่อกำหนดความหมายของคำนี้ขึ้นมา 

          นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยและท้าทายกันในเว็บไซต์ Reddit (อารมณ์ Pantip บ้านเรา) ถึงเรื่องนี้ เลยได้เกิดเป็นมีมและชาเลนจ์ที่นิยมไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต กฎเหล็กก็ง่ายๆ เสพสื่อลามกได้ แต่ห้ามหลั่งออกมา หลักๆ คือตามนี้แต่ก็มีรายละเอียดอื่นๆ เช่น ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ไม่ช่วยตัวเองเลย 

          มันอาจจะดูตลกๆ แต่ก็มีการตั้งกลุ่มขึ้นมาอย่าง กลุ่ม NoFap ที่หยิบยกข้อมูลต่างๆ มาอ้างว่า การชาเลนจ์นี้มันมีข้อดี อย่างที่กล่าวไปว่า มันช่วยให้ ฮอร์โมนเพศชายพุ่งสูงขึ้น หรือแม้แต่บอกว่า จริงๆ อยากให้ชายหนุ่มได้ใช้เวลากับอย่างอื่นบ้าง ไม่ใช่แค่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว 

          แต่ถ้าดูจากข้อมูลอื่นๆ ชาเลนจ์นี้ก็ดูเป็นมีมตลกๆ กันมากกว่า ถ้าเราดูจากผลของ Harvard Medical School ที่เคยเผยแพร่ออกมา เขาบอกไว้ว่า ผู้ชายที่สำเร็จความใคร่เป็นประจำ เฉลี่ยอย่างน้อย 21 ครั้ง/เดือน ความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นลดลงถึง 33% เลยทีเดียว 

          ก็ถือว่าเป็นอีกสีสันที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เป็นความรู้ไว้เวลาเห็นจะได้ไม่งง บนโลกออนไลน์ยังมีเรื่องแปลกๆ อีกเยอะ ไว้ iNN จะไว้มาเล่าให้ฟังอีก ถ้าชื่นชอบบทความดีๆเปิดโลกแบบนี้ล่ะก็ติดตามต่อได้ที่ iNN Lifestyle

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

ขอขอบคุณข้อมูล 

lifehacker

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube