13 มกราคม เป็นวันสติกเกอร์แห่งชาติ แผ่นกระดาษสีสวยที่ติดกาวเหนียวไว้อีกด้านเพื่อให้เราแปะบนทุกพื้นผิวได้อย่างอิสระตามใจนึก ประโยชน์ของแผ่นแปะสติกเกอร์ในสมัยนี้อาจจะดูใช้เพื่อตกแต่งผลงานให้ดูสวยงามเพียงอย่างเดียว หรือใครอาจจะคิดไปจนถึงตัวการ์ตูนโยกได้ในแอปแชทไลน์ แต่ความจริงแล้วสมัยก่อนสติกเกอร์ถูกใช้มากกว่านั้น
ประวัติศาสตร์สติกเกอร์
อย่างที่ว่ากัน หากไม่ใช่หน้าจอโทรศัพท์หรือหน้าหนังสือ เราก็คงได้เห็นสติกเกอร์อีกทีก็คือวันวาเลนไทน์ที่จะแปะรูปหัวใจเต็มตัวไปหมดในปัจจุบัน แต่ในสมัยก่อนนั้นสติกเกอร์หาได้เพียงแค่ที่ตลาดเท่านั้น
หากจะพูดถึงสติกเกอร์ก็ต้องย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 ประมาณปี 1880 พ่อค้าแม่ค้าชาวยุโรปที่ต้องการขายสินค้าหันมาใช้กาวหรือของเหนียวๆ แปะสิ่งของเพื่อเป็นการโปรโมทสินค้าแก่คนผ่านไปผ่านมาเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตในปัจจุบัน ซึ่งขณะนั้นคำว่า Sticker ยังไม่อุบัติขึ้น แต่ยังคงใช้คำว่า Gum ที่มีความหมายว่า กาว ยาง อยู่อย่างแพร่หลาย
20 ปีต่อมา ในช่วง 1900 แผ่นแปะนี้ถูกพัฒนาคุณสมบัติให้สามารถเกาะยึดวัตถุได้บางอย่างแต่พิเศษตรงที่สามารถแกะออกและแปะติดอีกครั้งได้ด้วยการใช้น้ำ ก่อนจะมีการคิดค้นลงทุนต่างๆ เพื่อเพิ่มความเหนียวของว่าที่สติกเกอร์ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุด สติกเกอร์ ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1939 โดยนักลงทุนชาวอเมริกา Robert Stanton Avery ที่สามารถทำกาวลอกเข้าลอกออกได้อย่างอิสระแบบไม่ต้องใช้น้ำอีกต่อไป สติกเกอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการค้าไว้บอกราคาอย่างมากมาย สร้างกำไรมหาศาลแก่โรเบิร์ตตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ปี
สติกเกอร์ในปัจจุบันไม่ได้กลายเป็นแค่กระดาษบอกราคาสินค้า แต่ยังใช้เป็นอุปกรณ์เสริมจินตนาการและไว้บอกความต้องการ ตั้งแต่ความรัก ความชอบ รวมไปถึงการใช้สติกเกอร์แสดงออกทางการเมืองที่เห็นได้แทบทุกหัวมุมถนน
วันที่ 13 มกราคม นี้จึงกลายเป็นวันสติกเกอร์แห่งชาติหรือ National Sticker Day เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่วันเกิดของ Robert Stanton Avery นักคิดค้นแผ่นแปะลอกได้คนแรกของโลกนั่นเอง ติดตามความรู้เปิดโลกและย้อนวันวานอดีตได้อีกที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews