คาร์ซีท เป็นที่สนใจมากขึ้นหลังจากเว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พระราชบัญญัติ จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ใจความสำคัญที่เกี่ยวข้องคือ
“คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่พิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายหรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ”
ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ก็หมายถึง คาร์ซีท(Car Seat) นั่นเอง เรามาทำความรู้จักให้มากขึ้นดีกว่า
คาร์ซีท(Car Seat) คืออะไร?
คาร์ซีท(Car Seat) คืออุปกรณ์หรือเบาะที่นั่ง ที่ทำหน้าที่เหมือนเข็มขัดนิรภัยโดยใช้ระบบผูกรัดให้ติดกับเบาะนั่งของเด็ก ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเด็กอายุ 0 – 13 ปี เป็นอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้เด็กกระเด็นจากเบาะ จากการเบรค ชน และยังช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้บางส่วน นับว่าช่วยเพิ่มโอกาสที่ลดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของเด็ก
คาร์ซีทนั้นจำเป็น
จากที่ได้อ่านและหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง สถิตินั้นแสดงให้เห็นว่าคาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ลองดูข้อมูลสถิติเหล่านี้
- ข้อมูลจาก Child Safety Promotion and injury Prevention Research Center ชี้ว่า เด็กอายุ 1 – 14 ปี มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 3,000 รายและการเสียชีวิตมาจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ 2
- ประเทศไทยนั้นติดอันดับการเสียชีวิต อุบัติเหตุทางท้องถนนสูงติดอันดับต้นๆ ตลอด
- ประเทศไทยเด็กแรกเกิดจนถึง 15 ปี เสียชีวิตร้อยละ 5.03 – 7.25 ต่อ 100,00 ประชากร
- คาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของทารกที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ถึง 71%
และยังมีสถิติอีกมากที่ชี้ว่าคาร์ซีทช่วยลดโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กได้ เพราะฉะนั้นเราคงสรุปประโยชน์ได้ไม่ยากว่า คาร์ซีทนั้นมีประโยชน์คือช่วยลดโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็ก หากเกิดกรณี เบรคแรง อุบัติเหตุทางรถยนต์ต่างๆ
อีกหนึ่งประเด็นทิ้งท้ายที่น่าสนใจ พอหลังมีการประกาศออกมา เสียงส่วนใหญ่นั้นเข้าใจและพ่อแม่หลายคนก็สนับสนุนให้นั่งคาร์ซีท แต่ด้วยความกะทันหันเข้าใจว่าหลายคนก็มีปัญหาเรื่องการเงิน พร้อมอยากให้รัฐบาลสนับสนุนมากขึ้น รวมถึงอยากให้เข้มงวดกับรถส่งนักเรียนในกรณีนี้ด้วยเช่นกัน แล้วทุกคนคิดเห็นว่ายังไงกันบ้าง บอก iNN ไว้หน่อย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอขอบคุณข้อมูล