Work From Home เครียดมากกว่าเดิม
ตอนไหน ซึ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราไม่ให้เครียดไปซะก่อน ขอเป็นกำลังให้แก่ทุกคนหนึ่งสิ่งที่กลายมาเป็นวิถีชีวิตคนวัยทำงานคือการ Work From Home หรือการทำงานอยู่ที่บ้าน นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด 19 ขึ้นมา ทำให้ออฟฟิศหรือสถานประกอบการต่างๆ มีการปรับให้พนักงานทำงานที่บ้านซึ่งในช่วงแรกนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างแปลกสำหรับสังคมไทยและมองว่าสบายหากได้ทำงานที่บ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเวลาผ่านไปสักพักการ Work From Home นั้นทำให้เกิดความเครียดมากกว่าเวลาทำที่ทำงาน
Work From Home ทำไมถึงเครียดมากกว่าเดิม คำถามสำคัญที่ผู้คนมักสงสัยกัน มีผลวิจัยจากบริษัทด้านสุขภาพจากสหรัฐอเมริกา ได้เผยว่าคนนั้นมีความเครียดสูงขึ้นเมื่อต้องทำงานที่บ้าน ซึ่งผลสำรวจส่วนใหญ่ยังพบอีกว่าทุกคนมีความเครียดมากขึ้นเมื่อเทียบกับทำงานที่ออฟฟิศ
สาเหตุหลักที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานนั้นหายไป จากบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อน เวลาเหนื่อยมาจากงานมาถึงบ้านเราจะสบายใจแล้วรู้สึกผ่อนคลาย กลายเป็นสถานที่ทำงานที่ตื่นมาก็ต้องเจอ ทำให้เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ได้มีที่พักผ่อนจริงๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถแบ่งแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัวได้ เราเลยรู้สึกทำงานตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของความเครียด
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้การ Work From Home นั้นเครียดกว่าการที่เราได้ทำงานที่ออฟฟิศ ที่ทำงาน เช่น การที่เราไม่ได้พบปะหรือพูดคุยกับผู้คน ความไม่พร้อมในการติดต่อสื่อสารเรื่องงานเพราะเราไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะติดต่อได้ไหม การได้เจอแต่สิ่งเดิมๆมุมภาพเดิมๆเป็นระยะเวลานาน การที่ขั้นตอนการทำงานต้องเพิ่มมากขึ้นทำให้กินเวลาในการทำงานมากขึ้น
แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ?? หลายความเห็นจากแพทย์หรือนักจิตวิทยานั้นแนะนำว่า
1.หากเป็นไปได้ไม่ควรจัดมุมทำงานในห้องนอนหรือไม่ทำงานบนที่นอน
2.หาเก้าอี้ที่นั่งสบายในเวลาทำงานเหมือนเวลาเราอยู่ออฟฟิศ
3.กำหนดเวลาการพักและการทำงานที่แน่นอนเมื่อต้อง Work From Home
4.หาต้นไม้เล็กๆหรือปลูกต้นไม้ในโซนทำงานเพื่อผ่อนคลาย
5.หาช่วงเวลาที่สามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในเรื่องต่างๆที่ไม่ใช่เรื่องงาน
จากสถานการณ์ทั่วโลกนั้นก็ไม่รู้ว่าเราจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news