ใครจะไปคิดว่าประโยคอย่าง “คนสะอาดที่ไหนเขาอาบน้ำ” จะเคยเป็นความคิดของคนยุโรปในสมัยก่อน เพราะเชื่อจริงๆว่าการอาบน้ำเป็นสิ่งไม่จำเป็นและเป็นภัยต่อความสะอาด จนแทบจะเรียกได้ว่าการอาบน้ำเป็นการเปิดรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย แม้ต่อให้กลิ่นตัวจะฉุนราวสัตว์ป่าก็ตาม
ถึงอดีตชาวโรมันตัวจะเป็นชนชาติแรกๆที่คิดค้นระบบรางขนส่งน้ำและโรงอาบน้ำรวมเพื่อจัดสรรพื้นที่ทำความสะอาดอย่างเป็นหมวดหมู่ ก่อนที่จะแพร่วัฒนธรรมโรงอาบน้ำไปยังประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปให้เห็นดีเห็นงามกระทั่งกลายเป็นอารยธรรมสำคัญ
ไปอาบน้ำ=ปัดทินเดอร์
การเปิดโรงอาบน้ำสาธารณะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจาก การทำน้ำอุ่นไว้สำหรับอาบเป็นเรื่องที่ใช้กำลังคนเยอะมากในสมัยก่อน เพราะคงไม่มีไอหนุ่มหรือนางสาวคนไหนกระเหี้ยนกระหือรืออาบน้ำเย็นในแถบประเทศที่หนาวจัดจนหิมะตกได้แน่นอน มีการจิบไวน์แดงกลางบ่อน้ำอุ่น เมาท์มอยรวมไปถึงโรงอาบน้ำถูกใช้เป็นสถานที่นัดแนะจุ๋งจิ๋งและดีลกันไปกินต่อที่บ้านด้วยเช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าโรงอาบน้ำไม่ต่างอะไรกับปาร์ตี้วัยรุ่นในสมัยนี้ ที่เต็มไปด้วยของกิน การนินทา และมั่วเซ็กส์หาคู่นอนกันอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งภายหลังการหาคู่นอนในห้องนี้จะกลายเป็นต้นกำเนิดอาชีพโสเภณีในช่วงเวลาต่อมา จนคริสตจักรต้องออกประกาศแบนการอาบน้ำเลยทีเดียว
ไม่อาบน้ำ=แฟชั่น
จากคำเตือนไม่สนับสนุนให้ประชาชนยุคกลางอาบน้ำโดยเหล่านักบวชที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์คุมความคิด มีการบอกว่าอาบน้ำจะทำให้เนื้อตัวสกปรก เป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อโรค เนื่องจากการอาบน้ำทำให้รูขุมขนตามตัวกว้างขึ้นจนเชื้อโรคเข้าไปในร่างกายง่ายขึ้นนั่นเอง
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้กระแสไม่อาบน้ำเป็นเทรนด์ฮิตโดยเฉพาะหมู่ชนชั้นสูงที่ชื่นชอบอะไรใหม่ เหล่าคนรวยพยายามอาบน้ำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้และหันมาพึ่งน้ำหอมเพื่อปกปิดกลิ่นตัว
มีโซเชียลไอค่อนนำเทรนด์ไม่อาบน้ำเด่นหลายคน ได้แก่ ราชินีอาลิซาเบ็ธที่ 1 ที่ให้ความเห็นว่าการอาบน้ำต้องเปลือยกาย และการเปลือยกายนำมาสู่การล่วงประเวณี หรือจะเป็น พระเจ้าหลุยที่ 14 ที่มีประวัติว่าทั้งชีวิตอาบน้ำแค่เพียง 3 ครั้งเท่านั้น จนถูกจารึกในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสว่าพระองค์ทรงมีกลิ่นตัวยั่วยวนราวสัตว์ป่า
โดยวัฒนธรรมการไม่อาบน้ำเพราะมองว่าเป็นเรื่องสกปรกนี้ ไม่เพียงแต่สร้างกระแสเหยียดคนชั้นแรงงานที่ต้องอาบน้ำบ่อยๆเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ปัญหาเรื่องกลิ่นได้นำมาสู่การพัฒนาสูตรน้ำหอมต่างๆ มากมายโดยเฉพาะแถบฝรั่งเศส จนกลายเป็นประเทศขึ้นชื่อเรื่องน้ำหอมในปัจจุบัน
ตัดกลับมายุคปัจจุบัน การอาบน้ำได้ถูกกลับมาเป็นกิจวัตรที่ต้องทำอีกครั้งเพื่อล้างเนื้อล้างตัวจากสิ่งสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะในยุคเชื้อโรคครองเมืองนี้ แต่ถ้าใครรู้สึกขี้เกียจจริงๆหรือไม่อยากเอาเรือนร่างไปสัมผัสน้ำเย็นก็ลองหาสเปรย์แอลกอฮอล์หอมๆมาฉีดแล้วอ้างว่าเลียนแบบคนยุคโบราณดูก็เท่ดีเหมือนกันนะ
ติดตามเรื่องแปลกๆที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับสุขภาพได้อีกที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews