เข้าห้องน้ำจะใช้อะไร ถ้าไม่ใช่ กระดาษทิชชู่ กระดาษทิชชู่หรือกระดาษชำระเป็นของใช้ในบ้านอย่างหนึ่งที่เกือบทุกบ้านมีติดไว้ ไว้ว่าจะใช้เช็คทำความสะอาด หรือเวลาเข้าห้องน้ำก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ในช่วงโควิด19 ที่ผ่านมาที่ต่างประเทศ กระดาษทิชชู่ เป็นอีกสิ่งที่หมดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต่างประเทศไม่ได้ใช้สายฉีดชำระแบบประเทศไทย กระดาษทิชชู่จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เรียกว่าถ้าไม่มี ก็ไม่รู้จะใช้อะไรเวลาเข้าห้องน้ำเลยทีเดียว ว่าแต่มันเป็นมายังไง ใครเป็นคนคิดมันขึ้นมากัน
ประวัติศาสตร์ของกระดาษทิชชู่นั้น ย้อนไปได้ราวๆศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ชาวจีนได้ประดิษฐ์วัสดุห่อหรือบรรจุของข้างในโดยเรียกว่า กระดาษ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าชาวจีนได้ใช้สิ่งนี้ในการชำระล้างหลังจากเสร็จภารกิจหนักด้วย หลังจากนั้นในประเทศจีนก็ถูกใช้เรื่อยมาจนแพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 6
การนั้นมีการพัฒนาให้กระดาษชำระมีกลิ่นหอม ในช่วงปี 1391 เพื่อใช้กันในครอบครัวของจักรพรรดิจีน นี้น่าจะเป็นที่มาที่ใกล้เคียงกับกระดาษชำระในปัจจุบันมากที่สุด
บุคคลที่ทำให้โลกของทิชชู่เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือ โจเซฟ กาเย็ตตี้(Joseph C. Gayetty) เขาเป็นผู้ผลิตกระดาษทิชชู่เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ในปี 1895 เขาก่อตั้งโรงงาน The Gayetty Firm ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ และผลิตกระดาษชำระที่มีส่วนผสมของว่านห่างจระเข้ แต่ช่วงนั้นผู้คนยังไม่เข้าใจว่าจะมีมันไปทำไม มันจำเป็น ต้องดีขนาดนั้นเลยหรอ ใช้หนังสือพิมพ์หรือใบปลิวก็พอมั้ง กลายเป็นความล้มเหลวแล้วก็เงียบไป
หลังจากนั้นมีพี่น้อง Edward lrvin กับ Clarennce Wood แห่งตระกูลสก็อตต์ (Scott) ได้เริ่มขายกระดาษชำระในฟิลาเดลเฟีย และก่อตั้ง The Scott Paper Company’s ขึ้นมาจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญคือกระดาษชำระที่ขายเป็นม้วน และยังมีรอยปรุขึ้นมา แถมกระดาษยังนิ่มและสวยอีกด้วย จากจุดนี้เอง สองพี่น้องได้จดสิทธิบัตร และเริ่มขายจนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทำให้บริษัทสก็อตต์ ก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนมีการพัฒนาของกระดาษชำระขึ้นเรื่อยๆ อย่างในปี 1880 บริษัท British Perforated Paper ก็ได้ขายกระดาษชำระในรูปแบบกล่องสี่เหลี่ยมที่เราคุ้นตากัน ในปี 1942 เริ่มมีการลองทำกระดาษแบบสองชั้นและกลายเป็นมาตรฐานที่ทุกคนใช้กัน
ทุกวันนี้กระดาษชำระหรือกระดาษทิชชู่ก็ใช้กันทั่วโลก ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดกิจกรรมในห้องน้ำเท่านั้น แต่ใช้เช็คทำความสะอาด พกติดตัวไปได้ทุกที่ มีหลายแบบหลายออฟชั่นให้เลือกมากมาย จนเหมือนเป็นหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วล่ะ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูล