มาแรงไม่แพ้ stranger things ซีซั่น 4 กับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยหลังประกาศคลายมาตรการโควิดได้ไม่กี่วัน ยอดผู้ป่วยก็ทยอยเพิ่มขึ้นทันที ทำให้ใครที่เคยติดก็ได้ฤกษ์กลับมาซ้ำอีกครั้ง และใครบางคนที่ไม่เคยติดก็ได้โอกาสลิ้มรสเจ็บคอ ซึ่งส่วนคนที่ไม่เคยเป็นโควิดแต่ต้องมาเป็น นำมาซึ่งปัญหาใหญ่ที่แพทย์ไทยกังวล ร่วมฟังความเห็นกันว่าทำไมโควิดซีซั่นนี้ถึงติดเยอะขึ้นทั้งๆที่วัคซีนเจาะเต็มแขนแล้ว
โดยนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือหมอมนูญ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความสังเกตสถานการณ์โควิดซีซั่นนี้ว่า คนที่ติดโรคโควิดส่วนใหญ่(ระลอกใหม่) เป็นกลุ่มคนที่ระมัดระวังตัวป้องกันตัวเองเต็มที่ และเป็นคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มีประสิทธิภาพสูงครบโดสเรียบร้อย
รวมทั้งผู้ป่วยกลุ่มนี้เคยได้เข็มกระตุ้นรวมแล้วมากกว่า 6 เข็ม เช่น ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็ม วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มตามด้วยวัคซีน mRNA 2 เข็ม หรือวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็มและโมเดอร์นาอีก 2 เข็ม แต่น่าเสียดายที่วัคซีนยังทำให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อยู่
ทำให้เราหลายๆคนเห็นเริ่มเข้าใจแล้วว่า เชื้อไวรัสโควิดสายพันธ์ใหม่ เริ่มแพร่กระจายเร็วและหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมที่เคยมีอยู่ แต่โชคดีคนกลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี และได้รับเข็มกระตุ้น จะมีอาการน้อยมาก หายได้เอง และไม่มีอาการของลองโควิด จึงสรุปได้ว่าในตอนนี้เรายังไม่สามารถพึ่งวัคซีนรุ่นปัจจุบันในการป้องกันการติดเชื้อได้ คุณหมอมนูญเลยแนะนำให้ประชาชนทุกคนยังต้องพึ่งการสวมหน้ากากอนามัยอยู่นั่นเอง
ทั้งนี้ คุณหมอได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสการแพร่เชื้อระหว่างคนสวมหน้ากากกับคนไม่สวมหน้ากาก ไว้อย่างเข้าใจง่ายๆว่า ถ้าคนติดเชื้อไม่ใส่หน้ากากอนามัย พบปะคนปกติใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ 30% แต่ถ้าคนติดเชื้อใส่หน้ากากอนามัย พบปะกับคนปกติไม่ได้ใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้มากถึง 95% รวมถึงหากทุกคนที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อร่วมมือกันใส่หน้ากากก็จะลดการรับเชื้อได้เกือบ 98.5%
หน้ากากอนามัยจึงยังเป็นไอเทมสำคัญเวลาไปไหนมาไหน แม้กฎต่างๆจะเริ่มผ่อนคลายมาบ้างแล้วก็ตาม หมอมนูญจึงอยากเน้นย้ำให้ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่สาธารณะผู้คนแออัด อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี หรือมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพื่อรอวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถครอบคลุมไวรัสสายพันธุ์ย่อย ที่ทยอยอัปเดตในอนาคต
สถานการณ์โควิด-19 ภายใต้การผ่อนคลายของรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนโรคไวรัสดังกล่าวให้การเป็นโรคประจำถิ่น อาจพีอาร์ให้โรคดูมีความน้อยก็จริง แต่ถ้าหากยังไม่สามารถเพิ่มพื้นที่เว้นระยะห่างให้แก่ประชาชนได้ บางทีพระเจ้าตากที่กลายเป็นไอคอนต้านโควิดในหมู่วัยรุ่นก็คงสู้ไม่ได้ เหลือเพียงหน้ากากอนามัยที่ต้องใส่ไปไหนมาไหนเพื่อความอุ่นใจเท่านั้นเอง
ร่วมติดข่าวและสาระสุขภาพต่อได้อีก ไปพร้อมกับเราที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC