กินไอติมไข่แข็งแล้วปวดท้อง สัญญาณอันตรายเชื้อร้ายลุกลาม
ไอติมไข่แข็งหรือไอศกรีมไข่แข็ง หลายคนอาจเคยชิมและหลายคนก็อาจไม่เคยรู้จักของหวานที่มีมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว อาจจะเป็นของโบราณที่ฝังรากลึกความทรงจำใครหลายคน แต่ไอติมไข่แข็งก็มีเชื้อทำร้ายลำไส้ได้เหมือนกัน
ไอศกรีมไข่แข็ง เป็นไอศกรีมกะทิทั่วไปแต่จะเพิ่มความมัน ความหอม และหวานด้วยการตอกไข่แดงสดๆลงไปคลุกกับในถัง จนเนื้อไข่แข็งผสมอยู่เข้ากับเนื้อไอศกรีมจนได้เนื้อสัมผัสเข้มข้น ซึ่งไข่แดงนี่เองที่เป็นทั้งตัวเอกสำคัญบนจานของหวาน และอาจเป็นตัวร้ายที่ทำท้องเสียได้เช่นกันหาก(คนขาย)เลือกไม่ดี
อันตรายจากไข่ดิบ
วนออกจากร้านขายไอศกรีมมาที่เรื่องของไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด ต่างเป็นอาหารยอดฮิตของคนทั้งโลกตามคำแนะนำแล้วควรที่จะปรุงอาหารสดให้สุกในทุกจาน แต่ในยุคสมัยใหม่ที่มีการเชื่อมต่อโลกมากขึ้น วัฒนธรรมต่างๆก็จะไหลเวียนแลกเปลี่ยนรวมไปถึง การทานไข่ดิบ
ซึ่ง การทานไข่ดิบ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างน้อยก่อนที่เอาเข้าปากควรมั่นใจสักหน่อยว่าไข่ดิบที่ร้านอาหารได้มีการควบคุมมาตรฐานความสะอาด และคุณภาพตั้งแต่ในฟาร์ม เพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อซาลโมเนลลา สาเหตุหลักของการปวดท้อง คลื่นไส้ ถ่ายเหลว และหายยากแม้ไม่มากแต่ก็ยากอยู่
โรคติดเชื้อซาลโมเนลลา
Salmonella Infection หรือโรคติดเชื้อซาลโมเนลลา เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ชื่อ ซาลโมเนลลา มักปนเปื้อนในอุจจาระของสัตว์ แม้เราจะไม่ได้ทานอุจจาระของสัตว์ก็ตามแต่เชื้อดังกล่าวนี้ก็สามารถปนเข้ามาในอาหารได้เหมือนกันหากพื้นที่เลี้ยงไม่มีความสะอาดเพียงพอ
อาการติดเชื้อของแบคทีเรียซาลโมเนลลาพบบ่อยอันดับต้นๆ ประมาณ 94 ล้านคนทั่วโลกที่ทำให้ ปวดท้อง ท้องเสีย อุจจาระอาจมีเลือดปน อาเจียน ปวดศีรษะ เป็นไข้หนาวสั่น ส่วนใหญ่จะมีอาการภายใน 6 ชั่วโมงไปจนถึง 3 วัน ซึ่งอาจหายได้เองหรืออาจเป็นหนักถึงขั้นพบแพทย์เฉพาะทาง
การทานไข่ดิบในไอศกรีมไข่แข็ง ก็มีความเสี่ยงทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย Salmonella ได้ หากกระบวนการทำฟาร์มไข่ไก่มีการควบคุมมาตรฐานความสะอาดไม่ดี โดยเชื้อร้ายนี้จะเข้าไปปนในไข่ตั้งแต่ยังไม่มีเปลือก หรืออาจปนเปื้อนที่ผิวเปลือกไข่ได้เลย เมื่อถูกนำมาใช้ปรุงอาหารแบบไม่ผ่านความร้อนก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรับเชื้อเข้าไปเต็มๆ
วิธีป้องกัน
สำหรับวิธีป้องกันโรคติดเชื้อซาลโมเนลลา อาจต้องเลี่ยงไข่ดิบ แต่ถ้าหากอยากทานจริงๆแนะนำให้เลือกทานไข่ที่มาจากแหล่งที่ได้มาตรฐานและร้านที่สะอาดสักนิดนึง รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ ไม่เอามือจับปาก อย่าเอาอาหารทิ้งไว้นอกตู้เย็น ก็จะช่วยป้องกันได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ขอแค่ให้ความใส่ใจในทุกความอร่อยและเลือกที่จะรักตัวเองให้เหมือนกับรักในการกิน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ระบบท้องสนิทสนมกับบรรดาอาหารที่เราเคี้ยวเข้าไปได้อีกนาน
ติดตามเรื่องราวสุขภาพต่อได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลจาก
Health online by หมอเฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ
