เปิดที่มาคณะราษฎร และสมาคมคณะราษฎร พรรคการเมืองแรกของประเทศหลังไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันมีพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาใหม่และอยู่มานานจำนวนมาก เพื่อคอยทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาชน (หรือเป็นกระบอกเสียงของพรรคพวกตัวเอง) แต่รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เมื่อ 90 ปีที่แล้วเป็นวันแรกที่ประชาชนมีกระบอกเสียงเป็นของตัวเองผ่าน “คณะราษฎร” ที่ตั้ง “สมาคมคณะราษฎร” ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2475
ที่มา “คณะราษฎร” กับ “สมาคมคณะราษฎร”
คณะราษฎร (อ่านว่า คะ-นะ-ราด-สะ-ดอน) เป็นกลุ่มรวมตัวประชาชนหัวก้าวหน้าที่ต้องการปรับเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศจากระบอบเก่าให้เป็นระบอบใหม่ โดยมองว่าเจ้าของระบอบเก่าไม่สามารถรับมือปัญหาเศรษฐกิจตกแต่ง และปัญหาการรุกรานจากบริติชและอังกฤษได้
จึงได้มีประชุมลับในแต่ละที่หลายต่อหลายครั้ง จนในปี 2475 ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศสยามในสมัยนั้น ให้กลายเป็นการปกครองแบบตะวันตกให้มากที่สุด ทั้งการนำกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญหรือระบบสภาแบบอังกฤษ
โดยใช้แผนการ “ยึดอำนาจโดยฉับพลัน” เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดเหมือนประเทศอื่น รวมไปถึงลดการเกิดความขัดแย้งภายใน เพราะหากประเทศล่าอาณานิคมรู้ก็จะเสี่ยงต่อการโดนแทรกแซงอำนาจในที่สุด
ซึ่งต่อมาหลังจากปฏิวัติยึดอำนาจได้แล้ว ก็ได้ประกาศเป้าหมาย 6 ประการของคณะราษฎรเป็นการสัญญาว่าจะรักษาเอกราช ความปลอดภัย ความสมบูรณ์ และมีความเท่าเทียม มีเสรีภาพ มีการศึกษาแก่ราษฎรทุกคน
ทำให้ สมาคมคณะราษฎร ได้ลงทะเบียนจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ถูกประชาชนพูดถึงมากขึ้นเป็นวงกว้างจนได้รับการยอมรับในฐานะกลุ่มผู้นำประเทศ และถูกยกให้เป็นพรรคการเมืองแรกของประเทศไทย แม้สมัยนั้นจะยังไม่มีการบัญญัติคำว่า ‘พรรค’ ก็ตาม
สมาคมคณะราษฎร ประกอบไปด้วยกลุ่มทหารบก กลุ่มทหารเรือ รวมถึงกลุ่มพลเรือนนำโดย ดร.ปรีดี พนมยงค์ นักกฎหมายจบนอก รวมทั้งหมด 114 ชีวิต ทำหน้าที่รักษาการแทนพระมหากษัตริย์ในช่วงปี 2481-2490 ก่อนที่จะมีปัญหาเกาเหลากันเองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหลือไว้เพียงจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่หมดอำนาจแล้ว นับเป็นการจบตำนานคณะราษฎรและสมาคมคณะราษฎรในที่สุด
ยังมีเรื่องราวย้อนวันวานให้รออ่านอีกแวะค้นต่อได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews