7 อาหารดีต่อตับ รู้หรือไม่ว่า ตับ หรือ Liver คืออวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีน้ำหนักเฉลี่ย 2.5 % ของน้ำหนักตัว ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย สร้างโปรตีน Globulin Albumin ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด สร้างน้ำดีช่วยย่อยอาหารในลำไส้ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นได้ว่า ถ้าตับของคุณแข็งแรง ร่างกายของคุณก็รู้สึกแข็งแรงไปด้วย และจะทำยังไงให้แข็งแรงง่ายที่สุดคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อตับ
1.ส้มโอ(Grapefruit)
มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น นารินจิน(naringin) ที่มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบ ปกป้องเซลล์ตับ
2.กะหล่ำปลี (Cabbage)
มีส่วนช่วยในการเพิ่มกลูต้าไธโอนในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถขับสารพิษ และบำรุงตับได้ดียิ่งขึ้น
3.เบอร์รี่ (Berries)
ผลเบอร์รี่เช่น แครนเบอร์รีและบลูเบอร์รี่ มีส่วนช่วยปกป้องตับจากความเสียหายได้ เนื่องจากตัวเบอร์รี่มีสารแอนโทไซยานิน(Anthocyanins) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มการตอบสนองภูมิคุ้มกันของตับ
4.กระเทียม(Garlic)
กระเทียมเป็นหนึ่งในอาหารที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดสำหรับการล้างพิษเนื่องจากอุดมไปด้วยอัลลิซิน(Allicin) ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและยังเป็นเหมือนยาปฏิชีวนะอีกด้วย เป็นหนึ่งในยาที่ในอดีตคนใช้กินเมื่อเป็นหวัดกัน
5.ปลาที่มีไขมัน (Fatty Fish)
ปลานั้นมีไขมันที่ดีเช่น โอเมก้า 3 เป็นเสมือนยานพาหนะที่บรรทุกไลโปโปรตีนที่จะพาไขมันในเลือดทั่วร่างกายไปทำลายที่ตับ ซึ่งส่งผลดีในระยะยาวต่อตับหากเรามีการสะสมของไขมันที่น้อยลง
6.สมุนไพร(Herbs)
สมุนไพรที่เรากินกันอยู่บ่อยๆเช่น ผักชี ขิง ขมิ้น มีประสิทธิภาพในการขับพิษ อย่างขิงนั้นมีฤทธิ์เผ็ดร้อนทำให้สิ่งสกปรกในร่างกายถูกขับออกมาทางเหงื่อ พร้อมช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
7.กาแฟ (Coffee)
โพลีฟีนอลที่มีอยู่ในกาแฟนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณสมบัติที่ช่วยในการปกป้องตับจากการเกิดโรคตับแข็ง แต่กาแฟควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะไม่งั้นจะส่งผลเสียแทน เช่น การนอนหลับได้ยากขึ้น
การดูแลตับนั้น ในส่วนของการรับประทานอาหารที่ดีก็มีส่วนช่วยเป็นหลัก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคตับแข็ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
