สัญญาณเตือน Gaslighting ใครที่โดนไฟตะเกียงเผาหัวใจอยู่ ต้องรีบออกมานะ
ความรู้สึกในจิตใจที่เกิดไม่ว่าจะเหนื่อยล้า อ่อนแรง เบื่อหน่าย ไปจนถึงการรู้สึกผิดไปซะทุกเรื่อง รู้สึกหาสาเหตุไม่ได้เพราะปัจจัยที่เกิดรู้สึกจะมีได้เยอะเหลือเกิน มาสำรวจตัวเองกันว่าหากใครมีความรู้สึกเหล่านี้อยู่ไม่ว่าจะในความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม คุณอาจจะต้องรีบก้าวขาออกมาจากความรู้สึกนั้นหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้จิตใจโดนแผดเผา
อาการรู้สึกผิดที่หาสาเหตุไม่ได้
‘นี่เราแย่ขนาดนั้นเลยหรือเปล่า’ ใครเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเอง บางทีอาจจะเกิดขึ้นเพราะมีคนทำให้เรารู้สึกแบบนั้นโดยจุดไฟตะเกียง Gaslighting ใส่หัวใจเราไว้นะ ทำให้เรารู้สึกผิด สูญเสียความมั่นใจ รู้สึกเหมือนทำผิดตลอดเวลา กลัวการที่จะลงมือทำเพราะเกรงว่าจะทำพลาดแล้วโดนดุ
Gaslighting คืออะไร?
Gaslighting คือ รูปแบบหนึ่งของการควบคุมทางจิตใจ (psychological manipulation) ในทางจิตวิทยากล่าวถึงการค่อย ๆ ถูกปลูกฝังหรือชักจูงความคิดให้เกิด’ความรู้สึกผิด’เข้าไปในจิตใจของผู้ฟัง จนทำให้เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เรื่องนี้้เป็นเพราะเราหรือเปล่า” สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกความสัมพันธ์ทั้งเจ้านาย-ลูกน้อง สามี-ภรรยา หรือเพื่อน
คำว่า Gaslighting มีจุดเริ่มต้นมาจากละครเวที Gaslight ในปี 1938 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามีที่หวังจะครอบครองสมบัติของภรรยา โดยการสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ฝ่ายหญิงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้า โดยมีฉากที่สามีดับไฟในตะเกียง พอภรรยาถามว่าดับไฟทำไม สามีกลับบอกว่า ฉันไม่ได้ทำ ไฟยังอยู่ปกติออยู่เลย และคอยทำแบบนี้เรื่อย ๆ ให้ภรรยาเกินการสับสนว่าอะไรจริงไม่จริง คิดไปเองหรือเปล่า หรือฉันผิดที่ไปหาว่าสามีเป็นคนทำ จนทำให้ไม่มั่นใจที่จะทักท้วงอะไรออกมา จึงเป็นที่มาของคำนี้ เปรียบเหมือนกับการปลูกหนามไว้ในใจเรื่อย ๆ รอวันเติบโต
สัญญาณเตือนว่านี่คือ Gaslighting
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าความรู้สึกหรือสถานการณ์ที่เจออยู่กันคือการถูก Gaslight มาลองดูกันว่าประโยคเหล่านี้ คุณพบเจอกันมามากน้อยแแค่ไหนจากทุกความสัมพันธ์
“คิดไปเองหรือเปล่า ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น.”
“คุณแค่อ่อนไหวมากเกินไป”
“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงทำเรื่องใหญ่แบบนี้…”
“อย่าคิดเองเออเองได้ไหม”
“คุณต่างหากที่เป็นคนชวนทะเลาะ ไม่ใช่ผม”
“ไม่เชื่อใจกันเลยใช่ไหม?”
“ขอโทษแล้วกันที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น”
ถ้าไม่ได้อยู่ในบริบทหรือสถานการณ์ที่น่าคับขันต่อจิตใจ อาจจะดูเป็นประโยคธรรมดา แต่ถ้าความอึดอัดและความกดดันจากการสั่งสมความรู้สึกผิด หรือเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไหร่ พึงรู้ไว้ได้เลยว่าไฟของการถูกครอบงำในหัวใจเริ่มจุดติดขึ้นมาแล้ว หรือถ้ายังไม่แน่ใจ
7 สัญญาณเตือนว่าเรากำลังถูก Gaslight ครอบงำ
- เป็นฝ่ายที่ต้องเอ่ยคำขอโทษตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคุณ
- เชื่อว่าตนเองไม่สามารถทำสิ่งที่ถูกได้ ทำอะไรก็ผิดเสมอ
- รู้สึกวิตกกังวลตลอดเวลา หวาดกลัวว่าจะทำผิดหรือไม่ถูกใจใคร
- สูญเสียความมั่นใจในตนเอง สูญเสียความเป็นตัวตน
- ตั้งคำถามเกี่ยวกับความคิดและการตัดสินใจของตนเองตลอดเวลา ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ
- รู้สึกโดดเดี่ยวและไร้กำลัง รู้สึกว่าตนไม่เหมือนใคร แตกต่างและแปลกแยก
- ผิดหวังในตนเอง และกลัวผู้อื่นจะผิดหวังในตัวคุณ
ถ้าได้ยินประโยคข้างบนบ่อย ๆ เข้าและมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว รีบก้าวออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นให้ไว ก่อนจะกลับลำไม่ทัน
วิธีรับมือกับการโดน Gaslighting
การที่เราจะพ้นจากการถูก Gaslighting หรือหนีจากการตั้งคำถามกับตัวเองได้ ขั้นแรกต้องเลิก ‘ยอม’ แบบไม่มีเหตุผล เพียงเพราะกลัวที่จะตอบโต้ เพราะนั่นอาจส่งผลที่แย่กว่าตามมาได้ ให้ฝึกจากการพูดประโยคเหล่านี้กลับไปหากเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา
“ฉันไม่เห็นด้วย”
“ฉันจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ”
“นั่นคือความคิดเห็นของคุณ”
ถึงแม้บางทีผู้พูดอาจไม่ได้มีเจตนาให้เราเป็นบ้าเหมือนกับในละคร แต่ประโยคเหล่านี้ก็ทำร้ายจิตใจเราได้เหมือนกัน มาลองเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ให้ไม่ถูกครอบงำทางอารมณ์ได้ง่ายเหมือนกับเก่า ลองใช้วิธีการป้องกันจากการถูก Gaslight ได้ ดังนี้
- อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกในสิ่งที่เราอยากรู้สึก
- ถอยให้ห่างจากคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า เว้นระยะห่างออกมาให้ได้คิด
- เก็บหลักฐาน ที่จะช่วยคลายความสงสัยในตัวคุณเองในเรื่องนั้น ๆ
- ใช้มุมมองที่ 3 มุมมองของคนที่อยู่ภายนอกสถานการณ์อาจช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
- ห่างจากความสัมพันธ์ แม้จะเป็นหนทางที่ยากในการกระทำได้จริง แต่การเผชิญกับ gaslight ซ้ำ ๆ จนทำให้สูญเสียความเป็นตัวตนไปนั้นย่อมส่งผลเสียที่มากกว่า
การเดินออกจากความสัมพันธ์นั้นอาจจะยาก แต่หากยังอยู่ในสถานการณ์นั้นต่อไปอาจส่งผลเสียต่อจิตใจหรืออาจทำให้ไฟในใจถูกแผดเผาไปได้ ไม่มีใครควรตกอยู่ในความทุกข์ที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นการก้าวออกมาหรือเริ่มทีจะต่อสู้กับการถูก Gaslighting อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้นในการดำเนินชีวิตของเราก็ได้ ‘อย่าทนอยู่กับอะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุข’
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
https://www.fatherly.com/life/gaslighting-phrases-to-stop-saying