Home
|
ไลฟ์สไตล์

เลือกรีเทนเนอร์อย่างไรให้ถูกใจและเหมาะสม กับ 8 ข้อควรรู้ก่อนทำรีเทนเนอร์

Featured Image

ปัญหาเรื่องฟันกับคนไทย ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะอาการผิดปกติของฟันที่พบกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อน ฟันเก ฟันล้ม หรือฟันห่าง ฯลฯ ซึ่งบางคนอาจเกิดอาการผิดปกติขึ้นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอายุมากขึ้น ใช้งานฟันมานาน หรือเหงือกอาจร่น จนฟันมีลักษณะผิดรูปไม่เท่ากัน อาการเกี่ยวกับฟันไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสุขภาพในช่องปากเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงบุคลิกภาพ และความมั่นใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย การจัดฟันจึงเป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพฟันที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่การจัดฟันเพียงอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ปัญหาทั้งหมด หลังการจัดฟันควรใส่รีเทนเนอร์เพื่อช่วยให้ฟันที่จัดไปแล้วไม่กลับไปยังตำแหน่งเดิม เรียงตัวได้สวยงามอย่างที่เราต้องการ วันนี้เราจะมาแนะวิธีเลือกรีเทนเนอร์อย่างไรให้ถูกใจและเหมาะสม กับ 8 ข้อควรรู้ก่อนทำรีเทนเนอร์

รีเทนเนอร์ คืออะไร จำเป็นแค่ไหน

นอกจากการจัดฟันแล้ว อุปกรณ์ที่เรียกว่ารีเทนเนอร์ (Retainer) ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นเครื่องมือช่วยคงสภาพฟัน ยึดตรึงฟัน ล็อกฟันไม่ให้ฟันล้ม หรือป้องกันไม่ให้ฟันขยับเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิม เพื่อให้ฟันจัดเรียงเป็นระเบียบสวยงาม ช่วยให้บุคลิกดียิ่งขึ้น รีเทนเนอร์จึงเป็นตัวช่วยที่ดีหลังการจัดฟัน ให้ฟันของเราคงสภาพตรงตามที่จัดใหม่นั่นเอง

รีเทนเนอร์มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง                                                               

1. รีเทนเนอร์แบบลวด หรือแบบโลหะ (Hawley Retainer)

ลักษณะเป็นโครงอะคริลิกที่มีขนาดพอดีกับเพดานปาก ด้านหน้าจะครอบฟันไว้ มีสีสันสวยงาม เลือกได้ตามต้องการ เป็นรีเทนเนอร์แบบที่ควรต้องใส่ไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันฟันเคลื่อน ทำความสะอาดง่าย ถอดได้ตอนกินข้าวและแปรงฟัน ทนทาน มีอายุการใช้งาน 2-3 ปี สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมภายหลังได้ และมีราคาไม่แพง การใส่รีเทนเนอร์แบบลวด หรือแบบโลหะ ต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักระยะ อาจพูดไม่ได้ถนัดเหมือนเดิม หรือรู้สึกระคายที่ช่องปากและกระพุ้งแก้ม

เหมาะกับ บุคคลทั่วไป

 

2. รีเทนเนอร์แบบใส (Clear Retainer)

ลักษณะเป็นพลาสติกใสครอบฟันไว้ทั้งด้านในและด้านนอก หากไม่สังเกตก็จะมองไม่เห็น มีความหนา 0.75-1.5 มิลลิเมตร ช่วยล็อกตำแหน่งฟันให้คงสภาพได้ดี สามารถพูดหรือออกเสียงได้ถนัดเหมือนเดิม เวลายิ้มหรือพูดคุยจะมีความมั่นใจ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีควรใส่รีเทนเนอร์ทุกวัน แต่รีเทนเนอร์แบบใสจะไม่สามารถแก้ไขได้ต้องทำใหม่เท่านั้น และต้องคอยระวังไม่ให้ตกเพราะอาจแตกได้ โดยรีเทนเนอร์แบบนี้อาจมีน้ำลายขังเกิดฟองอากาศ ฉีกขาดง่ายกว่าแบบลวด ไม่เหมาะกับคนที่นอนกัดฟัน

เหมาะกับ บุคคลทั่วไป และผู้ที่ทำงานใช้เสียง

 

3. รีเทนเนอร์ วิเวียร่า (Vivera Retainers)

ลักษณะเป็นอะคริลิก มีความคงทน ไม่มีกลิ่น หรือมีน้อยมากๆ การครอบฟันมีความแม่นยำสูงมาก เพราะสามารถสร้างแบบสำหรับจำลอง 3 มิติ รีเทนเนอร์ประเภทนี้จะผลิตครั้งเดียวคราวละ 3 คู่ เพื่อสำรองไว้ในกรณีสูญหายไม่ต้องเสียเวลาทำใหม่ เพราะต้องใช้เวลาผลิตประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีราคาสูงกว่าประเภทอื่นๆ

เหมาะกับ บุคคลทั่วไป ผู้ที่ทำงานที่ใช้เสียง พิธีกร ดารา ผู้ที่ต้องใช้หน้าตาบุคลิกในการทำงาน

 

4. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainer)

ลักษณะเป็นลวดเส้นเดียว ช่วยยึดฟันบริเวณด้านในเอาไว้ เพื่อให้ฟันคงสภาพเหมือนการจัดฟัน ทำให้มองไม่เห็นว่าใส่รีเทนเนอร์ ทำให้เกิดความมั่นใจ ไม่เสียบุคลิก มีอายุการใช้งานคงทน แต่ข้อด้อยคือทำความสะอาดได้ยาก หรือหากกรณีที่มีความจำเป็นต้องถอด จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ถอดให้เท่านั้น

เหมาะกับ คนขี้ลืม หรือกังวลไม่อยากให้ใครเห็นว่าใส่รีเทนเนอร์ และคนที่ไม่ชอบรีเทนเนอร์แบบถอดได้

 

ข้อควรรู้ก่อนทำรีเทนเนอร์

  1. ต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจากจัดฟัน เพื่อคงสภาพฟันให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และควรต้องใส่อย่างสม่ำเสมอ
  2. เป็นอุปกรณ์ในการล็อกให้ฟันคงสภาพ ไม่เคลื่อน ไม่ล้ม ฟันไม่กลับไปอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนก่อนจัดฟัน ช่วยให้ฟันเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม
  3. รีเทนเนอร์มีหลายแบบให้พิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม
  4. ปัญหาที่ทุกคนต้องเจอหลังใส่รีเทนเนอร์คือ หากดูแลแปรงฟันไม่สะอาด อาจทำให้เศษอาหารติดค้างจนทำให้เกิดคราบหินปูน เกิดกลิ่นปาก และฟันผุได้
  5. ต้องล้างทำความสะอาดรีเทนเนอร์ทันทีหลังจากถอดออก ด้วยการแปรงเบาๆ ด้วยสบู่ แต่ต้องระวังเรื่องการล้างให้สะอาดด้วย หรืออาจใช้น้ำยาทำความสะอาดรีเทนเนอร์โดยเฉพาะ หาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
  6. รีเทนเนอร์ต้องใส่อย่างน้อย 1-2 ปี หรือตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ โดยเฉพาะช่วง 6 เดือน – 1 ปีแรก ควรใส่ตลอดเวลา
  7. ต้องไม่วางรีเทนเนอร์ใกล้ความร้อน ควรเก็บให้ถูกวิธีด้วยการเก็บไว้ในกล่องทันที หากรีเทนเนอร์เสียหาย แตก หัก บิดเบี้ยว อย่าดัดแปลงแก้ไขเอง ให้พบแพทย์เพื่อเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด
  8. หากไม่ได้จัดฟัน ไม่ควรใส่รีเทนเนอร์ เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟันได้มากกว่าที่คิด

รีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือเฉพาะสำหรับคนที่จัดฟันมาเรียบร้อยเเล้ว เพื่อช่วยคงสภาพฟันให้เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบ และมีความสำคัญต่อสุขภาพช่องปากเป็นอย่างมาก ใครกำลังวางแพลนอยากตรวจสุขภาพช่องปาก ทำฟัน ถอนฟัน จัดฟัน รีเทนเนอร์ หรือปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพช่องปากด้านต่างๆ แนะนำให้เข้าไปที่ PLUS Dental Clinic คลินิกทันตกรรมที่ให้บริการผ่านระบบสมัยใหม่ที่มีคุณภาพ ทั้งการบริการและการรักษา ให้ความสำคัญตั้งแต่การตรวจ การวางแผนโปรแกรมรักษา เพื่อให้เป็นคลินิกทันตกรรมที่ “เคียงข้างรอยยิ้มคุณ” ตลอดไป

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube