นาก สัตว์โลกสุดน่ารักที่เลี้ยงไม่ได้
ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในสัตว์โลกสุดน่ารักที่ปรากฏให้เห็นบนโซเชียลอยู่บ่อย ๆ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “นาก” ผุดขึ้นมาในหัวของทุกคนอย่างแน่นอน
ด้วยภาพจำสุดน่ารักที่หลายคนชื่นชอบ ทั้งยังพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ชวนให้หลงรัก อย่างการอุ้มลูกตัวเองขึ้นมาโชว์เวลาศัตรูเข้าใกล้ ราวกับจะบอกว่าฉันมีลูกน้อยนะจ้ะ อย่าทำฉันเลยจ้ะ
แต่รู้หรือไม่ ว่าจริง ๆ แล้วนากเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถเลี้ยงได้แม้จะหลงในความน่ารักของน้อนแค่ไหนก็ตาม อีกทั้งนากยังมีความลับที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่อีกมากมาย ในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักนาก และพฤติกรรมแปลก ๆ ของน้อน อย่างการนอนกลางวัน และดีดตอนกลางคืน หรือการพกหินอุปกรณ์เป็นของตัวเอง
ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าสู่โลกของสัตว์โลกน่ารักที่ไม่สามารถนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างเจ้านากกันได้เลยย!
นาก สัตว์โลกสุดน่ารักที่เลี้ยงไม่ได้
ก่อนอื่นเราคงต้องมาทำความรู้จักกับเจ้านากกันก่อน นาก เป็นสัตว์หน้าตาน่ารักมุ้งมิ้ง คล้ายกับแมวน้ำ เป็นสัตว์บกที่สามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ออกหากินทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ขุดรูอยู่ริมตลิ่งใช้เป็นรังสำหรับอาศัยและเลี้ยงดูลูก
สำหรับสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ นากยักษ์ ความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 41 กิโลกรัม ตัวเมียเล็กกว่าตัวผู้ ขนสีน้ำตาลเข้ม และสั้นกว่าสายพันธุ์อื่น
ขณะที่นากเล็กเล็บสั้น เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่สุดในโลก น้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม ความยาวลำตัวถึงหางประมาณ 45-55 เซนติเมตร ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย
เกร็ดความรู้และความน่ารักของนาก
นอกจากข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเจ้านาก เรายังมีข้อมูลที่เป็นทั้งเกร็ดความรู้และความน่ารักของน้อน ที่จะทำให้ได้ทั้งความรู้และตกหลุมรักในความน่ารักน่าเอ็นดูของน้อนแบบไม่ทันตั้งตัว ดังนี้
- เฉลี่ยอายุขัยของนากจะอยู่ที่ 10 ปี แต่ถ้าได้รับการดูแลอย่างดี อายุขัยของน้อนก็จะมากขึ้นเป็นเท่าตัว
- จัดอยู่ในเผ่าพันธุ์ใกล้เคียงกับแบดเจอร์ เฟอเรท สกังก์ และตัวมิงค์ แต่ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับบีเวอร์ อาจเป็นเพราะน้อนว่ายน้ำได้เหมือนกัน
- มีเพียง 2 ทวีป ในโลกเท่านั้นที่ไม่สามารถพบน้อนได้ นั่นคือ ทวีปแอนตาร์กติกา และทวีปออสเตรเลีย เพราะปกติตัวนากมักอาศัยอยู่ในเขตที่มีสภาพอากาศอบอุ่น หรือพื้นที่ชุ่มน้ำ
- ความฉลาดต้องยกให้นาก เพราะน้อนสามารถเอาชีวิตรอดได้เองตามวิถีแบบธรรมชาติ โดยการใช้อุ้งมือจิ๋ว ๆ ของในการหยิบจับสิ่งของ และใช้หินทุบเปลือกของอาหารเพื่อเปิดออกมากิน
- มีหินอุปกรณ์เป็นของตัวเอง ข้อนี้เป็นเรื่องที่น่ารักมากกก เพราะนากแต่ละตัวจะมีความชอบหินที่ใช้ทุบเปลือกหอยเป็นส่วนตัวไม่เหมือนกัน นากบางตัวจะติดหินที่ใช้เป็นอุปกรณ์มากถึงขั้นพกไว้กับตัว โดยวางไว้ที่ส่วนของผิวหนังที่ยื่นออกมาเหมือนถุงใต้รักแร้หรือวางไว้ในตำแหน่งที่จดจำได้ บางตัวมีความภูมิใจในหินมากขนาดที่เอามาอวดเพื่อนนากด้วยกัน และถ้าหินสำคัญหายนากบางตัวถึงกับซึมเศร้าไม่เป็นอันกินอาหารอีกต่อไป T_T
- อาหารของนากคือ ปู ปลา หอย หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำขนาดเล็ก แต่คนกลับเข้าใจผิดว่าน้อนชอบกินพืช และผลไม้
- ชื่นชอบการนอนอาบแดดตอนกลางวัน และจะมีความกระตือรือร้นในช่วงกลางคืน โดยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนบก แต่หลายคนคิดว่าพวกน้อนชอบอยู่ในน้ำ (ยกเว้นนากทะเลที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ)
- หลักฐานทางโบราณคดีพบว่าน้อนมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานกว่า 5 ล้านปี!!
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเกร็ดความรู้และพฤติกรรมสุดน่ารักที่ทำให้ผู้ที่เห็นถูกตกเข้าอย่างจัง จนทำให้หลงรักสัตว์ตัวนี้อย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่าเศร้าคือเจ้านากที่น่ารัก กำลังอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์… ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลให้นากถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จนไม่สามารถเลี้ยงได้
สาเหตุที่เลี้ยงไม่ได้..
จุดเริ่มต้นที่ทำให้นากเริ่มสูญพันธ์ เกิดขึ้นจากการค้าขนสัตว์ครั้งประวัติศาสตร์ในอเมริกาเหนือ ซึ่งนักล่าส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่นากทะเล สำหรับการทำมูลค่าทางการค้า โดยเฉพาะการผลิตเป็นเครื่องประดับขนสัตว์ที่เป็นที่นิยมในยุโรป
เนื่องจากชีวิตที่มีมหาสมุทรเป็นศูนย์กลางอย่างนากทะเลนั้น ทำให้นากทะเลมีขนอันสุดแสนจะอบอุ่นและหนาที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้เองจึงนำไปสู่การลดจำนวนลงอย่างมาก และเข้าสู่ภาวะใกล้สูญพันธุ์ของประชากรนากทะเล ทั้งยังทำให้นากหลายชนิดเกือบสูญพันธุ์
นอกจากนี้อายุการอุ้มท้องของแม่นากทะเลอาจนานถึงหนึ่งปี และแม่นากสามารถให้กำเนิดลูกได้เพียงครั้งละหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น
นั่นจึงทำให้ปัจจุบันมีนากทะเลเหลืออยู่ในป่าประมาณ 3,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์อย่างร้ายแรง โดยอัตราประชากรของนากทะเลลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการรุกล้ำและการสูญเสียที่อยู่
แม้จะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลของสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2515 และพระราชบัญญัติสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี พ.ศ. 2520 ที่ช่วยคุ้มครอง และจากการคุ้มครองเหล่านี้ รวมถึงการทำงานของนักอนุรักษ์ทั่วโลก ทำให้กลุ่มประชากรนากทะเลสามารถล่าอาณานิคมคืนได้ 11 จาก 13 แหล่งที่อยู่เดิม ครองพื้นที่ประมาณ 75% ของพื้นที่ในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตามนากยังคงถูกระบุว่าเป็นสัตว์ที่ “ใกล้สูญพันธุ์” โดย International Union for Conservation of Nature (IUCN) Red List ซึ่งเป็นรายการแสดงสถานะการอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลก
ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แม้จะหลงรักในตัวของเจ้านากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเองได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่เคยแอบนำนากมาเลี้ยง และทำให้เห็นอีกด้านของสัตว์โลกน่ารักตัวนี้ ที่อาจจะทำให้หลายคนไม่อยากนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง และชมความน่ารักของน้อนอยู่ห่าง ๆ ทางหน้าจอโทรศัพท์ก็ได้
อีกมุมของนาก กับความโหดที่ตรงข้ามกับหน้าตา
จากสถิติการจับกุมผู้ลักลอบครอบครองตัวนากของกรมอุทยานฯ ในปี 2561 มีจำนวน 9 คดี ยึดตัวนากได้ 23 ตัว ส่วนสถิติการจับกุมในปี 2562 จนถึงเดือน เม.ย. มีจำนวน 6 คดี ยึดตัวนากได้ 12 ตัว แม้จะเป็นนากคนละสายพันธ์กัน แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีผู้ที่แอบนำเจ้าสัตว์ตัวนี้ไปเลี้ยงเป็นจำนวนมาก
เฟซบุ๊ก “ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง” ได้เผยแพร่ภาพและข้อมูลเตือนผู้ที่คิดจะเลี้ยงตัว “นาก” ซึ่งเป็นข้อความที่ถูกเปิดเผยจากกลุ่มคนเลี้ยงนากที่โพสต์เตือนข้อเสียของนาก โดยระบุว่า ให้ศึกษาก่อนเลี้ยง เพราะนากไม่ใช่สัตว์เลี้ยงง่ายเหมือนสุนัขและแมว อีกทั้งยังโมโหร้ายจนอาจทำร้ายผู้เลี้ยงได้ ขณะที่นับวันตัวนากถูกทิ้งขว้างจากผู้เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนข้อเสียในการเลี้ยงตัวนากนั้น นากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงยาก ถ้าเป็นลูกนากต้องป้อนนมเป็นเวลา ฟันคม ซุกซน เล่นแรงกัดแรง หากมีอาการหงุดหงิดอาจกัดจมเขี้ยว ส่งเสียงร้องเสียงดัง อุจจาระและปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น อีกทั้งยังต้องสังเกตอาการป่วยและส่งรักษาที่คลินิกพิเศษเท่านั้น
หลายคนที่เคยเลี้ยงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่เอามาเลี้ยงเด็ดขาด พร้อมระบุข้อความทิ้งท้ายว่า “นากเป็นสัตว์น่ารัก ว่างๆ ก็จะกินจระเข้ เล่น ๆ ชิว ๆ เป็นอาหาร”
จากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไป ซึ่งตรงข้ามกับความน่ารักที่เห็นในสื่อโซเชียลอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนเกิดคำถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูล นากเป็นสัตว์ที่มีอันตรายมาก สถิติจากทวีปอเมริกาเหนือชี้ว่านากจู่โจมมนุษย์ปี ๆ หนึ่งหลายสิบราย
อีกทั้งตัวของนากยังเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่เป็นอันตรายกับมนุษย์ โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า มนุษย์ที่โดนจู่โจมถึงราว 1 ใน 4 ก็จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตายถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน
คำถามถัดมาคือ มนุษย์ไปทำอะไรก่อนหรือเปล่านากถึงจู่โจม? คำตอบคือต่อให้ไม่ได้ทำอะไรเจ้านากก็จะเข้าโจมตี เพราะน้อนเป็นสัตว์ที่นิยมความรุนแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
อาจกล่าวได้ว่านากจัดเป็นสัตว์ที่จะเข้าจู่โจมสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ได้ โดยที่สิ่งนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นอาหาร ซึ่งนิสัยแบบนี้ ขนาดสัตว์กินเนื้อที่ดูโหด ๆ และน่ากลัวสำหรับมนุษย์จำนวนมากยังไม่เป็น เพราะสัตว์เหล่านั้นจะไม่จู่โจมสิ่งมีชีวิตที่มันไม่คิดจะกิน ซึ่งต่างจากนากที่การจู่โจมอาจพออธิบายได้ว่าน้อนจู่โจมเพราะมันแค่ “สนุก” ด้วยซ้ำ ไม่ได้เป็นไปเพื่อหาอาหารหรือป้องกันตัว
และการจู่โจมของตัวนาก ถ้าเทียบกับมนุษย์ก็เข้าขั้นโรคจิต เพราะมีบันทึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า นากมีพฤติกรรม “ฆ่าข่มขืน” เป็นปกติกับสัตว์ที่ตัวเล็กกว่า หรือกระทั่งที่ขนาดเท่าๆ กัน ซึ่งสัตว์ที่โดนนากกระทำชำเราที่มีบันทึกไว้ก็มีตั้งแต่ลูกแมวน้ำ ยันหมาบ้าน โดยการที่นากจะฆ่าสัตว์แล้วร่วมเพศกับศพสัตว์ที่ตายไปแล้วนี้ก็เป็นเรื่องปกติสุด ๆ
นิสัยทางเพศที่ก้าวร้าวนี้เป็นเรื่องปกติในนากตัวผู้ เพราะเป็นสัตว์ที่นิยม “เซ็กส์ซาดิสต์” โดยเวลาร่วมเพศ ตัวผู้จะจับตัวเมียล็อกเอาไว้ แล้วก็ทำการกัดบริเวณจมูกอย่างรุนแรง ซึ่งในบางครั้งมันก็ทำให้ตัวเมียถึงตาย และถึงไม่ตาย การที่นากตัวเมียจะมีแผลเป็นเต็มใบหน้าก็เป็นเรื่องปกติ และมันเกิดจาก “เซ็กส์ซาดิสต์” ของนากตัวผู้
จากข้อมูลที่กล่าวมา คงทำให้หลายคนมุมมองที่มีต่อเจ้านากเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามเจตนาในการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่ให้ทุกคนกลัวหรือรังเกียจเจ้าสัตว์โลกตัวนี้ เพียงแต่ต้องการให้ทุกคนระมัดระวังมากขึ้น เพราะน้อนไม่ได้เชื่องเหมือนอย่างภาพในโซเชียลเท่านั้นเอง
สรุปส่งท้าย
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของนาก ที่มีทั้งความน่ารัก ความโหดและแสบตามธรรมชาติ ทั้งยังเรื่องน่าเศร้าที่ว่ามันใกล้จะสูญพันธ์เต็มที เรียกได้ว่าเรื่องราวชีวิตของเจ้าตัวน้อยมีครบรสทุกด้านเลยทีเดียว
สุดท้ายนี้ก็หวังว่าทุกคนจะให้ความรักนาก และเอาใจช่วยให้มันไม่สูญพันธ์ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก