วันนอนหลับโลก ครั้งแรกที่ได้เห็นหรือได้ยินชื่อทุกคนคงนึกหัวเราะกับเอ็นดูชื่อของวันนี้ ใครๆก็ชอบนอนหลับกันทั้งนั้นล่ะ ยิ่งรู้ว่าต้องไปทำงาน ยังไงก็อยากนอนต่อ อย่างไรก็ตาม วันนอนหลับโลก นั้นจริงจังแล้วมีความสำคัญกว่าที่หลายๆคนคิด เพราะสุขภาพดีที่เริ่มจากการนอน มีหลายคนพูดว่า ชีวิตของคุณไม่ได้เริ่มตอนเช้า มันเริ่มตั้งแต่ตอนนอน
วันนอนหลับโลก นั้นถูกตั้งขึ้นโดย สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลก (The World Association of Sleep Medicine หรือ MASM )
สมาคมได้กำหนดให้วันศุกร์ที่สองของเดือนมีนาคมในทุกๆปี เป็นวัน นอนหลับโลก จุดประสงค์หลักเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและปัญหาของการนอนหลับ ที่นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้สุขภาพเราดีหรือแย่ลง
วันนอนหลับโลกปีนี้ตรงกับวันที่ 12 มีนาคม World Sleep Society หรือ WSS ได้ให้สโกแกนวันนอนหลับโลกของปีนี้ไว้ว่า “Regular Sleep , Healthy Future.” แปลได้ว่า การนอนหลับเป็นปกติ เป็นอนาคตของสุขภาพดี เพื่อให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการนอนหลับที่มีคุณภาพ การนอนหลับที่ปกติ (ไม่มีอาการนอนไม่หลับ อาการสะดุ้งตื่นกลางคืน การพักผ่อนไม่เพียงพอ) คือสิ่งที่จะทำให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตนั้นดีขึ้น
นี่ไม่ใช่ปีแรกที่มีสโลแกนหรือคำขวัญประจำวันขึ้นมาในอดีต ที่ผ่านมาคำขวัญก็เน้นไปที่การนอนหลับอยู่เสมอ
- 2020 “Better Sleep, Better Life, Better Planet”
- 2019 “Healthy Sleep, Healthy Aging”
- 2018 “Join the Sleep World, Preserve Your Rhythms to Enjoy Life”
- 2017 “Sleep Soundly, Nurture Life”
- 2016 “Good Sleep is a Reachable Dream”
- 2015 “When Sleep is Sound, Health and Happiness Abound”
- 2014 “Restful Sleep, Easy Breathing, Healthy Body”
- 2013 “Good Sleep, Healthy Aging”
- 2012 “Breathe Easily, Sleep Well”
- 2011 “Sleep Well, Grow Healthy”
- 2010 “Sleep Well, Stay Healthy”
- 2009 “Drive Alert, Arrive Safe”
- 2008 “Sleep Well, Live Fully Awake”
มาขยายความกันเพิ่มสักนิดกับคำขวัญในปีนี้ “Regular Sleep , Healthy Future.” นั้นมาจากผลการศึกษาพบว่า การนอนหลับปกติและหลับอย่างสม่ำเสมอ (นอนตรงเวลา ชั่วโมงเท่าเดิม มีวินัยในการนอน) นั้นทำให้คุณภาพของ เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ จนไปถึงผู้สูงอายุนั้นดีขึ้น ไม่ว่าจะด้านจิตใจ การทำงาน การเรียน นั้นจะทำได้ดีขึ้น
การนอนที่ดีและสม่ำเสมอนี้จะเกิดขึ้นได้จากสองส่วนหลักๆคือ นาฬิกาชีวภาพในร่างกาย (Circadian) ที่เปลี่ยนอยู่ตลอด 24 ชั่วเช่น ฮอร์โมน อุณหภูมิร่างกาย การหลับและการตื่น อย่างที่สองคือ ระบบควบคุมสมดุลในร่างกาย (Homoeostatic control) ทั้งสองอย่างจะทำงานได้ดีเมื่อเราทำตรงเงื่อนไขของมัน เช่น เข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่มหรือช่วงเวลาที่ร่างกายจะเริ่มปล่อยสารเพื่อซ่อมแซมตัวเอง
The World Sleep Society ได้แนะ 10 วิธีสั้นๆที่ช่วยให้การนอนของเราดีขึ้น
- ปรับเวลานอนและเวลาตื่น
- หากคุณเหนื่อยหรือติดนอนกลางวัน ให้งีบหลับได้แต่อย่าเกิน 45 นาที
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนถึงเวลานอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรสูบบุหรี่ด้วย
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีน กาแฟ ชา โซดา ช็อคโกแลต อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนถึงเวลานอน
- หลีกเลี่ยงอาหารหนัก รสจัด อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หาเตียง หมอน ผ้าห่ม เครื่องนอนที่สบายสำหรับเรา
- ห้องนอนมีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป
- ห้องนอนเงียบ มืด เหมาะต่อการนอน
- เตียงนอนมีไว้สำหรับนอนและเซ็กส์เท่านั้น ไม่เอางานมาทำหรือนอนดูทีวี
การนอนนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เนื่องในวันนอนหลับสากลนี้เอง ขอให้ทุกคนปรับเวลาและคุณภาพการนอนเท่าที่จะเป็นไปได้ ฝันดีครับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news