Home
|
ไลฟ์สไตล์

เตือนภัย!! ถ้าไม่อยากเป็นกรดไหลย้อน อย่าทำพฤติกรรมนี้

Featured Image

          กินเก่ง เครียดง่าย ระวังกรดไหลย้อนถามหา! ภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของโรคนี้ก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง ว่าแต่ พฤติกรรมแบบไหนกันนะที่ทำให้เราเป็นกรดไหลย้อน ว่าแล้วก็ตามไปดูกัน

กรดไหลย้อนคืออะไร

          โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นโรคที่เกิดจากการไหลย้อนของสารคัดหลั่งในกระเพาะอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะมีการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหารขึ้นไปยังหลอดอาหารอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีปริมาณกรดที่ย้อนมากหรือบ่อยกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรค ซึ่งอาการเหล่านี้จะสร้างการรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้เยื่อบุหลอดอาหารอักเสบได้

อาการของกรดไหลย้อน

          อาการสำคัญที่พบบ่อยในโรคกรดไหลย้อน ได้แก่

  • แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ กลางหน้าอก ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
  • มีอาการเรอเปรี้ยว มีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปากและคอ
  • มีอาหารย้อนขึ้นมาในปากและคอ
  • จุกเสียด แน่นท้องบริเวณลิ้นปี่ คล้ายเหมือนมีก้อนติดอยู่ในลำคอ
  • ท้องอืด แน่นท้อง คล้ายอาหารไม่ย่อย
  • คลื่นไส้ อาเจียน หลังรับประทานอาหาร
  • หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ
  • เจ็บคอเรื้อรัง

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน

  • ดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และสูบบุหรี่มากเกินไป
  • รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา – รับประทานแล้วนอนทันที
  • ชอบรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือโรคอ้วน
  • คนที่มีภาวะกำลังตั้งครรภ์ มีโอกาสเป็นกรดไหลย้อนได้ง่ายกว่า
  • ผู้ที่ทานอาหารที่มีไขมันสูง และ ช็อกโกแลต มีความเสี่ยงเหมือนกัน
  • ยาบางชนิดทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้โรคซึมเศร้า ยาแก้อาการหอบหืด
  • ความเครียด เครียดสะสม ก็สามารถทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้เหมือนกัน

ปรับพฤติกรรมรักษากรดไหลย้อน

          วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาและป้องกันโรคนี้ก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

  • รับประทานอาหารปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
  • ไม่ควรนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้
  • ควรรับประทานอาหารมื้อเย็น ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

          ดังนั้นแล้วโรคกรดไหลย้อนหากปล่อยไว้นาน ไม่รีบทำการรักษา อาจร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม ควรปรับพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิตประจำวัน ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ หากท่านใดมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

investor.sikarin

gedgoodlife

gedgoodlife

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube