ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแซลมอน (Salmon) เป็นอาหารโปรดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้วปลาแซลมอนยังเป็นแหล่งของสารอาหารนานาชนิด เช่น โอเมกา 3 โปรตีน คอเลสเตอรอล โพแทสเซียม ซีลีเนียม โซเดียม กรดอะมิโน วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินบี6 วิตามินบี วิตามินอี แคลเซียม เหล็ก ซิงก์ ฟอสฟอรัส ฯลฯ
แซลมอน (Salmon) มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร
อ้างอิงจากฐานข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการอาหารของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA National Nutrient Database) เนื้อปลาแซลมอน (Salmon) แบบปรุงสุก (เป็นปลาแซลมอนจากฟาร์มเพาะเลี้ยง) ปริมาณ 85 กรัม หรือประมาณ 3 ออนซ์ มีสารอาหาร ดังนี้
- พลังงาน 175 กิโลแคลอรี
- ไขมัน 10.5 กรัม
- โปรตีน 18.79 กรัม
- วิตามิน B12 82% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- เซเลเนียม 46% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ไนอะซิน 28% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ฟอสฟอรัส 23% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ไทอะมีน 12% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- วิตามิน A 4% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ทั้งนี้ปลาแซลมอนเพาะเลี้ยงในฟาร์มจะมีคุณค่าทางสารอาหารไม่เท่ากับปลาแซลมอนตามธรรมชาติ เมื่อเทียบสารอาหารจากเนื้อแซลมอนในปริมาณเท่ากัน ปรุงสุกเหมือนกัน ปลาแซลมอนตามธรรมชาติจะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 118 กิโลแคลอรี
- ไขมัน 3.65 กรัม
- โปรตีน 19.93 กรัม
- วิตามิน B12 177% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- วิตามีน D 64% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- เซเลเนียม 59% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ไนอะซิน 48% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ฟอสฟอรัส 39% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- ไทอะมีน 5% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
นอกจากนี้ในปลาแซลมอนทั้งแบบเพาะเลี้ยงหรือเติบโตตามธรรมชาติ ก็ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันชนิดดี มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายด้าน
10 ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon)
1.มีคอลลาเจนบริสุทธิ์ ช่วยให้ผิวสวย
ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ข้อแรก ช่วยในเรื่องผิวสวย เพราะในแซลมอน (Salmon) มีโอเมก้า 3 วิตามิน D และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Astaxanthin มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ช่วยปกป้องคอลลาเจนในผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากรังสียูวี รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นได้อีกด้วย
2.ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ข้อถัดมาเลยก็คือ ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เพราะแหล่งโปรตีนในแซลมอนสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญที่ดีได้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก รวมถึงช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดการสะสมไขมันได้อีกด้วย
3.ช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
ปลาแซลมอนถือเป็นอาหารช่วยบำรุงสายตา โดยเฉพาะอาการตาแห้ง โรคจอตาเสื่อม ป้องกันต้อหิน เพราะปลาแซลมอนอุดมไปด้วย DHA ซึ่งเป็นกรดที่มีอยู่ในจอประสาทตา อีกทั้งยังมีวิตามิน A ซึ่งมีสรรพคุณบำรุงสายตา รวมไปถึงเจ้ากรดไขมันโอเมก้า 3 ก็ยังดีต่อสุขภาพดวงตาอีกด้วย
4.เสริมไอคิวทารกในครรภ์
นอกจากนี้ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ยังพบว่าสามารถเสริมไอคิวของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย การศึกษาจากประเทศอังกฤษ เผยว่า หญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานปลาแซลมอนปรุงสุกประมาณ 340 กรัมต่อสัปดาห์ จะช่วยให้เด็กที่คลอดออกมามีระดับ IQ ที่สูง เนื่องจากปลาแซลมอนอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเพิ่มกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อกระบวนการเจริญเติบโต และระบบการทำงานของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนั่นเอง
5.ลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ในเนื้อปลาแซลมอนอุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอาหารทั้งหมดในเนื้อปลาถือว่ามีส่วนอย่างมากในการช่วยลดอาการเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันอาการปวด และยังช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอจากการใช้งานได้อีกด้วย
6.ช่วยพัฒนาสมอง เสริมการจดจำ
ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ข้อถัดมาเลยก็คือ ช่วยพัฒนาสมอง เสริมการจดจำ เพราะแซลมอนเป็นเนื้อสัตว์ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมองอย่าง โอเมก้า-3 DHA และ EPA ซึ่งเป็นสารอาหารที่จะช่วยเรื่องความจำ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งบางงานวิจัยพบกว่า โอเมก้า 3 ในปลาแซลมอน ยังช่วยลดภาวะผิดปกติทางอารมณ์ โรคเครียด โรคซึมเศร้า และสมาธิสั้นในเด็กได้
7.ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
แซลมอนอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและยังช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย การทานแซลมอนเป็นประจำ จึงช่วยลดระดับไขมันในเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี
8.ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ข้อถัดมาคือ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เพราะโอเมก้า 3 ในแซลมอนจะช่วยเพิ่มการย่อยสลายของกรดไขมัน และช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้ เช่นลดความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย สโตรก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้
9.ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
การกินปลาแซลมอนจะช่วยเพิ่มระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามิน D สารอาหารดังกล่าวในแซลมอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในการเกิดโรงมะเร็งต่างๆ ได้ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งในลำไส้ นอกจากนี้การกินแซลมอนยังสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการใช้ยาเคมีบำบัดได้อีกด้วย
10.ช่วยทำให้ผมร่วงน้อยลง
สารอาหารในแซลมอน (Salmon) อย่างโอเมก้า 3 ,โปรตีน ,วิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องการป้องกันผมขาดหลุดร่วง เพราะการกินปลาแซลมอน เหมือนการให้อาหารแก่รูขุมขนหนังศีรษะ อีกทั้งยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเส้นผมดีขึ้นอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 ประโยชน์ของแซลมอน (Salmon) ที่เราได้นำมาฝากทุกคนกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแซลมอนเป็นปลาที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีประโยชน์ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสมอไป การรับประทานแซลมอนหรืออาหารทะเลที่ไม่ผ่านการปรุงสุก อาจมีพยาธิ หนอนทะเล ปรสิต ที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ และเสี่ยงอาหารเป็นพิษได้
หากใครที่เป็นสาย salmon lover จริงๆ ทางเราแนะนำว่า ให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เช่น รับประทานสัปดาห์ละประมาณ 200 กรัม หรือไม่เกิน 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ และควรรับประทานแบบปรุงสุกทุกครั้ง นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย ครบตามหลักโภชนาการ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารเดิม ๆ เป็นเวลานานจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลจาก