เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนสิ่งหนึ่งที่คนใช้รถใช้ถนนต้องพึงระวังเป็นพิเศษคงเป็นเรื่องของการขับขี่ให้ปลอดภัย และยังต้องระมัดระวังการขับรถเหยียบแอ่งน้ำ หรือ บริเวณพื้นผิวถนนที่มีน้ำขังไม่ให้ไปโดนผู้อื่น อย่างเหตุการณ์ที่เราเดินกางร่มอยู่ริมทางดี ๆ แล้วมีรถมาจากไหนไม่รู้ขับเหยียบแอ่งน้ำกระเด็นมาโดนเราทำให้ข้าวของเสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมาย โทษปรับหนักและเสี่ยงติดคุก อีกทั้งยังอาจผิดกฎหมายอีกด้วย
ขับรถเหยียบน้ำใส่คนอื่น ผิดกฎหมาย
โดยอ้างอิงจาก พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ผู้ใดขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากมีทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถยนต์เหยียบน้ำกระเด็นใส่ คนขับจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของรถได้ หากทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถเหยียบน้ำกระเด็นใส่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 438 ที่ระบุว่า ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติกรรมและความร้ายแรงแห่งการละเมิด
ดังนั้น เมื่อเราเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ อันดับแรก คือ จด และจำทะเบียนคันก่อเหตุไว้ หรือถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ แล้วนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันที
ส่วนผู้ขับขี่เองก็ควรต้องใช้ความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำขณะฝนตกหรือเจอแอ่งน้ำ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เพื่อนร่วมทางเดือดร้อน ยังช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย หากชอบบทความที่ให้สาระความรู้แบบนี้สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews