หากพูดถึงอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสบน TikTok ในตอนนี้ก็ต้องยกให้เทรนด์ ‘Heat Stroke Makeup’ เป็นเทรนด์เกี่ยวกับการแต่งหน้าตรีมซัมเมอร์ ที่โชว์ผิวสีแดงก่ำที่ดูเหมือนผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติ
ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวเป็นไวรัลมาจาก นายแบบจากนิตยสาร GQ China ชื่อ Yehao ที่แต่งออกมาในลุคซัมเมอร์แฟชั่นเซ็ต ที่โชว์ผิวแดงก่ำที่ดูเหมือนผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติ ไวรัลดังกล่าวทำเอาเหล่าสายบิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งไทยและต่างชาติออกมาทำตามกันยกใหญ่ เอาเป็นว่าวันนี้ เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘Heat Stroke Makeup’ กัน เริ่มเลยค่ะพส.! 🥵🔥
Heat Stroke Makeup คืออะไร
Heat Stroke Makeup เป็นเทรนด์แต่งหน้าฟีลบ่มแดด สไตล์การแต่งหน้าลุคนี้จะปัดด้วยบลัชสีแดง หรือ สีแดงอมส้ม ที่บริเวณจมูก หน้า หรือบริเวณที่ผิวโดนแดด ให้ฟีลผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังต้องทาลงมาถึงบริเวณคอและไหล่ เพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วยสเปรย์ให้หน้าดูเปียก ๆ เงา ๆ เหมือนกับตอนที่เหงื่อออกก็จะช่วยคอมพลีท Heat Stroke Look ให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
ทริคแต่งหน้าแบบ Heat Stroke Makeup
– ลงรองพื้น ให้เข้มกว่าเฉดผิวจริง เพื่อให้ผิวดูแทน ๆ
– จากนั้นใช้บลัชออนสีพีช สีส้ม ส้มอมแดง หรือสีชมพูอมส้ม เพื่อให้ได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทาลงบริเวณหน้าแก้ม หน้าผาก จมูก หรือสังเกตุบริเวณที่ควรลงบลัชออนได้จากบริเวณที่แสงแดดตกกระทบผิวจะช่วยทำให้ดูมีความเป็นธรรมชาติ
– เพิ่มเลเวลความฮอตได้ด้วยการลงบลัชออนที่ผิวกาย อย่างการทำ Tan line ช่วงตัวให้ดูเป็นรอยเสื้อผ้า แว่น นาฬิกา จากแดดที่ไหม้ผิวจนเป็นรอย
– เพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วยสเปรย์ให้หน้าดูเปียก ๆ เงา ๆ เหมือนกับตอนที่เหงื่อออกก็จะช่วยคอมพลีท Heat Stroke Look ให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
และเนื่องจากว่ามันเป็นไวรัลมากๆตอนนี้เหล่าคนดัง อินฟลูเอนเซอร์ ดารา ศิลปิน ออกมาเล่นกันอย่างล้นหลาม เราไปส่องกันดีกว่าว่าแต่ละคนจะปัง จึ้ง ปั๊วะ ขนาดไหน
สำหรับใครที่ต้านกระแสไม่ไหว อยากมีรูปแซ่บๆ ปังๆ ก็ลองเอาเทรนด์นี้ไปทำตามกันได้ สำหรับใครที่เล่นแล้วเอามาอวดกันได้น๊าาา 🥵🔥
ขอบคุณรูปภาพจาก yoshirinrada ,yehao2023 ,linglingkwong ,zeechani ,fomefommedsk ,sekiofficial
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
