ชวนรู้จักน้ำมันเครื่องแต่ละประเภท หัวใจหลักของการขับเคลื่อนเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่อง ของเหลวที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาเครื่องยนต์ทั้งด้านการหล่อลื่น การระบายความร้อน และการปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในท้องตลาด ถึงมีน้ำมันเครื่องให้เลือกมากมาย? แม้ว่าแต่ละขวดดูคล้ายกัน แต่ราคากลับแตกต่างกันอย่างมาก ความจริงแล้วน้ำมันเครื่องไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว แต่มีหลายประเภท แถมยังมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นใครที่มีรถคันโปรดหรือเป็นคนรักรถ ลองมาทำความรู้จักกับ น้ำมันเครื่อง 3 ประเภทหลักที่มักจะเจอในท้องตลาดว่าแต่ละประเภทนั้นมีจุดเด่น และตอบโจทย์การใช้งานอย่างไรบ้าง ตามมาหาคำตอบกันได้เลย
หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง ส่วนสำคัญของการขับเคลื่อน
- หล่อลื่นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เมื่อน้ำมันเครื่องถูกสูบฉีดเข้าไปในเครื่องยนต์แล้ว ก็จะเข้าไปเคลือบชิ้นส่วนอะไหล่คล้ายฟิล์มบางๆ เพื่อลดการเฉียดสีของชิ้นส่วนโลหะ ให้เครื่องยนต์ภายในทำงานได้อย่างราบรื่น และยังมีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานและการสึกหรอของชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ
- ระบายความร้อนเครื่องยนต์ ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน อะไหล่สำคัญอย่างลูกสูบ ฝาสูบ กระบอกสูบ ข้อเหวี่ยง จะเกิดการเสียดสีและเกิดความร้อนขึ้น ขณะเดียวกันน้ำมันเครื่องจะถูกสูบเข้าไปหล่อลื่นชิ้นส่วนอะไหล่เหล่านี้ และไหลกลับเข้าสู่อ่างน้ำมันเครื่อง จึงมีส่วนช่วยลดการสะสมของอุณหภูมิที่สูงมากเกินไป
- ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ในน้ำมันเครื่องจะมีสารยับยั้งการเกิดสนิม (Rust Inhibitor) และสารที่มีคุณสมบัติยับยั้งการกัดกร่อน (Corrosion Inhibitor) ซึ่งมีความเป็นด่างและมีคุณสมบัติเคลือบและยึดเกาะผิวโลหะ ป้องกันน้ำและความชื้นสัมผัสกับชิ้นส่วนอะไหล่โลหะโดยตรง
- ป้องกันการรั่วและรักษากำลังอัดเครื่องยนต์ อย่างที่บอกไปแล้วว่าน้ำมันเครื่องจะเข้าไปเคลือบชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ เช่น ลูกสูบ ผนังกระบอกสูบ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันการรั่วของแก๊สจากห้องเผาไหม้ และรักษากำลังอัดของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำความสะอาดเครื่องยนต์ การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ทำให้เกิดเขม่าและเศษโลหะเกาะติดตามชิ้นส่วนต่างๆ และอาจก่อให้เกิดเครื่องยนต์อุดตันได้ น้ำมันเครื่องจึงทำหน้าที่ชะล้างคราบเขม่าต่างๆ ป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเหล่านี้สะสมและก่อให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่อง 3 ประเภท เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์
เข้าใจหน้าที่ของน้ำมันเครื่องกันไปแล้ว คราวนี้มาก็ต้องมาดูกันต่อว่าน้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไร ใครที่กำลังไม่แน่ใจว่าจะใช้น้ำมันเครื่องประเภทไหนดี บอกเลยว่านอกจากการพิจารณาเรื่องราคาและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแล้ว การเลือกน้ำมันเครื่องที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หลักๆ แล้วจะมีการแบ่งน้ำมันเครื่องออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติและความแตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic)
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องเกรดพิเศษ ได้จากการสังเคราะห์ของน้ำมันปิโตรเลียมอย่างพิถีพิถัน มีอัตราการระเหยต่ำ ให้ประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงหรือรถที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ มีราคาสูง แต่มีระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายนานกว่าน้ำมันเครื่องประเภทอื่น สามารถใช้งานได้สูงสุดประมาณ 10,000-12,000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่ผสมระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) และแบบธรรมดา เป็นเกรดที่คนนิยมใช้สูงสุด เพราะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ แต่เสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา ทั้งในด้านการหล่อลื่น การป้องกันการสึกหรอ และความทนทานต่อความร้อน และยังมีระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายนานกว่าน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา สามารถใช้งานได้สูงสุดประมาณ 5,000 – 7,000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องยนต์เกรดธรรมดา (Synthetic)
น้ำมันเครื่องยนต์เกรดธรรมดา (Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่ได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันปิโตรเลียมที่เหลือจากการกลั่น มีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและป้องกันการสึกหรอในระดับพื้นฐาน และมีราคาถูกที่สุด และมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าน้ำมันเครื่องเกรดอื่น จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายบ่อยกว่า สามารถใช้งานได้สูงสุดประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่องแต่ละประเภทมีข้อดีและตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเครื่องยนต์ เสริมสมรรถนะ ช่วยให้รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาและการเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับเครื่องยนต์ นอกจากช่วยรักษาเครื่องยนต์และคงสมรรถนะของรถยนต์ให้ดีเยี่ยมอยู่เสมอแล้ว ยังถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวจากความเสียหายของชิ้นส่วนอะไหล่และเครื่องยนต์ด้วยนั่นเอง
หากจะดูแลรักษารถยนต์ให้ใช้งานได้นาน เจ้าของรถจำเป็นต้องใส่ใจทุกๆ ส่วนของรถยนต์ รวมถึงการเลือกน้ำมันเครื่องด้วย สำหรับเจ้าของรถท่านใดที่ไม่แน่ใจว่าควรดูแลรถและเลือกน้ำมันเครื่องแบบไหนดี ที่ Autobacs – ออโต้แบคส์ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มาตรฐานอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น เรามีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และมีน้ำมันเครื่องให้เลือกหลากหลายเกรด มีทีมช่างที่มากความรู้พร้อมให้คำปรึกษาและตรวจเช็กสภาพรถครบวงจร ด้วยกว่า 90 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเครื่องยนต์หรือต้องการบำรุงรักษารถยนต์ นึกถึงเรา Autobacs – ออโต้แบคส์ ครบ-เคลียร์-จบ ในที่เดียว
สอบถามหรือเช็กบริการกับ AUTOBACS ได้ที่
AUTOBACS Call Center: 065-504-8000
Line Official : @autobacsthailand
Website: https://www.autobacs.co.th