จังหวะนี้ไม่มีเมนูไหนฮิตไปกว่านี้แล้วจ้า กับเมนู ทีรามิสุ (tiramisu) ขนมสัญชาติอิตาเลียน ที่คอขนมฝรั่งน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นขนมหวานที่ผสมผสานระหว่างความหวานครีมมาสคาร์โปเนและความขมอย่างลงตัวของโกโก้และกาแฟ เสิร์ฟมาหลายชั้นพร้อมกับเลดี้ฟิงเกอร์ที่แช่อยู่ในกาแฟนุ่มๆ ความแตกต่างของรสชาติและเนื้อสัมผัสทำให้รู้สึกฟินเหมือนอยู่ในความฝัน ส่วนวัตถุดิบและขั้นตอนการทำจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย!
วัตถุดิบการทำเลดี้ฟิงเกอร์
- Ladyfingers (เลดี้ฟิงเกอร์) สำเร็จรูป
- ผงกาแฟอิตาเลียน 1 ถ้วย (ไม่ใส่น้ำตาล)
- ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
- ชีสมาสคาร์โปเน 250 กรัม
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 25 กรัม
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
ส่วนผสมทีรามิสุ
เริ่มขั้นตอนแรกโดยการใส่ชีสมัสคาร์โปนและน้ำตาลลงในชามผสม จากนั้นให้ตีส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ตามด้วยการใส่กลิ่นวานิลลาและวิปปิ้งครีมลงไป ตีส่วนผสมต่อไปเรื่อยๆ จนได้ครีมที่ข้น เหนียว แต่แนะนำว่าอย่าตีนานเกินไปเพราะจะทำให้ครีมแตกตัวได้
ส่วนผสมกาแฟ
มาต่อกันที่ส่วนผสมของกาแฟ ผสมน้ำร้อน กาแฟ และน้ำตาล(เล็กน้อย)ในภาชนะ จากนั้นคนจนน้ำตาลละลาย แล้วพักทิ้งไว้
ประกอบร่างทีรามิสุ
แช่เลดี้ฟิงเกอร์ในกาแฟสัก 2-3 วินาที แล้วจัดวางที่ก้นภาชนะ จะใช้เป็นแก้วเล็กๆน่ารัก หรือใช้เป็นพิมพ์เค้กก็ได้ จากนั้นโรยทับผงโกโก้ ตักส่วนผสมมาสคาร์โปนครึ่งหนึ่งใส่แก้ว ทำซ้ำกับเลดี้ฟิงเกอร์อีกชิ้นและครีมที่เหลือ จากนั้นปาดหน้าให้เรียบแล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เซตตัวประมาณ 4-5 ชั่วโมง (ทีรามิสุแบบแช่เย็นจะมีเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่าทีรามิสุแบบไม่แช่เย็น สามารถเลือกได้ตามใจชอบ)
หากต้องการตักเสิร์ฟ ให้โรยผงโกโก้ไว้ด้านบนก่อนเสิร์ฟ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จ พร้อมทานจ้า
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับเมนูทีรามิสุ (tiramisu) ขนมสัญชาติอิตาเลียน ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งขนมชนิดนี้ เป็น 1 ในเค้กไม่กี่ชนิด ที่ไม่ต้องใช้เตาอบ ทำให้เป็นขนมหวานที่สามารถทำได้ง่าย ทำตามได้ไม่ยุ่งยาก ใครลองเอาไปทำแล้วมีความเห็นยังไงมาแชร์กันได้เลยนะ แล้วพบกันใหม่ในเมนูถัดไปนะ บ๊ายบายย~ ✨
ขอบคุณรูปภาพจาก
ภาพปกโดย freepik
ภาพประกอบบทความโดย freepik
ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
