Home
|
ไลฟ์สไตล์

รู้จัก ‘นิ่วในระบบปัสสาวะ’ ปัสสาวะลำบาก ปวดท้องบ่อยเสี่ยงเป็นนิ่วหรือเปล่า

Featured Image

โรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะ เป็นโรคที่เราเคยได้ยินชื่อกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะมาในรูปแบบคำเตือนว่า หากดื่มหรือกินน้ำน้อย กินอาหารหรือดื่มน้ำไม่สะอาด รวมถึงชอบอั้นปัสสาวะนานๆ บ่อยๆ จะเสี่ยงเป็นโรคนิ่วที่มีอาการสำคัญอย่างปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะสีเข้ม หรือปวดท้องรุนแรง ทำให้หลายคนเมื่อเริ่มมีอาการเหล่านี้เกิดความกังวลใจว่า ตัวเองกำลังเสี่ยงเป็นนิ่วอยู่หรือเปล่า แล้วหากเป็นนิ่วขึ้นมาจริงๆ จะเป็นอันตรายไหม? ในบทความนี้เลยขอพาทุกคนมาทำความรู้จัก โรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะกันให้มากขึ้น มาดูกันว่าสาเหตุและอาการที่แท้จริงของนิ่วในระบบปัสสาวะคืออะไร รวมไปถึงวิธีป้องกัน ดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ด้วย ตามไปดูกัน!  

นิ่วในระบบปัสสาวะคืออะไร

โรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะ เป็นโรคที่เกิดอาการผิดปกติกับระบบขับถ่ายออกเสีย คือผลึกที่ตกตะกอนในน้ำปัสสาวะจากของเสียในร่างกายที่โดยปกติจะถูกขับออกทางเลือดที่ผ่านกรองจากไต ตกลงมาแล้วเป็นน้ำปัสสาวะและละลายเป็นน้ำ เกิดความผิดปกติขึ้นจนมาอุดตันที่บริเวณทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ ไต กรวยไต ท่อปัสสาวะ จนทำให้ปัสสาวะได้ลำบาก ปัสสาวะไม่ออก หรือปวดท้องเสียดนั่นเอง ทั้งนี้อาการและความรุนแรงอาจขึ้นอยู่กับบริเวณตำแหน่งของนิ่วด้วย 

อาการของนิ่วในระบบปัสสาวะ

สำหรับอาการของโรคนิ่วและนิ่วในระบบปัสสาวะอาจมีอาการที่แสดงที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับขนาดของนิ่ว ตำแหน่งของนิ่วที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการอุดตันของทางเดินปัสสาวะด้วย แต่โดนทั่วไปแล้วผู้ที่เป็นนิ่ว หรือมีนิ่วในระบบปัสสาวะมักพบอาการสำคัญดังนี้ 

  • ปัสสาวะลำบาก
  • ปัสสาวะมีเลือดปน
  • ปัสสาวะมีสีขุ่น 
  • รู้สึกปวดบั้นเอว
  • รู้สึกปวดท้องเฉียบพลันอย่างรุนแรง
  • คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ 

หากใครที่พบว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ มักเกิดอาการขึ้นซ้ำๆ ยิ่งในขณะที่ปวดปัสสาวะก็อาจสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่ากำลังเสี่ยงเป็นโรคนิ่ว หรือเป็นนิ่วในระบบปัสสาวะอยู่ก็เป็นได้ ทั้งนี้เพื่อความชัวร์แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ 

เช็กสาเหตุของนิ่วในระบบปัสสาวะ

ถัดมาเรามาดูสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดนิ่วในระบบปัสสาวะกันดีกว่า คำเตือนที่ว่า หากดื่ม หรือกินน้ำน้อย กินอาหาร น้ำไม่สะอาด รวมถึงชอบอั้นปัสสาวะนานๆ บ่อยๆ จะเสี่ยงเป็นโรคนิ่วนั้นจริงหรือไม่? มาเช็กลิสต์สาเหตุแต่ละข้อไปพร้อมกันได้เลย 

ดื่มน้ำน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 

การดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเกิดนิ่วในระบบปัสสาวะจริง โดยเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนสูง ร่างกายสูญเสียเหงื่อมาก แต่ไม่ได้รับน้ำไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ หรือทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไป น้ำปัสสาวะจะมีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้สารต่างๆ ตกผลึกและรวมตัวกันกลายเป็นก้อนนิ่วได้ง่ายขึ้น 

ดื่มน้ำไม่สะอาด

แม้จะดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่การดื่มหรือกินน้ำไม่สะอาดก็อาจทำให้เป็นนิ่วในระบบปัสสาวะได้เช่นเดียวกัน ด้วยน้ำที่ไม่สะอาดอาจมีมีสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อย่างแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ปรสิต สารเคมีบางประเภท รวมไปถึงมีความเข้มข้นของแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไป เช่น  แคลเซียม แมกนีเซียม หรือออกซาเลต ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในระบบทางเดินปัสสาวะ นำไปสู่การอักเสบ หรือก่อตัวเป็นก้อนนิ่วขึ้นมานั่นเอง 

กินอาหารที่ไม่สะอาด มีโซเดียมสูง ปรุงรสเค็มจัด

การกินอาหารที่ไม่สะอาดและมีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป หรืออาหารสำเร็จรูป รวมไปถึงการกินเนื้อสัตว์ที่มากเกินไป หรือปรุงไม่สุก ส่งผลต่อไตและระบบทางเดินปัสสาวะ เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เกิดการคั่งของน้ำและเกลือในอวัยวะต่างๆ ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงและเพิ่มการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ สารตกค้างในปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงขึ้น และทำให้เกิดการตกผลึกและรวมตัวกันกลายเป็นก้อนนิ่วขึ้นมาได้ 

น้ำหนักตัวมากเกินไป

หากมีน้ำตัวเกินมากเกินไป หรือเกินเกณฑ์มาตรฐาน อาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลไม่สมดุล อาจทำให้การทำงานของไตและถุงน้ำดีลดลง และทำให้เกิดการสะสมของสารตกค้างในระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วได้เช่นเดียวกัน  

โรคทางพันธุกรรมบางอย่าง

โรคทางพันธุกรรมบางอย่างสามารถส่งผลให้เกิดนิ่วในระบบปัสสาวะได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกรณีที่มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่ว ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นนิ่วมักมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปในการพัฒนานิ่วในไตหรือทางเดินปัสสาวะ

ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เป็นนิ่วในระบบปัสสาวะ

ได้รู้สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า นอกเหนือจากเรื่องปัจจัยของพันธุกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ปัจจัยในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินก็มีผลอย่างมาก อย่างในเรื่องของอาหารการกินและการดื่มน้ำ หากใครที่ไม่อยากเผชิญกับโรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะที่ทำให้ปัสสาวะได้ลำบาก ปวดท้อง หรือทำให้ระบบขับถ่ายผิดปกติไปจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพในระยะยาว ลองมาปรับพฤติกรรมและเลือกอาหารการกินให้มากขึ้น เพื่อป้องกันดังนี้ 

ดื่มน้ำสะอาดและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

อย่างที่เราบอกไปว่าการดื่ม หรือกินน้ำไม่สะอาด รวมถึงร่างกายขาดน้ำอาจทำให้เป็นนิ่วในระบบปัสสาวะ ฉะนั้นควรมองหาแหล่งน้ำดื่มที่สะอาด อย่างการเลือกซื้อน้ำดื่มที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน หรือเลือกติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่มีคุณสมบัติช่วยดักจับสิ่งปนเปื้อน เช่น มีไส้กรองหลายชั้น โดยมีทั้งชั้นกรองหยาบ ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมอนุภาคขนาดใหญ่ ชั้นกรองละเอียด ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมอนุภาคขนาดเล็ก ไมโครพลาสติก แร่ใยหินที่เป็นอันตรายกับร่างกาย นอกจากนี้ควรคงแร่ธาตุที่จำเป็นเอาไว้ได้ครบด้วย เพราะอย่าลืมว่า เราต้องการน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อให้ร่างกายดึงไปใช้ระโยชน์ และคงความสมดุลการทำงานของอวัยวะ โดยปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการนั้น ควรดื่มให้ได้ปริมาณ 2.5-3 ลิตรต่อวัน

กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด 

อย่าลืมให้ความสำคัญกับอาหารการกิน เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารปรุงสุก กินผักและผลไม้ ลดการกินเนื้อสัตว์ที่มากเกินไป และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีโซเดียมสูง มีกรดยูริกสูง เพราะจะทำให้เกิดการคั่งของน้ำและเกลือในอวัยวะต่างๆ เพิ่มโอกาสการเป็นนิ่วได้ 

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

การออกกำลังกายช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือดและน้ำในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้กระบวนการขับถ่ายของเสียและสารพิษมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ปัสสาวะมีความเจือจางและลดความเข้มข้นของสารก่อนนิ่วในปัสสาวะ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีลดการสะสมไขมัน และน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ทำให้เกิดการสะสมของสารตกค้างในระบบทางเดินปัสสาวะด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับ โรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะที่เรานำมาฝาก จะเห็นได้ว่าโรคนิ่วนี้ ถือเป็นโรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน เพราะมีสาเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างเรื่องอาหารการกินและการดื่มน้ำ ที่หากกินอาหารไม่สะอาด ดื่มน้ำไม่สะอาด ไม่ได้รับในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาจทำให้ระบบขับถ่ายของเสียเราทำงานผิดปกติไป จนทำให้เกิดการอุดตันจนปัสสาวะได้ลำบาก ปวดท้อง หรือบางคนอาจเกิดอาการรุนแรงจนส่งผลอันตรายก็เป็นได้ ฉะนั้นแนะนำให้ใส่ใจกับทุกๆ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ลองปรับเปลี่ยนสักเล็กน้อย ไม่ว่าจะดื่มน้ำให้มากขึ้น มองหาแหล่งน้ำสะอาดที่มั่นใจได้ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับรองห่างไกลจากโรคนิ่ว หรือนิ่วในระบบปัสสาวะได้แน่นอน

 

ส่วนใครที่กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำ ทางเลือกน้ำดื่มสะอาดที่มั่นใจได้ พร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เราขอแนะนำเครื่องกรองน้ำ eSpring™ ที่มาพร้อมชุดไส้กรองคาร์บอน e3 และหลอด UV-C LED นวัตกรรมใหม่สุดล้ำที่ช่วยกรองและดักจับสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองโดย NSF มาตรฐาน NSF/ANSI ที่ 55 ในการกำจัดจุลินทรีย์ Class B ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สามารถฆ่าเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียได้มากถึง 99.99%*, ** สามารถคงแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์เอาไว้ได้ครบ ให้น้ำรสชาติดี 

 

* เครื่องกรองน้ำ อีสปริง ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับน้ำประปาที่ผ่านการบำบัดเพื่อการบริโภคแล้วเท่านั้น ไม่มีผลในการป้องกันหรือบรรเทาโรค

เหนือจากในมาตรฐาน NSF ก็ได้รับการรับรองจาก NSF International

** ผ่านการทดสอบโดยห้องทดลองอิสระตามมาตรฐาน NSF/ANSI 55 โดยใช้ qBeta bacteriophage เป็นเชื้ออ้างอิงในการทดสอบ

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube